ดื่มกาแฟ ทำให้ตั้งครรภ์ยากจริงหรือ?

ต้องบอกว่าหลายต่อหลายคนที่มี “กาแฟ” เป็นเมนูโปรด หรือจะเรียกอีกอย่างว่าติดกาแฟก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะบางคนถ้าไม่ได้ดื่มกาแฟวันไหนจะมีอาการปวดหัว อย่างโน้ตเองก็เป็นค่ะ ลำพังว่าถ้าดื่มกาแฟไปสักหน่อยก็จะปวดหัวแล้ว ว่าแต่ประเด็นที่ว่าคนที่ต้องการจะมีลูก การดื่มกาแฟทุกวันจะส่งผลให้มีลูกยากจริงหรือ? เพราะอะไร?

ข้อมูลจากผลการวิจัยเกี่ยวกับการดื่มกาแฟ

ข้อมูลจากโรงพยาบาลแมสซาชูเซตส์ที่ได้ทำการเก็บข้อมูลตั้งแต่ปี 2550-2556 มีข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้

ผู้ชาย

คุณผู้ชายหรือสามีที่ร่างกายได้รับคาเฟอีน 265 มิลลิกรัมต่อวัน โดยประมาณ จะส่งผลให้การหลั่งอสุจิน้อยลง ส่งผลให้ภรรยาตั้งครรภ์ยากนั่นเอง

ผู้หญิง

สำหรับคุณผู้หญิงที่ชอบดื่มกาแฟ ดื่มทุกวัน วันละหลายแก้ว เฉลี่ยที่ 4 แก้วต่อวัน โดยประมาณ จะเป็นการลดโอกาสในการมีลูกลง 25% เมื่อเทียบกับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์

รู้ได้อย่างไรว่าเป็นหมัน

สำหรับใครที่รักการดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ดื่มเป็นประจำทุกวัน แต่ก็อยากมีลูกแต่ก็ยังไม่มีสักที เป็นหมันหรือเปล่า เรามีวิธีตรวจเช็ค ดังนี้

ฝ่ายชาย

ดูจากปริมาณน้ำเชื้อ

น้ำเชื้อน้อยมาก ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์บ่อยหรือไม่ได้มีการช่วยตัวเองบ่อย เหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์

ดูความเข้มข้นของน้ำเชื้อ

ลองสำรวจตัวเองว่าที่ผ่านมามีกิจกรรมทางเพศบ่อยหรือมีการช่วยตัวเองบ่อยหรือไม่ เพราะบางครั้งความเข้มข้นของอสุจิเกิดจากการมีกิจกรรมทางเพศบ่อย ลองเว้นระยะสัก 3-4 วัน แล้วสังเกตุว่าน้ำเชื้อมีความเข้มข้นหรือไม่

พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน

เช่น มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่เยอะเกินไปหรือไม่ รวมถึงมีความเครียดสะสมมากหรือเปล่า เหล่านี้ล้วนส่งผลได้เช่นกัน

เข้ารับการรักษาอาการป่วยบางอย่าง

เช่น อาจต้องมีการฉายแสงบำบัด ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อระบบการเจริญพันธุ์ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อาจส่งผลให้มีบุตรยากชั่วคราวหรือถาวร ควรปรึกษาแพทย์นะคะ

เคยประสบอุบัติเหตุ

ที่มีการกระทบกระเทือนกับอวัยวะเพศและระบบสืบพันธุ์ หรืออาจมีการป่วยในอดีตอื่น ๆ เช่น เป็นคางทูม หรือเคยติดเชื้อหนองใน อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติกับอสุจิได้

ฝ่ายหญิง

ปริมาณประจำเดือน

โดยทั่วไปแล้วรอบการมีประจำเดือนของผู้หญิงจะอยู่ที่ประมาณ 21-35 วัน และจะมีช่วงวเลาที่มีประจำเดือนประมาณ 3-5 วัน ซึ่งถ้าหากใครมีประจำเดือนน้อยหรือขาด หรือกะปริบกะปรอย ควรปรึกษาแพทย์ และเข้ารับการวินิจฉัยต่อไป

น้ำหนักตัว

ข้อนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่น้ำหนักมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานอาจส่งผลให้มีโอกาสในการตั้งครรภ์ได้น้อยกว่าผู้หญิงที่มีน้ำหนักปกติถึง 40% และยังเสี่ยงเป็นโรคอ้วน ซึ่งส่งผลต่อการมีประจำเดือน และระบบสืบพันธุ์อีกด้วยค่ะ

อายุ

ข้อนี้เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่คงพอรู้กันมาบ้างว่าอายุมีผลต่อการตั้งครรภ์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอายุเฉลี่ยของผู้หญิงที่เหมาะกับการตั้งครรภ์จะอยู่ในช่วง 21-25 ปี ยิ่งอายุมากขึ้นโอกาสในการตั้งครรภ์ก็จะยากตามไปด้วย โดยเฉพาะเมื่ออายุมากกว่า 35 ปี มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ ซึ่งถ้าต้องการมีลูก ควรเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ เพื่อให้แพทย์ได้ดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป

การเข้ารับการรักษาบางอย่าง

เช่นเดียวกันกับผู้ชายค่ะ ว่าถ้าหากผู้หญิงต้องเข้ารับการฉายแสงเพื่อรักษาโรคบางโรค อาจส่งกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ได้เช่นกัน ดังนั้น หากต้องการมีลูกควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้งนะคะ

ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟแต่ละประเภท

การดื่มกาแฟก็ยังมีข้อดีค่ะ เพราะในกาแฟมีคาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นระบบประสาทให้ตื่นตัว โดยเฉพาะระบบประสาทส่วนกลาง หัวใจ และกล้ามเนื้อ ทั้งนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับคาเฟอีนในกาแฟแต่ละประเภท ดังนี้

กาแฟสำเร็จรูป	ใน 1 แก้ว จะมีคาเฟอีนที่ 85-100 กรัม
กาแฟสด	ใน 1 แก้ว จะมีคาเฟอีนที่ 100-150 กรัม
กาแฟที่ลดคาเฟอีน	ใน 1 แก้ว จะมีคาเฟอีนที่ 8 มิลลิกรัม

การดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะต่อวัน เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง เพราะการดื่มกาแฟที่มากเกินไป หรือการได้รับคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกาย จากผลดีอาจกลายเป็นผลเสีย โดยที่เราไม่รู้ตัว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการมีลูกควรเช็คดูนะคะว่าใน 1 วันเราดื่มกาแฟหรือได้รับคาเฟอีนไปมากเท่าไหร่แล้ว เพราะอย่าลืมนะคะ คาเฟอีนยังมีอยู่ในอาหารอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากกาแฟอีกเช่น ช็อกโกแลต หรือโกโก้ เป็นต้น