ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเกือบ 2 ปีนี้ ทั่วโลกต้องเผชิญกับโรคระบาดร้ายแรงที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรน่าที่ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งหนึ่งในวิธีการป้องกันที่ดีนอกเหนือจากการไม่ไปในที่เสี่ยง การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์แล้ว ยังมีในเรื่องของการสวมหน้ากากอนามัย ลำพังหน้ากากอนามัยของผู้ใหญ่นั้นมีหลายรูปแบบ เด็กที่โตขึ้นมาหน่อยก็มีจำหน่าย แต่ในส่วนของเด็กทารกหรือเด็กเล็กนี่สิ การสวมหน้ากากอนามัยส่งผลอันตรายต่อระบบประสาทกันเลยทีเดียว
ทารกและเด็กเล็กสวมหน้ากากอนามัยได้ไหม
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ได้ออกมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัยให้เหมาะสมในเด็กแต่ละช่วงวัย โดยเฉพาะกับทารกไว้ดังนี้
ทารกแรกเกิด – 1 ปี
ทารกแรกเกิดจะหายใจได้ทางเดียวคือทางจมูก เขายังไม่สามารถหายใจได้ด้วยปาก การสวมหน้ากากอนามัยให้กับทารกจะส่งผลต่อระบบหายใจ เสี่ยงต่อภาวะคาร์บอนไดออกไซด็คั่งได้ ดังนั้นเมื่อทารกขาดออกซิเจนก็จะมีโอกาสเกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งอันตรายต่อระบบประสาทของทารกได้ หรือบางรายอาจสวม Face Shield ให้กับทารกแทน แต่ก็ควรระวัง เพราะขอบของพลาสติกนั้นคม อาจบาดหน้าหรือดวงตาของลูกได้
เด็กอายุ 1-2 ปี
เด็กในวัยนี้เริ่มแสดงปฏิกิริยารำคาญได้แล้ว บางคนสามารถถอดหน้ากากอยามัยออกได้เองหากรู้สึกว่าอึดอัด การสวมหน้ากากอนามัยให้ลูกควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ควรให้ลูกสวมหน้ากากอนามัยในระยะเวลาที่สั้นที่สุด คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการของลูก หากลูกมีท่าทีที่อึดอัด หรือหายใจลำบากก็ให้เอาออกได้ และที่สำคัญ ไม่ควรสวมหน้ากากอนามัยขณะหลับ
เด็กอายุมากกว่า 2 ปี
วัยนี้สามารถสวมหน้ากากอนามัยได้ เนื่องจากสามารถถอดหน้ากากได้เองเมื่อรู้สึกอึดอัดหรือรำคาญ ยกเว้นว่าลูกของคุณพ่อคุณแม่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางสมอง หากเป็นเช่นนี้คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตและให้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
เด็กที่มีโรคประจำตัวและต้องดูแลเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบประสาท หรือระบบทางเดินหายใจบกพร่องรุนแรงที่ไม่สามารถใช้หน้ากากอนามัยได้ คุณพ่อคุณแม่ควรเพิ่มความเคร่งครัดในเรื่องระยะห่าง และการใช้รถเข็นที่มีผ้าคลุมปิด รวมไปถึงใช้เครื่องมือวิเคราะห์ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเม็ดเลือดแดงร่วมด้วย เพื่อเป็นการเฝ้าระวังด้วยก็ได้ค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง กรมอนามัย
วิธีชักชวนลูกสวมหน้ากากอนามัย
ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
เพราะลูกมักจะเลียนแบบพฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่ เมื่อคุณพ่อคุณแม่ชักชวนให้ลูกสวมหน้ากากอนามัย คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ไปกับลูกด้วย เพื่อให้ลูกไม่รู้สึกว่าโดดเดี่ยว หรือแปลกแยก และที่สำคัญ คือ คราวหน้าถ้าชวนลูกสวมหน้ากากอนามัยลูกก็อาจปฏิเสธได้ เพราะเขากลัวแปลกแยก
ชวนลูกพูดคุยขณะสวมหน้ากากอนามัย
ให้คุณพ่อคุณแม่สวมหน้ากากอนามัยพร้อมกับลูก แล้วชวนลูกพูดคุยที่หน้ากระจก ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญและข้อดีเมื่อเวลาที่เราพูดแต่ยังสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่
สวมหน้ากากอนามัยให้ตุ๊กตา
เมื่อสวมหน้ากากอนามัยให้ลูกแล้ว ก็ลองสวมให้กับตุ๊กตาหรือของเล่นตัวโปรดของลูกด้วย เพื่อที่เขาจะได้เห็นว่า ใคร ๆ ก็ใส่หน้ากากอนามัยกัน
ให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกหน้ากากอนามัย
ก่อนที่จะให้ลูกเลือกแบบนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องเลือกและคัดกรองมาให้ลูกในเบื้องต้นก่อนนะคะ เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าหน้ากากอนามัยที่ลูกจะสวมใส่นั้นมันปลอดภัย และสามารถกันเชื้อโรคต่าง ๆ ได้จริง หลังจากนั้นการรตัดสินใจสุดท้ายค่อยให้ลูกได้เป็นคนเลือก เพราะจะทำให้เขารู้สึกว่าอยากสวมใส่ และภูมิใจกับสิ่งที่เขาเลือกเอง
ให้ลูกได้ลองสวมหน้ากากอนามัยที่บ้านก่อน
หลังจากที่ซื้อหน้ากากอนามัยมาแล้ว ให้ลูกได้ลองสวมใส่ที่บ้านก่อน เพื่อสร้างความคุ้นเคยพร้อมกับเน้นย้ำถึงความปลอดภัยในการสวมใส่หน้ากากอนามัย
การสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นข้อหนึ่งจากหลาย ๆ ข้อที่มีความจำเป็นและสำคัญที่ใช้ในการป้องกันเชื้อโรค แต่จะดีที่สุด หากเราไม่พาตัวเองหรือลูกน้อยไปอยู่ในที่ที่มีความเสี่ยง หรือถ้าจำเป็นต้องไปจริง ๆ ควรรีบไปรีบกลับ พร้อมกับใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากการได้รับเชื้อไวรัสโคโรน่านะคะ