10 ภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ ที่แม่ท้องควรระวัง

การตั้งครรภ์
JESSIE MUM

ช่วงเวลาที่ตั้งครรภ์อุ้มท้องลูกไปไหนมาไหนด้วย สำหรับโน้ต โน้ตว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดช่วงหนึ่งทีเดียว แต่ในขณะเดียวกันด้วยความที่ลูกอยู่ในท้อง เราซึ่งเป็นคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตตัวเองอยุ่ตลอดเวลาค่ะว่า ร่างกายของเราหรือของลูกน้อยมีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งมันอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกเราได้ว่าเป็นอาการที่นำไปสู่โรคแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ได้ ซึ่งจะมีโรคแทรกซ้อนอะไรที่สามารถเกิดขึ้นได้บ้าง วันนี้เรานำมารวบรวมไว้ที่นี่แล้วค่ะ

10 ภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์

ภาวะแทรกซ้อนที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรระวัง มีดังนี้ค่ะ

ภาวะท้องนอกมดลูก

ภาวะนี้เป็นภาวะที่ไข่ได้รับการผสมกับอสุจิแล้วไปฝังตัวอยู่นอกมดลูก ส่วนที่พบได้บ่อยที่สุดคือ ท่อนำไข่ เมื่อเด็กเติบโตมาได้ระยะหนึ่งก็จะเสียชีวิต พบได้ในผู้ที่เคยมีประวัติมดลูกอักเสบ หรือเคยทำแท้งมาก่อน

ภาวะรกเกาะต่ำ

โดยทั่วไปแล้วมดลูกจะเกาะที่ยอดมดลูก แต่ที่เกาะต่ำคือการเกาะที่ปากมดลูก จึงเป็นการขวางทางทำให้เด็กไม่สามารถเคลื่อนตัวลงมาได้ ซึ่งถ้าเด็กโตขึ้น มดลูกขยายขึ้นอาจเกิดเป็นรอยเผยอระหว่างตัวรกกับปากมดลูกได้ ส่งผลให้คุณแม่มีเลือดออก ซึ่งถ้าหากเลือดออกมากอาจทำให้เสียชีวิตทั้งแม่และลูกได้ พบได้มากในผู้ที่มีลูกมาก คลอดลูกมาหลายคน รวมถึงพบได้ในผู้ที่เคยขูดมดลูกมาก่อน

ภาวะแท้งบุตร

ก็คือ การยุติการตั้งครรภ์ก่อนเวลาอันควร โดยมากเกิดจากการที่ลูกไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้เนื่องจากตัวเล็กเกินไป โดยการแท้งมี 2 ลักษณะ ได้แก่ แท้งเอง ซึ่งเกิดจากไข่ที่ไม่สมบูรณ์ หรือคุณแม่อาจมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคเลือดบางชนิด และอีกหนึ่งลักษณะการแท้งคือ ตั้งใจแท้ง เป็นต้น

ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด

โดยปกติแล้วรกจะเกาะที่ยอดมดลูก เมื่อคลอดลูกแล้ว รกจะหลุดออกมาด้วย แต่บางคนรกหลุดออกมาก่อนที่เด็กจะคลอด ซึ่งจะส่งผลให้เด็กไม่มีอาหารไปเลี้ยง และอันตรายอาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้ รกลอกหรือรกหลุดก่อนกำหนด มักเกิดจาก การถูกกระแทกที่หน้าท้องอย่างแรง หกล้ม แต่บางรายอาจเกิดจากคุณแม่เป็นโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น

ภาวะตกเลือดหลังคลอด

โดยปกติแล้วคุณแม่หลังคลอดจะเสียเลือดประมาณ 200 – 300 cc. แต่มีคุณแม่บางรายเสียเลือดมากกว่านั้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการช็อคและเสียชีวิตได้ โดยสาเหตุที่พบมี ดังนี้

สาเหตุที่ 1 การบีบตัวของมดลูกไม่ดี ทำให้มดลูกแข็งตัวได้ไม่ดีเท่าที่ควร เลือดจึงออกมาเยอะ พบมากในผู้ที่อายุมาก คลอดลูกบ่อย
สาเหตุที่ 2 มีการฉีกขาดของช่องคลอด เช่น ฝีเย็บอาจมีการฉีกขาด ส่งผลให้มีเลือดออกมามาก
สาเหตุที่ 3 คลอดลูกแล้วแต่รกคลอดออกมาไม่หมด มีค้างอยู่บางส่วน ซึ่งส่งผลให้มดลูกบีบตัวได้ไม่ดี ส่งผลให้เสียเลือดมากได้เช่นกัน

ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์

ข้อนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นโรคนี้อยู่ก่อน กับกลุ่มที่เป็นในช่วงที่ตั้งครรภ์ โดยที่ความดันสูงขณะตั้งครรภ์นั้น คุณแม่จะมีอาการบวม ถ้าตรวจปัสสาวะแล้วจะพบว่าโปรตีนปนออกมาด้วย ถ้ามีอาการมาก คุณแม่จะชัก ซึ่งอาจทำให้เส้นเลือดในสมองแตก และเสียชีวิตได้

โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์

โรคเบาหวานก็แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มเช่นกัน คือ คุณแม่ที่เป็นโรคนี้อยู่ก่อนแล้ว กับคุณแม่ที่เป็นในช่วงที่ตั้งครรภ์ ซึ่งถ้าคุณแม่ควบคุมอาการเบาหวานได้ไม่ดี อาจส่งผลให้เกิดอาการช็อค การแท้ง หรือการคลอดก่อนกำหนดได้ พบบ่อยในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ลูกคนแรก แม่ที่อ้วนมาก และคุณแม่ที่มีอายุมาก รวมไปถึงคุณแม่ที่มีประวัติว่าคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวานมาก่อน

ภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์และมดลูกขยายใหญ่ขึ้น จึงไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะได้สะดวกและไม่ดีเท่าที่ควร (รู้สึกเหมือนขัด ๆ) ส่งผลให้มีการคั่งค้างนาน จึงเกิดการติดเชื้อได้ง่าย

โรคโลหิตจาง

โรคนี้มีสาเหตุ 2 ชนิด ได้แก่ โรคโลหิตจางจากโรคธาลัสซีเมีย และโรคโลหิตจางที่เกิดจากธาตุเหล็ก สำหรับโรคที่เกิดจากธาลัสซีเมียมักเป็นโรคที่ถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม โดยมากแล้วลูกที่เกิดจากคุณแม่ที่เป็นโรคนี้มักจะตายในท้อง ส่วนโรคโลหิตจางที่เกิดจากการขาดธาตุเหล็ก วิธีแก้ไข คือ ให้ทานอาหารที่มีธาตุเหล็กมาก ๆ

ไทรอยด์เป็นพิษ

เกิดจากไทยรอยด์ผลิตสารออกมามากกว่าปกติ ส่งผลให้มือสั่น ใจสั่น เหงื่อออกมาก หงุดหงิดง่าย ทั้งนี้ก่อนท้องอาจจะเป็นหรือไม่เป็นก็ได้ ลูกที่เกิดมาจะตัวเล็ก ไม่ค่อยแข็งแรง หากคุณแม่มีอาการรุนแรงอาจส่งผลให้แท้งได้

ระหว่างการตั้งครรภ์เป็นอะไรที่มีความสุขก็จริง แต่สิ่งสำคัญคือ คุณแม่มีอีกหนึ่งชีวิตน้อย ๆ ที่ต้องดูแล ดังนั้นในเรื่องของสุขภาพและโภชนาการ จำเป็นอย่างมากที่คุณแม่จะต้องเพิ่มความใส่ใจมากขึ้นเป็น 2 เท่า เพื่อให้อายุครรภ์ครบกำหนด และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดนะคะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP