สอนให้ลูกยอมรับในความแตกต่าง สร้างได้โดยเริ่มที่พ่อแม่

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ
JESSIE MUM

ปัจจุบันนี้หากต้องการจะเสพข่าวสารเรื่องไหน ต้องการรู้ข้อมูลเรื่องอะไรก็สามารถทำได้สบาย ๆ เพียงปลายนิ้ว หรืออยากจะคุยกับเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เช่นกัน

เรื่องของความแตกต่าง

เรื่องของ “ความแตกต่าง” ในสังคม เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ความแตกต่างหมายรวมถึงสิ่งที่ไม่ใช่รูปลักษณ์ภายนอกด้วย อาทิ ทัศนคติ ความเชื่อ ความสุขทางใจ วิถีชีวิต การให้คุณค่าในสิ่งต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่ง…ทั้งหมดเป็นผลที่มาจาก “พันธุกรรม สภาพแวดล้อม และการเลี้ยงดู

เป็นที่รู้กันดีว่า “พันธุกรรม” เป็นอะไรที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ “การเลี้ยงดู” เป็นปัจจัยทางสภาพแวดล้อมที่คุณพ่อคุณแม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

สอนให้ลูกยอมรับในความแตกต่าง สร้างได้โดยเริ่มที่พ่อแม่

อะไร? อย่างไร? ไปติดตามกันค่ะ

พ่อแม่ให้ความรักและการยอมรับลูกอย่างปราศจากเงื่อนไข

“ความรัก” ของคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรจะเป็นเรื่องของรักแบบตามใจ ยอมลูกทุกเรื่อง แต่ความรักที่ถูกต้อง คือ ชวนลูกทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ การอ่านหนังสือนิทาน การพาลูกเข้านอนพร้อมกล่อมลูกไปด้วย การใช้เวลาคุณภาพเล่นกับลูก กอดลูก หอมลูก สอนลูกและทำงานบ้าน เป็นต้น

ส่วนการยอมรับลูกโดยปราศจากเงื่อนไข ยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็นไม่ว่าลูกจะเป็นอะไรก็ตาม ขอเพียงแค่เขามีความเป็นตัวของตัวเอง เป็นคนดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน คุณพ่อคุณแม่ก็ควรให้การสนับสนุนเขา และทำให้เขารับรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่อยู่เคียงข้างเขาเสมอ

พ่อแม่ที่ฝึกให้ลูกทำอะไรได้ด้วยตัวเอง

คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้ทำอะไรด้วยตัวเอง ช่วยเหลือตัวเอง โดยที่คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่คาดหวังผลที่สูงนัก ถ้าจะหวัง ก็ให้หวังเพียงว่าลูกจะสามารถเรียนรู้ในสิ่งต่าง ๆ กระบวนการที่ควรเกิดขึ้นตามขั้นตอน และหวังให้ลูกได้ฝึกฝนจนเกิดความเชี่ยวชาญก็พอ ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาค่ะ

พ่อแม่ที่ปลูกฝังให้ลูกเคารพกฎ 3 ข้อ

3 ข้อที่ว่า ก็คือ

  • การรักตัวเอง เห็นคุณค่าของตัวเองให้มากพอที่จะไม่ทำร้ายตัวเอง
  • ไม่ทำร้ายผู้อื่น และ
  • ไม่ทำลายข้าวของ

เพราะกฎทั้ง 3 ข้อนี้ นับเป็นกฎพื้นฐานที่จะสอนให้ลูกเรียนรู้การเคารพตนเองและผู้อื่น

พ่อแม่ที่สอนให้ลูกรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง

สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรทำคือ เมื่อลูกกระทำผิดแล้วตำหนิหรือต่อว่าด้วยอารมณ์ทันที แต่คุณพ่อคุณแม่ควรตั้งสติก่อน และพาลูกมารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น สอนลูก พูดกับลูกด้วยท่าทีที่อ่อนโยน จับมือเขาทำ และสอนให้ลูกขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

เขาจะได้เรียนรู้เรื่องความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่หนีปัญหาเพราะ “ความกลัวที่คุณคุณพ่อคุณแม่สร้างขึ้น เมื่อเวลาที่ลูกทำผิด

พ่อแม่ที่ปกป้องสิทธิของลูก และสอนให้ลูกเคารพสิทธิของผู้อื่น

เมื่อมีคนมาละเมิดสิทธิของลูกเราในวันที่ลูกเรายังไม่สามารถปกป้องสิทธิของตัวเองได้ คุณพ่อคุณแม่ต้องทำหน้าที่ปกป้องสิทธิให้กับลูกด้วยนะคะ เช่น ถ้าหากลูกเป็นคนที่ไม่ชอบให้คนอื่นมาสัมผัสตัวเขา จับมือเขา หรือหอมแก้มเขา คุณพ่อคุณแม่ควรปฏิเสธแทนลูก ไม่ใช่เกรงใจ และยอมให้คนอื่นกระทำกับลูกในสิ่งที่เขาไม่ชอบ คุณพ่อคุณแม่ควรทำให้ลูกได้เรียนรู้ว่าร่างกายเป็นของเขา เขามีสิทธิที่จะปกป้องร่างกายของตนเอง

การที่เราจะสามารถ “ยอมรับ” อะไรได้ซักเรื่อง ควรเริ่มต้นจาก “ความเข้าใจ” ก่อน เพราะถ้าเราไม่เปิดใจ ไม่ทำความเข้าใจ เราก็จะกลายเป็นคนที่มองหาแต่ความบกพร่องของคนอื่นอยู่เสมอ แต่…ถ้าหากเรา “ยอมรับ” ได้ก่อน แม้ว่าสิ่งนั้นไม่ได้ถูกใจเราไปทั้งหมด แต่มันก็จะนำไปสู่ความเข้าใจได้ค่ะ เช่นเดียวกัน การที่คุณพ่อคุณแม่ยอมรับลูกได้อย่างไม่มีเงื่อนไข คอยให้การสนับสนุน ให้ความช่วยเหลือ และยืนเคียงข้างเขา ขอแค่ไม่ทำให้ใครเดือนร้อน เมื่อลูกโตเป็นผู้ใหญ่เขาก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถยอมรับตัวเองได้ และก็สามารถยอมรับในความแตกต่างของผู้อื่นได้เช่นกันค่ะ

อ้างอิง
เมริษา ยอดมณฑป นักจิตวิทยาเด็กและครอบครัว

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP