กิจกรรมฝึกพัฒนาการทางสมองเด็กวัย 5 ขวบ มีอะไรบ้าง?

พัฒนาการเด็กและสุขภาพลูกวัย 3-5 ขวบ
JESSIE MUM

เคยไหมคะที่ในช่วงแรกของการเลี้ยงลูก คุณพ่อคุณแม่มักจะใส่ใจและให้ความสำคัญกับการกระตุ้นพัฒนาการลูกมากที่สุด แต่พอลูกโตขึ้นมาได้สักหน่อย ประมาณ 5 ขวบ หลาย ๆ ครอบครัวก็เริ่มละเลยเรื่องพัฒนาการลูกไปไม่มากก็น้อย แต่รู้หรือไม่คะว่า พัฒนาการที่สมวัยและการกระตุ้นพัฒนาการของเด็กอย่างถูกต้องยังเป็นเรื่องสำคัญอยู่ เนื่องจากเป็นช่วงที่ลูกอยู่ในวัยอนุบาลเป็นวัยที่ต้องปูพื้นฐานและปูพัฒนาการด้านการเรียนรู้ต่อไปในอนาคต เพราะฉะนั้นวันนี้เราดูกันสักหน่อยดีกว่าค่ะว่ามีกิจกรรมอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมลูกบ้าง

พัฒนาการด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว วัย 5 ขวบ

โดยทั่วไปแล้ว เด็กในวัย 5 ขวบ จะเริ่มความคล่องแคล่วด้านการเคลื่อนไหวมากขึ้น กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เริ่มทำงานสอดประสานกับสายตาได้มากขึ้น ทั้งนี้ มีรายละเอียด ดังนี้

  • สามารถกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางได้อย่างสมดุล
  • มีการทำงานของสายตาที่สอดประสานกับร่างกายได้ดีมากขึ้น
  • ปั่นจักรยานสี่ล้อ หรือสามล้อได้
  • ฟันแท้เริ่มขึ้น
  • สามารถทรงตัวด้วยขาข้างเดียวได้ แม้ว่าจะหลับตา
  • ใช้ช้อนส้อมเพื่อการทานอาหารได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้น
  • สามารถจับดินสอ ระบายสี หรือเขียนได้ดีมากขึ้น
  • เริ่มวาดรูปทรงต่าง ๆ แบบง่าย ๆ ได้

กิจกรรมที่เสริมพัฒนาการทางสมอง วัย 5 ขวบ

จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าการทำงานของกล้ามเนื้อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายกับสายตาของเด็กวัย 5 ขวบนั้น เริ่มมีการทำงานที่สอดประสานกันได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นหากคุณพ่อคุณแม่ต้องกระตุ้นพัฒนาการของลูก ก็สามารถเริ่มทำได้จากกิจกรรมดังต่อไปนี้

ร้องเพลง

วิธีนี้นับเป็นอีกหนึ่งทางลัดที่จะช่วยฝึกลูกได้ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฝึกภาษาไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ ลูกจะได้ทั้งเรื่องการฟัง และการพูด ที่สำคัญ เป็นกระตุ้นพัฒนาการในเรื่องความจำได้ดีอีกด้วยค่ะ

วาดรูป

สำหรับเรื่องของการวาดรูป คุณแม่สามารถทำได้ทั้งแบบที่ให้ลูกเริ่มวาดเอง ขีดเขียนเองตามจินตนาการ หรือจะซื้อสมุดระบายสีมาให้ลูกได้ขีดเขียน ระบายสีลงไปก็ได้ค่ะ เพราะทั้งสองเป็นการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมือทั้งสิ้น ซึ่งในส่วนของสมุดระบายลูกก็จะได้เรียนรู้ในเรื่องการควบคุมกล้ามเนื้อมือ ไม่ให้ระบายสีออกนอกกรอบค่ะ

เปรียบเทียบความแตกต่าง

กิจกรรมนี้เป็นการฝึกการสังเกตและตอบโจทย์ปัญหาเรื่องความขี้สงสัยของลูกได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มง่าย ๆ จากสิ่งที่ใกล้ตัวก่อน เริ่มการเปรียบเทียบสิ่งของ 2 ชิ้น ให้ลูกพิจารณาดูว่ามีส่วนไหนที่เหมือน และมีส่วนไหนที่ต่างกันบ้าง เช่น ช้อน สีของสิ่งของ ถ้วย รูปทรงของเล่น หรือบล็อกไม้ เป็นต้น หลังจากนั้นก็ค่อยเพิ่มดีกรีเป็นการเปรียบเทียบภาพ 2 ภาพที่คล้ายกัน แต่มีจุดไหนที่ต่างกัน หรือที่เรารู้จักกันที่ว่า Photo Hunt นั่นเอง

ชวนลูกออกกำลังกาย

การชวนลูกออกกำลังโดยเฉพาะการวิ่งที่ในโล่งกว้าง เป็นสิ่งที่ถูกใจลูกเป็นที่สุดค่ะ เพราะลูกจะรู้สึกว่าตัวเองมีอิสระ ได้ปลดปล่อยความตัวเองได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญเป็นการช่วยให้ลูกได้มีพัฒนาการด้านอารมณ์และการจัดการอารมณ์ที่ดี (EQ) อีกด้วยค่ะ

อ่านหนังสือนิทาน

การอ่านหนังสือนิทานสำหรับวัย 5 ขวบนั้น ลูกจะเริ่มรู้เรื่องและเข้าใจได้มากขึ้นแล้วค่ะ ดังนั้น การจะอ่านนิทานอย่างไรให้ลูกสนใจนั้น อันดับแรกแนะนำว่าให้ลูกได้ลองเลือกหนังสือที่ลูกอยากจะฟังด้วยตัวเอง หรือถ้าใช้วิธีนี้ไม่ได้ผล ให้คุณพ่อคุณแม่เลือกได้เลยค่ะว่าต้องการปลูกฝังหรือฝึกเรื่องใดกับลูก โดยอาจเลือกตัวการ์ตูนที่ลูกชอบก็ได้ค่ะ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล

แม่โน้ต

เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่จะอ่านนิทานให้ลูกฟังแล้ว ลองชวนลูกพูดคุยและถามคำถามปลายเปิดไปด้วยก็จะเป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ เพราะจะเพิ่มความสนุก และฝึกให้ลูกได้คิด วิเคราะห์อีกด้วยค่ะ ดังนั้น แปลว่า การอ่านนิทาน เราสามารถชวนลูกอ่านไปด้วยได้นั่นเอง

กิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้นำมาแชร์กันในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นพื้นฐานสำคัญในการก้าวเข้าสู่วัยเรียนทั้งสิ้นค่ะ เนื่องจากเมื่อลูกก้าวเข้าสู่วัยเรียนนั้น ลูกต้องใช้การฟัง การคิด และการเขียนมาก ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่ละเลยในเรื่องพื้นฐานเหล่านี้แล้ว อาจทำให้ลูกรู้สึกไม่สนุกกับการเรียนได้ค่ะ

บทความ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง


วันหยุดอยากชวนลูกทำกิจกรรมแต่ไม่รู้จะทำอะไรดี? แวะทางนี้ค่ะกับ 10 กิจกรรมที่ได้ทั้งความสนุกและกระตุ้นพัฒนาการ คลิกเลย

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP