การนอน คืออาหารสมองของลูก พร้อมสิ่งที่ผู้ปกครองไม่ควรทำกับลูก

พัฒนาการเด็กและสุขภาพลูกวัย 0-1 ขวบ
JESSIE MUM

กิน นอน เล่น กิน นอน เล่น” วนไป เด็กเล็กๆ มักมีกิจกรรมหลักๆ อยู่ไม่กี่อย่างดังที่กล่าวมาข้างต้น แต่…คุณพ่อคุณแม่รู้หรือไม่คะว่า หนึ่งในกิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่มองว่าเป็นกิจกรรมที่วนไปวนมานั้นมันมีความสำคัญกับเด็กมาก สิ่งนั้นก็คือ “การนอน” นั่นเอง การนอนของเด็กแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญมาก คุณพ่อคุณแม่ควรที่จะต้องรู้ว่าเด็กแต่ละวัยนั้นควรนอนให้ได้วันละกี่ชั่วโมง พร้อมทั้งสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำและไม่ควรทำกับลูก วันนี้เราจะมาดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

Youtube : การนอน คืออาหารสมองของลูก พร้อมสิ่งที่ผู้ปกครองไม่ควรทำกับลูก

การนอนของเด็กเล็กในแต่ละช่วงวัย

การนอนทำให้ร่างกายได้พักผ่อน สามารถสร้างภูมิต้านทานโรคได้

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาอธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับการนอนของเด็กเล็กในแต่ละช่วงวัยไว้ว่า

การนอนของเด็กให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความสำคัญมาก เพราะการนอนนับเป็นอาหารสมองของเด็ก การนอนทำให้ร่างกายได้พักผ่อน สามารถสร้างภูมิต้านทานโรคได้ ทำให้อารมณ์ของเด็กสดชื่นแจ่มใส เป็นเด็กที่มีอารมณ์ดี คิดอ่านอะไรก็หลักแหลม คิดได้ไว นอกจากนี้หากเด็กนอนหลับได้อย่างเพียงพอ จะช่วยให้เค้าจดจำสิ่งต่างๆ ที่ได้เรียนรู้ไปอย่างแม่นยำอีกด้วย

การนอนที่เพียงพอของเด็กแต่ละช่วงวัย

ทารกวัยแรกเกิด

การนอนที่เพียงพอของทารกวัยแรกเกิด
หากวัยนี้คุณพ่อคุณแม่เห็นว่าลูกมีอาการหลับๆ ตื่นๆ บ่อยก็ไม่ต้องกังวลใจนะคะ เพราะเป็นธรรมชาติของเด็กวัยนี้ค่ะ แต่โดยรวมแล้วเด็กควรที่จะได้นอนประมาณวันละ 15 ชั่วโมงต่อวัน (ไม่เกินจากนี้)

ทารกวัย 3 เดือน

การนอนที่เพียงพอของทารกวัย 3 เดือน
วัยนี้จะเริ่มมีการเปลี่ยนเล็กน้อย คือ จะนอนในช่วงกลางคืนมากหน่อย และนอนน้อยลงในช่วงกลางวัน แต่รวมๆ แล้วก็ไม่เกินวันละ 15 ชั่วโมงต่อวัน

ทารกวัย 4 เดือน

การนอนที่เพียงพอของทารกวัย 4 เดือน
สำหรับวัยนี้จะเริ่มหลับกลางคืนได้ยาวนานมากขึ้นประมาณ 6 ชั่วโมง เพราะเด็กสามารถแยกแยะได้แล้วว่าช่วงเวลาไหนคือกลางคืนและช่วงไหนคือกลางวัน

ทารกวัย 6 เดือน

การนอนที่เพียงพอของทารกวัย 6 เดือน
วัยนี้สามารถหลับในเวลากลางคืนได้นานถึง 10 ชั่วโมง แต่ก็อาจมีตื่นกลางคันบ้าง ซึ่งทารกบางคนสามารถหลับต่อได้เอง แต่บางคนก็ต้องการการกล่อม แต่โดยรวมแล้วทารกต้องการการนอนโดยประมาณที่ 14 – 15 ชั่วโมงต่อวัน

ทารกวัย 1 ปีขึ้นไป

การนอนที่เพียงพอของทารกวัย1ปีขึ้นไป
เมื่อเด็กเริ่มเข้าสู่วัย 1 ปีขึ้นไป การนอนก็จะเริ่มน้อยลง โดยรวมเด็กจะต้องการการนอนที่ประมาณ 14 ชั่วโมงต่อวัน และเมื่อโตขึ้นความต้องการในเรื่องการนอนหลับก็จะน้อยลงเป็นลำดับ เช่น เมื่อเด็กอายุได้ 2 ขวบ ต้องการการนอน 12 – 13 ชั่วโมง เมื่อวัย 3 ขวบ ความต้องการการนอนจะลดลงเหลือ 12 ชั่วโมง และการนอนในช่วงเวลาบ่ายจะเลิกไปเมื่ออายุได้ 3 – 4 ปี และเมื่อเด็กเข้าอายุ 5 ขวบ เด็กต้องการเวลาในการนอนเพียง 11 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น

เด็กวัยเรียน

การนอนที่เพียงพอของเด็กวัยเรียน
เด็กแต่ละคนต้องการเวลาในการนอนมากน้อยต่างกัน แต่โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 9 – 12 ชั่วโมงต่อวัน แต่ข้อนี้คุณพ่อคุณแม่สังเกตได้ไม่ยากค่ะว่าลูกจะนอนพอหรือเปล่า ให้ดูที่ว่าเค้าปลุกตื่นง่ายหรือไม่ เขาผล็อยหลับตอนกลางวันหรือเปล่า แววตาเค้าดูสดใสหรือดูง่วงซึมอยู่ เป็นต้น เมื่อเอาลูกเข้านอนตอนกลางคืน เค้าสามารถหลับได้ในเวลาเพียง 15 – 30 นาท แบบนี้แสดงว่าลูกนอนไม่พอ

เทคนิคฝึกลูกให้มีนิสัยการนอนที่ดี

เทคนิคฝึกลูกให้มีนิสัยการนอนที่ดี

ลูกจะมีนิสัยการนอนที่ดีติดตัวไปจนโตได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ฝึกเค้าตั้งแต่ยังเล็กค่ะ ว่าแต่ต้องทำอย่างไรกันบ้าง ไปดูกัน

  1. พูดคุยกับลูกในทุกวันก่อนนอน ทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพื่อให้ลูกได้รู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัย
  2. ฝึกให้ลูกเข้านอนและตื่นนอนตรงเวลาทุกวัน
  3. สร้างบรรยากาศในห้องให้น่านอน เช่น ถ้าเป็นเด็กเล็กสามารถใช้เสียงที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ ไม่ดัง ไม่กระตุ้นให้ตื่น เน้นเป็นเสียงผ่อนคลายที่ช่วยให้เด็กหลับสบาย
  4. ทำตารางกิจกรรมระหว่างวันให้มีช่วงเวลาที่สม่ำเสมอในทุกวัน
  5. หรี่แสงไฟหรือปิดไฟในห้องนอน เมื่อได้เวลานอน และควรให้ลูกได้รับแสงแดดธรรมชาติจากดวงอาทิตย์ในเวลากลางวัน

สิ่งที่คุณพ่อคุณคุณแม่ไม่ควรทำ หากต้องการให้ลูกมีนิสัยการนอนที่ดี

สิ่งที่คุณพ่อคุณคุณแม่ไม่ควรทำ หากต้องการให้ลูกมีนิสัยการนอนที่ดี

  1. เลี่ยงกิจกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจหรือกิจกรรมที่ต้องเจอกับแสงจ้ามากๆ ในช่วง 2-3 ชั่วโมงก่อนนอน
  2. ไม่ควรให้ลูกหลับคาขวดนมหรือหลับคาเต้า (หากเด็กบางคนยังกินนมแม่อยู่)
  3. ไม่ควรให้การนอนของเด็กเกิดจากการขู่หรือการลงโทษ แต่ควรปลูกฝังให้เด็กรับรู้ว่าการได้นอนนั้น คือ ความสุข
  4. เมื่อถึงเวลานอน หลีกเลี่ยงเอาของเล่นมาเล่นก่อนนอน
  5. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนก่อนนอน เช่น ชา กาแฟ ช็อคโกแลต หรือน้ำอัดลม

การนอนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละช่วงวัยเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการนอนนับเป็นอาหารสมองชั้นเลิศของเด็กเล็ก ช่วยให้เซลสมองมีการพัฒนาและเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ เด็กๆ ก็จะเติบโตพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP