การได้เป็นแม่คนเป็นอะไรที่สุดยอดแล้วค่ะ “การดูแลตัวเอง” เริ่มตั้งแต่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ แต่…การดูแลไม่ได้สิ้นสุดแค่คลอดลูกแล้วนะคะ แต่ยังหมายรวมถึงหลังคลอดด้วย กิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์มาวันนี้วันที่แม้ว่าจะคลอดเบบี๋แล้วก็ยังห้ามทำอยู่และมีบางสิ่งที่เพิ่มเข้ามา เหล่านั้นคืออะไรบ้างกับข้อห้ามแม่หลังคลอดไปติดตามกันค่ะ
สารบัญ
ข้อห้ามแม่หลังคลอด ในช่วง 6 สัปดาห์หลังคลอด
แม่ลูกอ่อนกับเรื่องของการดูแลตัวเองเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมากค่ะ โดยเฉพาะในช่วงระยะพักฟื้น 6 สัปดาห์แรก หรือ 1 เดือนแรกหลังคลอด หน้าที่ส่วนใหญ่จึงต้องยกให้คุณพ่อช่วยทำแทน
ห้ามใช้ยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์
เนื่องจากยาบางตัวมีผลต่อน้ำนม อาจทำให้น้ำนมน้อยลงหรือหยุดไหลได้ อาทิ เสตียรอยด์ ยาลดน้ำหนัก ยาลดความอ้วน ยาปฏิชีวนะ ยารักษาสิว รวมถึงยาในกลุ่มสารเสพติด อาทิ ยาแก้ปวด ยานอนหลับ ชนิดต่าง ๆ ยาในกลุ่มดังกล่าวสามารถส่งผ่านไปทางน้ำนมได้ ดังนั้น ก่อนที่คุณแม่จะกินยาชนิดใดก็ตามควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ ชา และกาแฟ
เพราะล้วนแล้วแต่มีผลต่อคุณแม่ทั้งสิ้น อาจทำให้คุณแม่ตกเลือดได้ และที่สำคัญ แอลกอฮอล์และคาเฟอีน สารเหล่านี้สามารถส่งต่อไปถึงลูกน้อยผ่านทางน้ำนมได้อีกด้วย
ห้ามมีเพศสัมพันธ์ก่อน 6 สัปดาห์
หรือในช่วง 1 เดือนหลังคลอด เนื่องจากแผลที่เกิดจากฝีเย็บยังไม่แห้ง และยังมีน้ำคาวปลาไหลอยู่ ซึงจะไม่เหมาะถ้าจะมีเพศสัมพันธ์กันในระยะนี้ เพราะถ้าหากมีเพศสัมพันธ์กันในระยะนี้อาจทำให้แผลผ่า แผลที่ฝีเย็บฉีกขาด อาจมีการติดเชื้อ หรือมดลูกอักเสบได้
ห้ามยกของหนัก
การที่คุณแม่ยกของหนักจะส่งผลต่อกล้ามเนื้อมดลูก และแผลผ่าตัดคลอดได้ ดังนั้น เรื่องการยกของหนัก หรือการต้องทำงานหนักของคุณแม่ในช่วงนี้ควรงดก่อนค่ะ ฝากให้เป็นหน้าที่ของคุณพ่อไปก่อน ที่สำคัญ หากคุณแม่ยังยกของหนักอยู่อาจส่งผลให้เกิดแผลคีลอยด์ที่ฝีเย็บได้ ทำให้แผลผ่าตัดคลอดนูนแดงไม่เรียบสวย
ห้ามออกกำลังกายแบบหักโหม
คุณแม่อาจจะบอกลำพังแผลผ่าคลอดหรือแผลจากฝีเย็บก็เจ็บอยู่แล้วคงไม่ออกกำลังกายหักโหมหรอก ถูกค่ะ..แต่การออกกำลังกายแบบหักโหมในที่นี่หมายรวมถึง “การเคลื่อนไหวตัวอย่างเร็วหรือรุนแรง” เพราะบางครั้งคุณแม่บางคนอาจลืมตัวไปว่ามีแผลที่เกิดจากฝีเย็บอยู่ การเคลื่อนไหวตัวอย่างรุนแรงอาจส่งผลให้ฝีเย็บปริได้ กลับกันถ้าคุณแม่อยากออกกำลังกายหรือขยับเขยื้อนร่างกายบ้าง ให้ทำเบา ๆ แค่ขยับแขน ขยับขาเบา ๆ หรือเดินเบา ๆ ก็พอนะคะ
ห้ามกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์
อาหารที่ไม่มีประโยชน์ ได้แก่ ของหมักดอง อาหารจังก์ฟูด รวมถึงอาหารที่มีรสหวานจัด เนื่องจากอาหารเหล่านี้จะมีปริมาณน้ำตาลและไขมันที่สูงมาก สารอาหารก็มีแต่ก็น้อย ไม่เพียงพอต่อร่างกายของคุณแม่และลูกน้อยต้องการ ส่งผลให้ลูกน้อยขาดสารอาหาร และอาจเป็นโรคอ้วนในเด็กได้
ห้ามมีความเครียด วิตกกังวลมากเกินไป
ข้อนี้สำคัญค่ะ เพราะคุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่มักจะมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด คุณแม่ส่วนใหญ่จะมีความกังวล กลัวว่าน้ำนมจะไม่พอเลี้ยงลูก กังวลว่าจะเลี้ยงลูกได้ไม่ดีพอ เครียดเพราะไม่มีใครช่วยเลี้ยง ดังนั้น คุณแม่ควรรู้เท่าทันตัวเอง และหากิจกรรมอื่น ๆ ที่ผ่อนคลายทำนะคะ
ด้วยภาวะซึมเศร้านี้ แม่โน้ตก็เคยเป็นค่ะ แต่ทันที่เรารู้สึกเศร้า แม่โน้ตจะใช้วิธีหลับตา ทำสมาธิ อาจไม่ต้องถึงกับนั่งในท่าขัดสมาธิ เพียงแค่นั่งในท่าที่สบายหลับตา กำหนดดูที่ลมหายใจเข้าออกแทน เพราะเมื่อเรามีสติ เราจะรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง และจะปล่อยวางได้เร็ว ลองไปทำกันดูนะคะ
การดูแลตัวเองของคุณแม่หลังคลอดเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะนอกจากจะต้องดูแลแผลฝีเย็บไม่ให้เกิดการติดเชื้อแล้ว คุณแม่จะต้องดูแลลูกน้อยอีกด้วย ที่สำคัญ หมั่นสังเกตตัวเองด้วยนะคะคุณแม่ว่าร่างกายเราในระยะพักฟื้นนี้มีอะไรที่ผิดปกติหรือไม่ หากไม่แน่ใจ ปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ