ประจำเดือนหลังคลอดทำไมไม่มา เมื่อไรจะมา

การคลอดและหลังคลอด
JESSIE MUM

9 เดือน ของคุณแม่ทุกคนที่ห่างหายจากประจำเดือน หลังคลอดลูกต่างก็รอเดือนประจำเดือน ผ่านไป 3 เดือน ก็ยังไม่มาเสียที กังวลกลัวร่างกายผิดปกติ แต่คุณแม่อาจจะยังสงสัยว่าประจำเดือนทำไมไม่มา มาแล้วให้นมลูกจะอันตรายไหม มาช้าหรือมาเร็วหลังคลอดประมาณกี่เดือน อีกทั้งสาเหตุอะไรที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาปกติหลังคลอด

การที่หลังคลอดประจำเดือนไม่มานั้นเป็นเรื่องปกติ คุณแม่ไม่ต้องกังวลแค่เพียงรอเวลาอีกไม่นานก็จะมาดั่งเดิม โดยอาการของการเริ่มกลับมามีประจำเดือนจะมีอาการเหมือนเดิม เช่น การปวดท้องน้อย ทั้งนี้เนื่องจากอิทธิพลจากฮอร์โมนช่วงตั้งครรภ์ ทำให้ยังไม่มีการตกไข่ ประจำเดือนจึงยังไม่มา

ประจำเดือนมาช้าหรือมาเร็วของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งมีปัจจัยหลายๆ ด้านที่ทำให้ประจำเดือนหลังคลอดไม่มาเสียที และการมาช้าหรือมาเร็วก็มีสาเหตุเช่นกัน จากสถิติโดยทั่วไปคุณแม่จะมีประจำเดือนหลังคลอด ในระยะดังนี้

  1. 60% ของคุณแม่หลังคลอด ประจำเดือนจะมาในช่วงเดือนที่ 7 หลังคลอด
  2. 20% ของคุณแม่หลังคลอด ประจำเดือนจะมาในช่วงเดือนที่ 3 – 4 หลังคลอด
  3. 10% ของคุณแม่หลังคลอด ประจำเดือนจะมาในช่วงเดือนที่ 2 หลังคลอด

สาเหตุที่ประจำเดือนไม่มาหลังคลอด

คุณแม่ให้นมลูก

  • การให้ลูกดูดนมสม่ำเสมอจะส่งผลกับฮอร์โมนที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างน้ำนม และหลั่งน้ำนม จึงทำให้ยังไม่มีการตกไข่ในช่วงนี้ ถ้าคุณแม่ให้นมสม่ำเสมออาจจะยังไม่มีประเดือน 6 – 7 เดือนได้เลย ทั้งนี้การที่ไม่มีประจำเดือนหากไม่คุ้มกำเนิด เพราะคิดว่ายังไม่มีประจำเดือน ยังไม่มีการตกไข่จะไม่ท้องเป็นเรื่องที่ผิด เนื่องจากไม่ใช่การคุมที่ดี 100 % ควรที่จะคุมกำเนิด โดยใช้ถุงยางอนามัย หรือใช้ยาคุม
  • คุณแม่ที่ไม่ได้ให้นมลูกสม่ำเสมอ หรือให้นมลูกน้อย เกิดจากการที่ลูกไม่ดูดเต้า และใช้วิธีปั้มนมแทน หรือผสมกับนมชง คุณแม่อาจจะมีประจำเดือนเร็ว หลังคลอด 6 – 8 สัปดาห์

การใช้ยา

ยาบางชนิดอาจมีผลกระทบต่อฮอร์โมน ทำให้ประจำเดือนหลังคลอดไม่มา หรือมาช้ากว่าปกติ ซึ่งรวมถึงการใช้ยาคุมกำเนิด ไม่ว่าจะฉีกยา ทานยา หรือการฝังยาคุม หลังคลอดอาจจะมีประจำเดือนช้าเช่นกัน

ภาวะร่างกาย

ร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หลังคลอดการฟื้นตัวของคุณแม่แต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน คุณแม่ที่แข็งแรงก็จะฟื้นตัวได้เร็วกว่า ส่วนคุณแม่ที่ฟื้นตัวช้าระบบการทำงานของอวัยวะก็จะช้าตาม หรือคุณแม่มีภาวะของโรค เช่น เบาหวาน ความดัน เป็นต้น จึงทำให้ประจำเดือนมาช้าหรืออาจะใช้เวลานานถึง 1 ปี

อาการซึมเศร้า

อาการที่เกิดจากคุณแม่มีภาวะความเครียดสะสม หรือมีความวิตกกังวลจากเรื่องการเลี้ยงลูกมากเกินไป ซึ่งทำให้ไข่ไม่ตก จึงทำให้ประจำเดือนมาช้า

ฮอร์โมน

ฮอร์โมนเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาหลังคลอด เพราะระยะตั้งครรภ์ ฮอร์โมนของคุณแม่จะเปลี่ยนแปลง แปรปรวนไม่คงที่ เมื่อหลังคลอดลูกอาจจะยังทำให้ฮอร์โมนยังไม่คงที่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาช้าได้

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า หลังคลอดคุณแม่ไม่ต้องกังวลเรื่องประจำเดือนว่าเมื่อไรจะมา เพราะอาจจะกลายเป็นการสร้างความเครียดเพิ่มกับตัวเองได้ ทางที่ควรคุณแม่เพียงแค่ดูแลตัวเอง และปล่อยให้ร่างกายทำงานตามปกติ แล้วไม่นานประจำเดือนก็จะกลับมาเหมือนเดิม แล้วถ้าประจำเดือนมาแต่กำลังให้นมลูกอยู่จะทำอย่างไร จะมีผลอะไรหรือไม่ ซึ่งประจำเดือนมาก็สามารถให้นมลูกได้ เพราะไม่มีอันตรายต่อลูก สารอาหารในน้ำนมยังคงเดิม แต่รสชาติอาจจะเปลี่ยนไป เนื่องจากฮอร์โมนเปลี่ยนและลูกอาจจะหงุดหงิดได้ และการให้นมลูกสม่ำเสมอจะช่วยในการผลิตน้ำนมได้ดี รวมถึงจะทำให้ลดอาการคัดเต้านมและอาการเต้านมอักเสบ

หลังจากคลายกังวลทั้งปัญหาประจำเดือนไม่มาและหากประจำเดือนมาระหว่างให้นมลูกแล้ว ประจำเดือนหลังคลอดจะมาในลักษณะใด

  1. อาจมีอาการปวดท้องน้อยมากกว่าก่อนที่จะตั้งครรภ์ หรือน้อยกว่า
  2. ประจำเดือนมามากกว่าปกติ หรืออาจระยะยาวกว่าปกติ
  3. ประจำเดือนมาแบบกะปริบกะปรอย มาน้อย ขาดๆ หายๆ
  4. ประจำเดือนมาไม่ปกติ อาจไม่มาทุกเดือน หรือมาเดือนเว้นเดือน
  5. อาจมีลิ่มเลือด ออกมาพร้อมประจำเดือน

ฉะนั้นประจำเดือนไม่ว่าจะมาช้า มาเร็ว ไม่ใช่เรื่องแปลก เพียงแค่รอเวลาเท่านั้นก็จะมาดั่งเดิม หากคุณแม่เครียด จะส่งผลกระทบ ทั้งด้านฮอร์โมน ระบบการทำงานในร่างกาย นอกจากประจำเดือนจะไม่มาแล้ว การผลิตน้ำนมก็จะน้อยลง และลูกจะรับลูกสึกของความเครียดไปด้วยนะคะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP