กรมอนามัยระบุผัก 10 ชนิด มีสารตกค้างมากที่สุด ก่อนกินต้องล้างให้สะอาด

พัฒนาการเด็กและสุขภาพลูกวัย 0-1 ขวบ
JESSIE MUM

สุขภาพจะดีได้ อาหารการกินต้องดีด้วย ดีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่าต้องเป็นอาหารที่มีราคาแพงนะคะ แต่ควรเป็นอาหารที่สะอาด ถูกหลักอนามัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ลูกอ่อนที่ต้องดูแลทั้งสุขภาพของตัวเองและลูกน้อย ทำอาหารเองอยู่ที่บ้าน การนำผักมาประกอบอาหาร คุณแม่ต้องล้างให้สะอาด ล่าสุดกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้ออกไปสำรวจผักในท้องตลาด และพบว่ามีผักสดจำนวน 10 ชนิดที่มียาฆ่าแมลงตกค้างในปริมาณที่มาก หากร่างกายได้รับเข้าไปก็จะเกิดการสะสมในร่างกาย ส่งผลให้หัวใจวายและก่อให้เกิดมะเร็งได้ค่ะ

ผัก 10 ชนิดที่มีสารเคมีในปริมาณที่สูง

  1. กวางตุ้ง
  2. คะน้า
  3. ถั่วฝักยาว
  4. พริก
  5. แตงกวา
  6. กะหล่ำปลี
  7. ผักกาดขาวปลี
  8. ผักบุ้งจีน
  9. มะเขือ
  10. ผักชี

อาการของผู้ที่ได้รับสารเคมีตกค้างจากผักเป็นจำนวนมาก

ในบางรายหากร่างกายได้รับสารเคมีที่ตกค้างจากผักในปริมาณมาก ๆ จะมีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด ท้องร่วง หากมีอาการรุนแรงมากอาจทำให้หัวใจวายได้ แต่สำหรับในบางรายที่ได้รับสารเคมีน้อย ๆ แต่เป็นระยะเวลานาน นั่นหมายความว่า ร่างกายจะค่อย ๆ สะสมสารเคมีนี้ในร่างกายไว้ จนสุดท้ายอาจกลายเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้

นอกจากนี้ กรมอนามัยยังมีการตรวจพบสารปนเปื้อนของ “เชื้ออีโคไลและเชื้อซาลโมเนลลา” ซึ่งเป็นเชื้อตัวการที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะผู้ที่นิยมทานแบบผักสด ๆ อาทิ ผักกาดหอม ต้นหอม ผักชี กะหล่ำปลี ผักชีฝรั่ง โหระพา สะระแหน่ ใบบัวบก ถั่วพู แตงกวา ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่มีเชื้อที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารได้ทั้งสิ้น

วิธีล้างผักให้สะอาดก่อนกินหรือก่อนนำมาทำอาหาร

  • ล้างด้วยน้ำเปล่าสะอาด โดยแช่ในน้ำก่อนเป็นเวลา 15 นาที จากนั้นเปิดก๊อก ให้น้ำไหลผ่าน ล้างด้วยที่ไหลผ่านนี้ พร้อมคลี่ใบถูไปถูมาเป็นเวลานาน 2 นาที วิธีนี้สามารถลดสารเคมีตกค้างได้ 30%
  • นำผักที่จะกินหรือจะนำไปประกอบอาหารไปแช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชู 5 เปอร์เซ็นต์ ในอัตราส่วน น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำเปล่าสะอาด 4 ลิตร โดยนำผักไปแช่ไว้เป็นเวลานานกว่า 15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง วิธีนี้สามารถกำจัดสารเคมีตกค้างได้ประมาณ 29-38%
  • ล้างผักด้วยโซเดียมคาร์บอเนต (เบคกิ้งโซดา) ในอัตราส่วน ครึ่งช้อนโต๊ะ ต่อน้ำเปล่าสะอาด 10 ลิตร แช่ทิ้งไว้เป็นเวลานานกว่า 15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
  • ล้างด้วยด่างทับทิม เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำกันมาช้านานและยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยใช้ด่างทับทิมประมาณ 25 เกล็ด ผสมกับน้ำสะอาดประมาณ 4 ลิตร นำผักไปแช่ไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง วิธีนี้สามารถลดสารเคมีที่ตกค้างในผักได้ 35-43%
  • ปอกเปลือกผักออกก่อน โดยผักที่สามารถปอกเปลือกออกหรือลอกเปลือกออกได้ก่อนก็มี อาทิ ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ซึ่งคุณแม่สามารถลอกเปลือกนอกออกก่อนได้ วิธีนี้สามารถลดสารเคมีตกค้างได้มากถึง 72% เลยทีเดียว จากนั้นให้นำผักไปแช่น้ำเปล่าสะอาดสัก 15 นาที หรือจะผสมน้ำส้มสายชู หรือด่างทับทิมตามสะดวก
  • ล้างในน้ำเกลือ นำเกลือป่นในอัตราส่วน 1 โต๊ะ ผสมกับน้ำเปล่าสะอาด 4 ลิตร นำผักไปแช่ทิ้งไว้ในน้ำเกลือนานประมาณ 15 นาที แล้วนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง หากคุณแม่ใช้วิธีนี้ จะทำให้สารเคมีที่ตกค้างในผักถูกชะล้างออกไปได้ประมาณ 27-38%
  • หลังจากคุณแม่ล้างผักให้สะอาดมาระดับหนึ่งแล้ว การลวกผักก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถลดปริมาณสารเคมีตกค้างได้ โดยนำผักไปลวกด้วยน้ำร้อน วิธีนี้สามารลดสารเคมีตกค้างได้ 50% ซึ่งการต้มผักสามารถลดปริมาณสารเคมีตกค้างได้ 50% เช่นกัน

จากที่กล่าวมาทั้งหมดคุณแม่สังเกตอะไรไหมคะว่าเราไม่สามารถกำจัดสารพิษที่ตกค้างได้ 100% แต่อย่างน้อยการล้างผักก็ทำให้ร่างกายของเราได้รับสารเคมีในปริมาณที่น้อยลงหากเทียบกับการที่ไม่ล้างเลยหรือล้างด้วยระยะเวลาที่น้อยเกินไป เพราะฉะนั้นคุณแม่ก็รักษาสุขภาพตัวเอง ลูกน้อย และคนในครอบครัว เพื่อจะได้มีชีวิตยืนยาว มองดูลูกเติบโตไปอย่างแข็งแรงนะคะ

อ้างอิง
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
Sanook.com
Campus-star.com

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP