ข้าวของเครื่องใช้หลายสิ่งหลายอย่างภายในบ้านที่ผู้ใหญ่ในบ้านอย่างเราดูแล้วว่าไม่น่าจะเป็นอันตราย แต่สำหรับลูกน้อยแล้ว บางสิ่งบางอย่างนั้นเป็นอันตรายมากกว่าที่เราคิดไว้เยอะค่ะ ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก และไม่ควรให้เด็กเล่นเลย พูดมาอย่างนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่บางท่านมีคำตอบในใจบ้างแล้ว ซึ่งเราสามารถเห็นได้ตามข่าว แต่…ยังค่ะ ยังไม่หมด วันนี้จะชวนคุณพ่อคุณแม่ดูกันค่ะ ว่ามีอะไรอีกบ้าง
สารบัญ
9 ของใช้ในบ้านที่ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก ไม่ควรให้เด็กเล่น
ของเล่นชิ้นเล็ก ๆ
ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจซื้อของเล่นให้ลูก ควรคำนึงเรื่องขนาดของของเล่นด้วยนะคะ เพราะของเล่นที่มีชิ้นเล็ก ๆ หรือสามารถแยกออกเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ได้นั้น จะเป็นอันตรายกับเด็กมาก เพราะด้วย “ความไม่รู้ จึงทำให้อยากรู้ อยากลอง” เอาชิ้นส่วนเข้าปาก เข้าจมูก ซึ่งอาจทำให้ไปอุดกั้นระบบทางเดินหายใจได้ และเมื่อไม่อากาศเข้าไปเลี้ยงสมอง อาจเสี่ยงลูกพิการหรือถ้าร้ายแรงมาก อาจเสียชีวิตได้ค่ะ
ของเล่นที่มีลักษณะเป็นยาว ๆ
ไม่ว่าจะเป็นเชือก เชือกฟาง ฯลฯ อะไรก็ตามที่ลักษณะคล้ายเชือก ที่สามารถรัดได้ เหล่านี้ลูก ๆ อาจเล่นด้วยความไม่รู้อีกเช่นกัน อาจนำมาพันรอบคอ และรัดแน่นจนแก้เชือกออกไม่ทัน ทำให้ขาดอากาศและถึงขั้นเสียชีวิตได้
อุปกรณ์เครื่องเขียนต่าง ๆ
อาทิ กรรไกร แม็คเย็บกระดาษ ดินสอกด และกาว เป็นต้น เหล่านี้คุณพ่อคุณแม่ควรเก็บให้พ้นมือเด็กนะคะ คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจบอกว่า “เล่นได้ ถ้ามีผู้ใหญ่อยู่ด้วย” แต่ความจริงแล้ว อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้เพียงชั่ววินาทีเดียว ป้องกันไว้ก่อนดีกว่านะ
สายชาร์จโทรศัพท์
สายชาร์จโทรศัพท์มันไม่ได้เป็นแค่สายยาวธรรมดา แต่เมื่อมันถูกเสียบเข้ากับปลั๊กไฟ กระแสไฟก็จะวิ่ไปตามสาย ลองคิดตามนะคะ หากคุณพ่อคุณแม่เสียบสายชาร์จทิ้งไว้โดยที่ไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือเสียบอยู่ด้วย ถ้าลูกน้อยคว้าปลายสายและเอาเข้าปากก็ทำให้ลูกน้อยบาดเจ็บได้ ถึงแม้มีการยืนยันออกมาแล้วก็ตามว่า “การที่ลูกอมสายชาร์จมือถือ ไฟดูดตาย ไม่เป็นความจริงก็ตาม” แต่ก็ควรกันไว้ดีกว่าแก้โนะ
ปลั๊กไฟ
“เอ๊ะ! รูอะไร ลองเอานิ้วเข้าไปดูดีกว่า” เพราะความอยากรู้ อยากเห็น หรือจะอยากลองก็ตาม สำหรับปลั๊กไฟแล้ว เป็นอะไรที่ควรลองอย่างยิ่ง เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกน้อยเอานิ้วแหย่เข้าไป ไฟจะดูดทันที ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่ควรหาอุปกรณ์ป้องกันมาเสียบปิดรูไฟเอาไว้ดีที่สุดค่ะ อ้อ…ดูแบบที่ปิดได้กระชับหน่อยนะคะ เพราะถ้าแกะออกง่าย ลูกจะสามารถเอาออกมาได้ง่ายเช่นกัน
ซองดูดความชื้น
ถ้าเขย่าซองดูจะมีเสียง ฟังดูน่าสนุก เหมือนเครื่องดนตรีอย่างลูกแซคเลย แต่อันนี้เบากว่า และเล็กกว่ามาก ซองนี้ถ้าแกะออกมา จะพบว่าข้างในมีเม็ดพลาสติกเล็ก ๆ เอาไว้ดูดความชื้น แต่เด็กไม่รู้จัก แม้เขาจะมีเขียนที่หน้าซองว่า “อันตราย ห้ามรับประทาน” แล้วก็ตาม เพราะเด็กอ่านไม่ออก บางครั้งถ้าฉีกซองออกมาได้แล้ว ที่เหลือก็สนุกล่ะค่ะ เอาเม็ดเล็ก ๆ นั้นเข้าปากทันที แบบนี้ก็ทำให้ลูกสำลักหรืออุดกั้นระบบทางเดินหายใจได้
เหรียญ
คุณพ่อคุณแม่คงเคยได้ยินกันบ้างใช่ไหมคะว่ามีเด็กบางคน เอาเหรียญเข้าปากแล้วติดคอ แล้วที่สำคัญ เหรียญนั้นผ่านสิ่งต่าง ๆ มามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรคที่อยู่ตามโต๊ะ ตามพื้น ฯลฯ ข้อนี้คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเก็บให้พ้นมือลูกเช่นกันนะคะ
แป้งฝุ่น
จริง ๆ แล้วส่วนตัวโน้ตเอง ไม่เคยทาแป้งฝุ่นให้ลูกตั้งแต่เกิดแล้วค่ะ เพราะพยาบาลที่โรงพยาบาลแนะนำไว้ ว่าละอองฝุ่นของแป้งจะเข้าไปรบกวนระบบทางเดินหายใจ ส่งผลให้ลูกเป็นภูมิแพ้ ซึ่งทีหนักสุดคือ ปอด ถ้าสะสมนาน ๆ เข้า อาจทำให้ลูกเป็นโรคปอดอักเสบได้ แต่ยกเว้นถ้าครอบครัวไหนที่ต้องการทาแป้งฝุ่นให้ลูก แนะนำว่า “ไม่ควรเอากระป๋องแป้งมาโรยที่ตัวลูกโดยตรง แต่ควรเทแป้งลงบนฝ่ามือคุณแม่ก่อน แล้วค่อย ๆ ทาที่ตัวลูกทีละน้อย ป้องกันการฟุ้งกระจาย หรือฟุ้งกระจายให้น้อยที่สุด”
รถหัดเดิน
ข้อนี้ก็ทำให้ลูกได้รับอันตรายกันเยอะ ถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มี และที่สำคัญ รถหัดเดินจะยิ่งทำให้พัฒนาการด้านการเดินของลูกช้าลงและลูกจะติดยืน เดินแบบเขย่งเท้าอีกด้วยค่ะ เพราะรถหัดเดินมีล้อ เพียงแค่ลูกใช้ปลายเท้าถัดไปกับพื้นนิดเดียว รถก็วิ่งแล้ว ทำให้ลูกเดินไม่เต็มเท้านั่นเอง
คุณพ่อคุณแม่อาจบอกว่าทำไมของใช้ใกล้ตัวมันดูอันตรายไปหมด จะทำอย่างไรดี เพื่อป้องกันลูกน้อยจากอันตรายเหล่านี้ คิดง่าย ๆ อย่างนี้เลยค่ะ ว่า “สิ่งไหนที่จะทำให้ลูกตกอยู่ในอันตราย ไม่ควรให้ลูกเล่น และควรเก็บให้พ้นมือเด็กค่ะ”