เร่งคลอดธรรมชาติ วิธีการช่วยให้ปากมดลูกเปิด

การคลอดและหลังคลอด

โดยปกติแล้วคุณแม่ท้องส่วนใหญ่เมื่ออายุครรภ์เข้าเดือนที่ 8 ก็จะเริ่มมีการเจ็บท้องเตือนแล้ว บางคนเริ่มที่ 7 เดือนเลยก็มี แต่ในขณะที่คุณแม่ท้องบางคนจะครบกำหนดคลอดแล้ว หรือบางคนเลยกำหนดคลอดเสียแล้ว แต่ก็ยังไม่สัญญาณหรือทีท่าใด ๆ ว่าจะคลอด ทำอย่างไรดีล่ะคราวนี้? คุณแม่เริ่มกังวล เพราะรู้มาว่าหากปล่อยให้อายุครรภ์เกินไปนาน ๆ รกอาจเสื่อมและไม่สามารถส่งอาหาร รวมถึงออกซิเจนให้ลูกได้ วันนี้เรามีวิธีเร่งคลอดแบบธรรมชาติมาฝากค่ะ

เร่งคลอดธรรมชาติ ใช้ในกรณีไหนบ้าง

การเร่งคลอดธรรมชาติ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของสูตินรีแพทย์ซึ่งจะมีหลายกรณีด้วยกัน ดังนี้

  • อายุครรภ์เกิน 40 สัปดาห์ ซึ่งเป็นกรณีที่พบได้บ่อยที่สุด เพราะถ้าปล่อยไว้รกจะเสื่อมจนไม่สามารถส่งผ่านอาหารหรือออกซิเจนมาเลี้ยงทารกในครรภ์ได้
  • ทารกในครรภ์เติบโตช้า มีน้ำหนักน้อย เหตุจากคุณแม่มีโรคประจำตัว อาทิ โรคเลือด โรคติดเชื้อต่าง ๆ สภาพมดลูกไม่สมบูรณ์ คุณแม่สูบบุหรี่จัด รวมถึงคุณแม่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอขณะตั้งครรภ์
  • ความดันโลหิตสูง หรือครรภ์เป็นพิษ ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้เส้นเลือดทั่วร่างกายนั้นหดรัดตัว ส่งผลให้ปริมาณเลือดที่ส่งไปให้ลูกน้อยลง หากปล่อยไว้ลูกอาจเสียชีวิตในครรภ์ได้
  • มีการอักเสบติดเชื้อในถุงน้ำคร่ำ
  • ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด
  • ภาวะน้ำคร่ำน้อย
  • ตั้งครรภ์แฝดแต่มีภาวะแทรกซ้อน ส่งผลให้ทารกไม่แข็งแรง หรืออาจเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตทั้งคุณแม่และลูก
  • ทารกเสียชีวิตในครรภ์ และหากปล่อยให้ทารกอยู่ในครรภ์เป็นเวลานาน จะส่งผลคุณแม่เกิดภาวะลิ่มเลือดที่ไม่แข็งตัวได้ เนื่องจากอาจมีส่วนที่เสื่อมสลายของลูกหลุดเข้าไปในกระแสเลือดได้

ข้อมูลอ้างอิง medthai.com

วิธีเร่งคลอดธรรมชาติ

การเร่งคลอดธรรมชาติควรทำด้วยความระมัดระวัง และควรได้รับคำปรึกษาจากสูตินรีแพทย์ก่อน ทั้งนี้ การเร่งคลอดธรรมชาติมีวิธีต่าง ๆ ดังนี้

การเคลื่อนไหวร่างกาย

  • เดินเล่นไปเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆ
  • หาลูกบอลใหญ่มาสักลูก ให้คุณแม่นั่งบนลูกบอลนั้น (ควรมีคุณพ่อเป็นคนช่วยดูแล) แล้วโยกตัวไปมา เนื่องจากการแกว่งตัวการขยับตัวในช่วงล่างจะทำให้ลูกมีการเคลื่อนไหวต่ำลงมาในตำแหน่งของการคลอดโดยมีส่วนของศีรษะเป็นตัวนำ

กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน

  • มีเพศสัมพันธ์กับคนรัก นับเป็นวิธีที่มีมาอย่างยาวนาน ช่วยให้คุณแม่เจ็บท้องคลอดเร็วขึ้นได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าถ้าคุณแม่มีน้ำคร่ำเดินแล้ว ห้ามมีเพศสัมพันธ์กันเด็ดขาด เพราะจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
  • การมีเพศสัมพันธ์จะช่วยในเรื่องการบีบตัวของมดลูก เกิดการหดเกร็ง ส่งผลให้คุณแม่เริ่มเจ็บท้องคลอดค่ะ
  • ท่าที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ในยามนี้ คือ ท่าตะแคง

นวดเต้านมเบา ๆ

  • การนวดเต้านมอย่างเบามือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหัวนมจะเป็นการกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนออกซีโตซินได้อีกด้วย
  • วิธีนวดคือ ให้คุณแม่ใช้ฝ่ามือนวดบริเวณลานนมอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวล 15-20 นาทีโดยประมาณ ทุก ๆ ชั่วโมง วันละหลาย ๆ รอบ เพื่อให้ร่างกายได้หลั่งฮอร์โมนออกซีโตซินออกมา ซึ่งจะส่งผลต่อการเจ็บท้องคลอดของครรภ์ที่เกินกำหนดคลอดได้

กินอาหารและเครื่องดื่ม

  • ดื่มชาใบราสเบอร์รี่ เป็นชาที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ สามารถจิบได้ทั้งวัน ทั้งนี้ก็มีคำเล่าลือกันว่าชาใบราสเบอร์รี่จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการคลอดให้เร็วขึ้นได้ แต่จะให้ดีแนะนำว่าควรดื่มเมื่ออายุครรภ์ได้ 34 สัปดาห์จะดีที่สุดค่ะ
  • ก่อนที่จะดื่มชาใบราสเบอร์รี่นั้นควรปรึกษาคุณหมอก่อนนะคะ
  • คุณแม่อาจทดลองซื้อใบชามาชงดื่มในปริมาณที่น้อย ๆ ก่อน หรืออาจซื้อในรูปแบบเม็ดก่อนก็ได้ค่ะ

เรื่องอายุครรภ์คุณแม่ที่ใกล้กำหนดหรือเกินกำหนดแล้วแต่ยังไม่วี่แววว่าจะเจ็บท้องคลอดนั้น คุณแม่ไม่ต้องกังวลหรือเครียดมากเกินไปนะคะ เพราะมีคุณหมอที่ดูแลคุณแม่อย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว เพื่อให้คุณแม่คลอดลูกแบบธรรมชาติได้อย่างปลอดภัยที่สุดทั้งคุณแม่และลูกน้อย
ข้อมูลอ้างอิง hifamilyclub.com

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP