อาหารบำรุงเลือด บำรุงน้ำนมแม่ สำหรับคุณแม่หลังคลอด

การคลอดและหลังคลอด

คุณแม่หลายๆ ท่านคงทราบดีนะคะว่ากว่าจะได้ลูกที่แข็งแรงน่ารักมาซักคนนึงต้องดูแลกันตั้งแต่อายุครรภ์ยังน้อยๆ เลย ตั้งแต่เรื่องอาหารการกินไปจนถึงเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า (เอ…อันหลังดูจะไม่เกี่ยวเท่าไหร่ แต่เป็นความสุขใจของคุณแม่ แม่มีความสุข ลูกน้อยก็จะมีความสุข…เป็นเหตุผลที่เอาไว้อ้างกับคุณสามีตอนอยากได้ของใหม่ค่ะ^^)

เวลาผ่านไป จนมาถึงวันคลอด ทุกอย่างดูเหมือนง่ายดายไปหมด แต่คุณแม่อย่าลืมนะคะ หลังคุณแม่คลอดน้องเราต้องเสียเลือด เสียน้ำ และเสียพลังงานไปมากเลยทีเดียว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณแม่ต้องเลือกทานอาหารที่บำรุงสุขภาพ เน้นที่ให้พลังงานและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เตรียมพร้อมที่จะต้องให้น้ำนมกับลูกน้อย เพราะคุณแม่ทานอะไรไปลูกน้อยก็จะได้รับอย่างนั้นไปด้วย

หลังคลอดคุณแม่ต้องการอาหารมากกว่าตอนตั้งครรภ์ 500 กิโลแคลอรีต่อวัน พลังงานจากอาหารนี้จะถูกนำไปใช้ในการฟื้นฟูร่างกาย ช่วยสร้างเม็ดเลือด สร้างภูมิต้านทานโรค และสร้างน้ำนมให้ลูกน้อย

สารอาหารของคุณแม่หลังคลอด

ธาตุเหล็ก โปรตีน วิตามินซี

เครื่องในสัตว์
ช่วยในเรื่อง : ร่างกายอ่อนเพลีย
เพราะขณะคลอด คุณแม่ต้องเสียเลือดและน้ำ รวมไปถึงความเครียดและความเมื่อยล้าที่ปะดังปะเดกันเข้ามา
อาหารที่ควรทาน : คุณแม่ควรเลือกทานอาหารที่มีโปรตีนและธาตุเหล็กสูงนะคะ เพราะธาตุเหล็กจะช่วยสร้างเม็ดเลือดทดแทนกับที่ร่างกายต้องสูญเสียไป ป้องกันภาวะโลหิตจาง ทำให้มีกำลัง ฟื้นตัวได้เร็ว
ซึ่งหลังคลอดคุณหมอจะให้ยาบำรุงเลือดมา แต่หากคุณแม่ท่านไหนที่แพ้ตัวนี้ ไม่สามารถทานได้เลย แนะนำว่าต้องทานอาหารจำพวกเครื่องในสัตว์ ไข่แดง เนื้อแดง ผักสีเขียวเข้ม และงา ให้มากๆ เลย จะได้ไม่เป็นภาวะโลหิตจางค่ะ
วิตามินซี จะเป็นส่วนช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นคุณแม่จึงควรทานธาตุเหล็กคู่กันไปกับผักสดนะคะ (มีวิตามีนซี)

ทานให้ครบทั้ง 5 หมู่

เต้าหู้หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
ช่วยในเรื่อง : น้ำนมน้อย
คุณแม่อาจจะยังทานน้อยเกินไป และได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน เพราะในช่วงให้นมลูกน้อยนั้น อาหารที่คุณแม่ทานเข้าไปกลายเป็นพลังงานไปสร้างน้ำนมให้ลูกหมดค่ะ
อาหารที่ควรทาน : คุณแม่ควรทานให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อให้เพียงพอต่อการผลิตน้ำนม อาทิ แคลเซียม ซึ่งช่วงนี้ร่างกายคุณแม่ต้องการแคลเซียมเพิ่มขึ้น 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากในน้ำนมแม่เฉลี่ย 100 มิลลิลิตร มีแคลเซียม 30 มิลลิกรัม ถ้าคุณแม่ได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ แต่ระดับแคลเซียมในน้ำนมยังคงเท่าเดิม เพราะแคลเซียมถูกดึงจากกระดูกคุณแม่นั่นเองค่ะ

ดังนั้น คุณแม่ควรทานเต้าหู้หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองหรือปลาที่รับประทานได้ทั้งกระดูก แล้วเสริมด้วยการดื่มนมอย่างน้อยวันละ 1-2 แก้ว

น้ำดื่มสะอาด

น้ำดื่มสะอาด
ช่วยในเรื่อง : ผิวแห้ง ปากแห้ง
เพราะคุณแม่สูญเสียน้ำไปเยอะ แล้วดื่มนี้น้อย จึงไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
อาหารที่ควรทาน : ดื่มน้ำเพิ่มมากขึ้น หรือจะเปลี่ยนดื่มน้ำผลไม้สด น้ำสมุนไพร ให้ได้ทั้งหมดวันละ 8-10 แก้วนะคะ
**แนะนำว่าต้องเป็นน้ำในอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นเท่านั้นนะคะ หลีกเลี่ยงน้ำที่หวานจัด เพราะจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักตัวนะคะ**

ใยอาหาร ไขมัน วิตามิน น้ำสะอาด

ตำลึง ขิง
ช่วยในเรื่อง : ลดอาการท้องผูก
ขณะตั้งครรภ์และคลอดนั้น ฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงส่งผลให้ลำไส้บีบตัวช้าลง หากยิ่งทานใยอาหารหรือน้ำน้อย ยิ่งทำให้ขับถ่ายยากขึ้นค่ะ
อาหารที่ควรทาน : ควรเลือกทานผักและผลไม้ที่มีใยอาหาร นอกจากจะได้ใยอาหารแล้ว ยังได้วิตามินและแร่ธาตุที่อยู่ในผักและผลไม้อีกด้วยนะคะ

ผักบางอย่างยังช่วยเพิ่มน้ำนมได้อีกนะคะ เช่น ตำลึง ขิง เป็นต้น
**แต่ผักบางชนิดไม่เหมาะสำหรับคนมีโรคประจำตัวนะคะ ต้องเช็คให้ดีก่อนทานนะคะ**

โปรตีน วิตามินซี

อาหารที่มีโปรตีนสูง
ช่วยในเรื่อง : เจ็บแผลผ่าตัด
การคลอดด้วยการผ่าตัดนั้น บางช่วงของแผลอาจมีฉีกขาดหรือบวมแดง การทานอาหารที่มีโปรตีนสูงจะช่วยสมานแผลทำให้แผลหายเร็วขึ้น
อาหารที่ควรทาน : เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่วเมล็ดแห้ง และเต้าหู้ เพราะโปรตีนที่ได้เนื้อสัตว์จะทำหน้าที่สร้างเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
วิตามินซีจากผักและผลไม้สด จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเนื้อเยื่อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

โดยปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นการตั้งครรภ์อ่อนหรือจนวันที่คลอดลูก คุณหมอจะมียาเสริมให้เพื่อให้ร่างกายของคุณแม่และลูกน้อยแข็งแรง แต่คุณแม่ก็ควรดูแลใส่ใจเรื่องอาหารด้วยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังคลอด ต้องดูแลเป็นพิเศษ อาจจะยังไม่เห็นผลในวันนี้ แต่อาจจะมีผลในระยะยาวนะคะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP