การไปโรงเรียนทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ทั้งกิจกรรมและการเรียนรู้ต่างๆ และยังช่วยให้มีพัฒนาการทางด้านสังคมอีกด้วย ซึ่งถ้าคุณจัดการกับปัญหาเด็กๆ งอแงไม่อยากไปโรงเรียนกันได้แล้วก็ยังมีอีกหนึ่งปัญหาที่เมื่อลูกไปโรงเรียนแล้วคุณจะต้องคอยเฝ้าระวังหรือหาวิธีป้องกันเอาไว้นั่นก็คือ “โรคติดต่อ” เมื่อลูกของคุณไปโรงเรียนนั่นเอง
ในโรงเรียนเพื่อนของลูกคุณย่อมมาจากหลายที่หลายบ้านแต่ละคนอาจจะได้รับเชื้อมาจากต่างที่กันและอาจจะบังเอิญติดต่อกันได้เมื่อเด็กๆ มาเล่นกันอย่างใกล้ชิด ดังนั้นถ้าลูกเกิดป่วยไปคงไม่ดีแน่เรามารู้ให้ทันโรคที่ชอบเกิดเป้นประจำเมื่อลูกไปโรงเรียนและหาวิธีป้องกันไว้จะดีกว่า
สารบัญ
โรคไหนที่ชอบติดกันเวลาไปโรงเรียน
1.โรคไข้หวัดใหญ่
โรคยอดฮิตตลอดกาลสำหรับทุกยุคทุกสมัยทุกวัยทุกที่ แต่สำหรับในโรงเรียนและกับเด็กๆ เองอาจจะเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าวัยผู้ใหญ่เพราะอาจจะไม่ได้มีการใส่ผ้าปิดปากเพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจายสู่คนอื่นแบบที่ผู้ใหญ่ทำกันเพราะเด็กๆ ต้องงอแงแน่นอนถ้ามีอะไรไปปิดปากเขาไว้ทั้งวัน
โรคนี้สามารถติดได้ง่ายดายเพราะมันจะมีเชื้อลอยมาในอากาศติดผ่านมาเข้ามาทางลมหายใจที่บังเอิญพัดมาโดนพอดีนั่นแหละบ่อเกิดอาการต่างๆ เช่น การไอ จาม ละอองน้ำมูก น้ำลาย อาการคือ ไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดหัว เมื่อยตัว อ่อนเพลียมาก คัดจมูก เจ็บคอ แน่นอนว่าเด็กๆ จะต้องไม่สนุกและสับสนมากแน่ๆ เมื่อต้องเจอกับอาการแบบนี้
แต่การรักษานั้นอย่างแรกก็คือการพาไปพบแพทย์และอาจจะต้องลาโรงเรียนสักพักเพื่อที่จะรักษาให้หายขาดและไม่กลายไปเป็นคนแพร่เชื้อให้กับเด็กคนอื่นๆ ต่อไป
2.โรคท้องร่วง
โรคนี้จะเกิดจากไวรัสซึ่งเด็กๆ จะเป็นกันง่ายมากเพราะเชื้อโรคจะผ่านเข้ามาจากทางปากและเข้าไปติดเชื้อในร่างกาย อาการของโรคนี้ก็คือ ถ่ายเป็นน้ำ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดหัว มีไข้ บางรายมีน้ำมูกหรือไอรวมด้วย แต่บางรายมีอาการรุนแรงร่างกายเสียน้ำมากจนมีอาการขาดน้ำกันเลยทีเดียว
เมื่อเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นคุณพ่อคุณแม่ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการขาดน้ำซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจจะมีผลถึงแก่ชีวิตได้เลยทีเดียว
3.โรคตาแดง
การรักษาความสะอาดเมื่อเด็กๆ ต้องออกไปใช้ชีวิตเองดูจะเป็นเรื่องยากอยู่พอสมควรจึงทำให้เด็กๆ เป็นโรคนี้ได้ง่ายเพราะมันเกิดจากการที่มือไปสัมผัสเชื้อแล้วนำมาขยี้ตา ทำให้ดวงตาเกิดติดเชื้อขึ้นมาจนทำให้เกิดอาการมีขี้ตามาก น้ำตาไหล เจ็บแสบตา มีตุ่มขึ้นบริเวณดวงตา และมีเลือดออกใต้เยื่อบุตาได้เลยทีเดียว
โรคตาแดงส่วนใหญ่ก็มักจะเกิดกับเด็กๆ ที่มีอาการของโรคไข้หรือโรคหวัดมาก่อนอีกด้วย แต่วิธีป้องกันนั่นก็คือการหมั่นปลูกฝังลูกว่าไม่ให้ขยี้ตาและให้ลูกหมั่นคอยล้างมือทำความสะอาดอยู่เสมอนั่นเอง
4.โรคเหา
ฮิตที่สุดที่เด็กๆ แถบจะทุกคนโดยเฉพาะเด็กผู้หญิงจะได้เคยสัมผัสมา มักจะเป็นโรคที่เกิดจากความสนิทชิดเชื้อและใกล้ชิดของเด็กๆ นั่นเอง ทำให้เกิดการติดต่อของเหา ซึ่งเหาจะทำให้เกิดอาการคันตามศีรษะ จนทำให้เด็กๆ ต้องเกาทำให้เกิดเป็นตุ่มนูนแดงและกลายเป็นสะเก็ดได้
วิธีป้องกันก็คือการหมั่นดูแลอุปกรณ์ของลูกให้มีความสะอาดอยู่เสมอและเมื่อเห็นว่าลูกมีเหาก็สามารถรักษาได้ด้วยสมุนไพรอย่างมะกรูดหรือยาสระผมที่ใช้เพื่อฆ่าเหาโดยเฉพาะก็ได้เช่นกัน
5.โรคหูและคออักเสบ
เกิดจากอาการหวัดที่เด็กๆ เป็นติดต่อกันจนเป็นเรื้อรังนั่นเอง ทำให้หูส่วนกลางและคอมีการอักเสบขึ้นมาได้ และอาจจะลามไปจนทำให้มีไข ทำให้เกิดแผลในปากส่งผลให้มีกลิ่นปากได้อีกด้วย
วิธีป้องกันก็คือพยายามให้ลูกไม่เป็นหวัดเพราะเมื่อเป็นหวัดก็จะเป็นสาเหตุของโรคนี้นั่นเอง คุณอาจจะหมั่นให้เขาทานวิตามินซีและผักผลไม้เสมอเพื่อเป็นภูมิต้านทานโรคหวัดนั่นเอง
เวลาทีลูกป่วยนั้นคงไม่ได้มีแต่ลูกที่ป่วยอย่างแน่นอนเพราะคุณพ่อคุณแม่ก็พลอยป่วยใจไปด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็ควรหาวิธีเพื่อมาปกป้องลูกจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และที่สำคัญเพื่อไม่ให้โรคภัยเหล่านี้มาทำให้ลูกของคุณต้องเสียเวลาในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในรั้วโรงเรียนเพราะต้องลงมานอนรักษาตัวนั่นเอง