ลูกป่วยบ่อย เพราะอะไร ทำไงดี

การเลี้ยงลูกวัย 1-3 ขวบ
JESSIE MUM

เชื่อว่ามีคุณพ่อคุณแม่หลายคนคงกำลังเหนื่อยใจกันอยู่เกี่ยวกับลูกที่ป่วยบ่อยเหลือเกิน เข้าโรงพยาบาลอาทิตย์เว้นอาทิตย์กันเลยทีเดียว มันเกิดจากอะไรกันนะ แล้วจะมีวิธีเสริมภูมิกันได้อย่างไรบ้าง

ระบบภูมิคุ้มกัน คืออะไร?

ระบบภูมิคุ้มกัน หรือ Immune System คือ ระบบที่ทำหน้าที่ปกป้องเราจากสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายและส่งผลอันตรายต่อเรา ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต พยาธิ รา รวมไปถึงสิ่งแปลกปลอมชนิดอื่น เช่น เซลล์ที่กำลังจะเติบโตไปเป็นมะเร็ง หรือการได้รับเลือดผิดกรุ๊ป เป็นต้น

ระบบภูมิคุ้มกันแบ่งออกเป็น 2 ระบบ

ระบบภูมิคุ้มกันที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด (Innate Immunity)

ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่สัมผัสกับสิ่งแปลกปลอมโดยตรง เช่น ผิวหนังและเยื่อบุต่าง ๆ น้ำลาย น้ำมูก น้ำตา ความเป็นกรดของสารคัดหลั่งในช่องคลอด รวมถึงความแรงของกรดในกระเพาะ

ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นภายหลัง (Acquired Immunity)

จะเป็นในกรณีที่เชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายเราได้ เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายที่เป็นระบบภูมิคุ้มกันก็จะทำหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมดังกล่าวออกจากร่างกาย

วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ลูก

วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ลูกนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

จากน้ำนมแม่

ในน้ำนมแม่มีสารอาหารสำคัญที่หาไม่ได้จากนมชนิดอื่น มีแอนติบอดี้และเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่สำคัญในการต่อสู้กับเชื้อโรค การให้ลูกกินนมแม่ควรกินให้ได้อย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งถ้าคุณแม่และลูกน้อยสามารถกินได้นานกว่านี้จะดีมากทีเดียวค่ะ

จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์

หรือเรียกอีกอย่างว่า โพรไบโอติกส์ ที่ทำหน้าที่ช่วยขับแบคทีเรียไม่ดีออกจากร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น โพรไบโอติกส์พบมากในโยเกิร์ต บัตเตอร์มิลค์ คีเฟอร์ ซึ่งสำหรับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 7 ปี สามารถกินนมแม่ได้ค่ะ เพราะในนมแม่ก็มีโพรไบโอติกส์เช่นกัน

ผักและผลไม้

ในผักและผลไม้มีสารอาหารสำคัญหลายอย่างซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายลูก เช่น แอปเปิล แครอท ถั่ว บรอกโคลี กีวี เมลอน ส้ม และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เป็นต้น

ชวนลูกออกกำลังกาย

เพราะการให้ลูกได้ออกกำลังกายในทุกวันจะเป็นการช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกได้ ไม่ป่วยง่าย อาจะเริ่มจากกิจกรรมง่าย ๆ ก่อน เช่น การเดิน การวิ่ง จะเป็นการวิ่งเล่นก็ได้ค่ะ สักวันละ 30 นาที โดยประมาณ

ไม่กินยาฆ่าเชื้อถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ

เวลาที่ลูกน้อยไม่สบายจะมีเพียงบางโรคและบางอาการเท่านั้นค่ะ ที่ต้องอาศัยยาฆ่าเชื้อ การกินยาฆ่าเชื้อควรกินเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพราะตัวยาฆ่าเชื้อจะเข้าไปในร่างกายและจะไปฆ่าเชื้อแบคทีเรียทั้งที่ดีและไม่ดีด้วย ที่สำคัญ การรับยาฆ่าเชื้อเข้าร่างกายมาก ๆ ในระยะยาวจะทำให้ร่างกายดื้อยาอีกด้วย

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับของเด็ก ๆ คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกเข้านอนแต่หัวค่ำค่ะ เพราะชีวิตจริงแม้ว่าปิดไฟจะนอนแล้ว แต่กว่าลูกจะหลับก็ใช้เวลาไปอีกประมาณ 30 นาที ยกเว้นว่าวันนั้นลูกจะเล่นมาเหนื่อยจริง ๆ อาจเพลียแบบนี้จะหลับได้เร็ว ซึ่งการนอนหลับให้เพียงพอ ควรนอนหลับให้สนิทอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน นอกจากนี้การนอนหลับเร็วและหลับลึกนั้น จะส่งผลให้ Growth Hormone ทำงานได้ดีอีกด้วยนะคะ

หากลูกมีอาการผิดสังเกต ควรพบแพทย์

สำหรับกรณีที่ลูกป่วยอีก มีไข้ ติดต่อกันนานเกิน 3 วัน กินยาลดไข้แต่ไข้ไม่ลง ท้องเสีย หรือแหวะนม ท้องผูก มีผื่นแดงขึ้นตามข้อพับ หรือมีแผลในช่องปาก แบบนี้คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องนะคะ

เพราะอาการป่วยของลูกในบางครั้งก็อาจมีอาการอื่นแทรกซ้อนเข้ามาโดยที่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่รู้เช่นกัน ซึ่งการป้องกันไม่ให้ลูกป่วยบ่อยต้องอาศัยหลาย ๆ ปัจจัยข้างต้นที่กล่าวไป แต่เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทำได้แน่นอนค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP