มาเข้าใจการเพิ่มความสูงที่ถูกต้องให้กับลูกกันดีกว่า

การเลี้ยงลูกวัย 1-3 ขวบ
JESSIE MUM

ไม่ว่าคุณจะมีลูกสาวหรือลูกชายแน่นอนว่าคุณย่อมอยากให้เขาสูงอย่างสมส่วนสมวัยกันอย่างแน่นอนแต่การเข้าใจว่าให้ลูกกินนมอัดแคลเซียมเข้าไปเยอะๆ จะได้สูงอาจจะยังไม่ใช่ความเข้าใจที่ถูกต้องทั้งหมดและอาจจะยังไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมและส่งเสริมให้ลูกสูงได้อย่างเหมาะสม วันนี้จึงนำเคล็ดลับการเลี้ยงลูกให้สูงได้อย่างเหมาะสมมาฝากกันค่ะ

อยากให้ลูกสูงต้องเข้าใจให้ถูกจุด

1.ส่วนสูงนั้นขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์

ความสูงของลูกนั้นขึ้นอยู่กับยีนส์หลากหลายตัวที่จะส่งผลในเรื่องนี้ แต่ไม่ต้องกังวลไปว่าถ้าทั้งคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้สูงมากนักจะทำให้ลูกเตี้ยมากหรือถ้าคุณพ่อคุณแม่สูงทั้งคู่จะทำให้ลูกสูงมาก เพราะความสูงของลูกนั้นแม้จะมีส่วนมาจากคุณพ่อคุณแม่แต่ก็ขึ้นอยู่กับยีนส์ในตัวเขาที่ได้รับมาและจับคู่กันอีกทางหนึ่งด้วย ในจุดนี้อยากให้คุณพ่อคุณแม่สนใจที่จะให้ลูกสูงอย่างแข็งแรง สมวัย และเหมาะกับสัดส่วนของเขา และช่วยเสริมความมั่นใจในตัวเองในเรื่องความสูงให้กับเขาด้วย

2.เน้นให้ลูกทานอาหารที่มีประโยชน์และเพิ่มเติมแคลเซียมอย่าให้ขาด

อาหารที่ดี มีประโยชน์และเหมาะสมกับลูกมีส่วนสำคัญทำให้เขาสูงได้อย่างสมวัยไม่เพียงเน้นแต่แคลเซียมเท่านั้นคุณควรให้ลูกได้รับสารอาหารครบทั้งเกลือแร่ วิตามิน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และได้รับน้ำดื่มที่เพียงพอในแต่ละวันด้วย

และอย่างที่เข้าใจกันมานานว่าแคลเซียมคือส่วนสำคัญกับความสูงแต่ในความจริงถ้าจะให้เข้าใจอย่างถูกต้องที่สุดนั้นแคลเซียมคือตัวที่ทำให้กระดูกแข็งแรงนั่นเอง ซึ่งเมื่อกระดูกแข็งแรงไม่ต้องมาคอยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอก็จะสามารถพัฒนาความสูงได้นั่นเอง ซึ่งทางสถาบันสุขภาพแห่งอเมริกาได้เผยข้อมูลว่า เด็กวัย 1-3 ปีนั้นควรได้รับแคลเซียมวันละ 700 มิลลิกรัมต่อวัน และเด็กอายุ 4-8 ปี ควรได้รับ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน และเมื่ออายุ 9-18 ปีก็ควรขยับขึ้นมาได้รับแคลเซียมวันละ 1,300 มิลลิกรัมต่อวันอีกด้วย

3.การพักผ่อนและนอนหลับให้เพียงพอมีผลกับความสูงของลูกด้วย

ช่วงเวลาที่ลูกนอนนั้นจะมีฮอร์โมนเกี่ยวกับการเจริญเติบโตทำงานอยู่ซึ่งระยะเวลาในการนอนที่เหมาะสมกับเด็กเล็กนั้นอยู่ที่ประมาณ 10-13 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งถ้าอยากให้ลูกสูงและมีพัฒนาการต่างๆ ที่เติบโตไปตามวัยนั้นก็ควรที่จะให้ลูกนอนอย่างเพียงพอพร้อมทั้งเข้านอนเป็นเวลาในทุกวันไม่เว้นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ด้วย

4.ให้ลูกได้ขยับด้วย

สิ่งที่ดีที่สุดคือให้ลูกได้มีเวลาออกกำลังกายประมาณ 1 ชั่วโมงในแต่ละวัน เพื่อเป็นการเพิ่มความสูงและยังช่วยลดความเสี่ยงโรคอ้วนให้กับลูกได้อีกด้วย แต่ถ้ามีเวลาจำกัดอย่างน้อยหากว่างก็ควรชวนลูกหาเวลามาขยับออกกำลังกันบ้างหรืออาจจะเป็นแค่การไปเดินไปเล่น ไปเดินซื้อของก็ยังถือว่ามีประโยชน์เพื่อให้ลูกได้ทั้งในเรื่องความสูง ลดความอ้วน และฝึกพัฒนาการในการทำกิจกรรมต่างๆ ไปในตัวอีกด้วย

5.ปรึกษาแพทย์

ในกรณีนี้คือถ้าคุณสังเกตเห็นว่าลูกดูมีความสูงที่ไม่เหมาะสมกับวัยก็ควรพาไปพบแพทย์เพื่อหาแนวทางแก้ไข เพื่อที่จะได้ตรวจอย่างละเอียดว่าความจริงแล้วลูกมีความผิดปกติในร่างกายจุดใดร่วมด้วยหรือไม่ถึงทำให้ไม่สูงไปตามเกณฑ์ของวัยเขานั่นเอง

ความสูงนั้นถือเป็นเรื่องทางกายภาพที่ควรใส่ใจเพื่อตรวจดูอยู่เสมอว่าลูกมีการเติบโตที่เหมาะสมกับวัยหรือไม่รวมทั้งความสูงนั้นยังสามารถช่วยเสริมความมั่นใจให้กับลูกของคุณได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่ถ้าลูกเป็นคนที่ไม่ได้ผิดปกติอะไรแต่ไม่ได้สูงมากนักก็ควรเสริมความมั่นใจให้กับเขาเช่นกันอย่างให้เรื่องของความสูงมาทำให้เขาเสียความมั่นใจในการทำสิ่งต่างๆ ไป

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP