11 สิ่งควรรู้ ท้องแบบไม่มีโรคแทรกซ้อน ทำอย่างไร

สุขภาพช่วงตั้งครรภ์

ต้องบอกก่อนเลยค่ะว่าจากประสบการณ์ขณะตั้งครรภ์ที่ผ่านมา ระหว่างทางมีทั้งสุขทั้งกังวล ร่างกายเองก็มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ต้องใส่ใจดูแลตัวเองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเราเองจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าระหว่างการอุ้มท้องนั้นเราจะเจอกับโรคแทรกซ้อนอะไรบ้าง แต่วันนี้…คุณแม่ไม่ต้องกังวลแล้วค่ะ เพราะโน้ตมีข้อมูลดี ๆ มาฝาก เกี่ยวกับการป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน ต้องทำอย่างไรไปติดตามกันเลยค่ะ

11 สิ่งควรรู้ ท้องแบบไม่มีโรคแทรกซ้อน

เพราะเราไม่มีทางรู้อนาคตได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นระหว่างการอุ้มท้อง ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันโรคแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้น คุณแม่ควรรู้สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ค่ะ

ยืดเส้นยืดสายเบา ๆ

แม้ว่ามดลูกของคุณแม่จะค่อย ๆ ขยายตัว แต่เมื่อท้องของคุณแม่ใหญ่ขึ้น อาการปวดเมื่อยเนื้อตัว และอาการปวดเมื่อยหลังก็จะตามมา แต่คุณแม่สามารถออกกำลังกายได้เบา ๆ เป็นการยืดเส้นยืดสายบรรเทาอาการปวดเมื่อย เช่น โยคะ ว่ายน้ำ หรือการเดินออกกำลังกาย เหล่านี้สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้

ใส่ใจเรื่องโภชนาการ

จริงอยู่ที่คุณแม่บางคนอาจจะแพ้ท้องแล้วอยากกินแต่อาหารหมักดอง ทำได้ค่ะ เพราะอาการเหล่านี้จะอยู่กับคุณแม่ประมาณ 3 เดือน แล้วหลังจากนั้นอาการแพ้ท้องจะค่อย ๆ หายไป จากนั้นคุณแม่ค่อยกลับมาดูในเรื่องอาหารการกิน กินอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งสารอาหารสำคัญ ได้แก่ โปรตีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก โฟลิค ซึ่งสารอาหารเหล่านี้พบมากในผลไม้ ถั่ว และผักใบเขียว งดอาหารแปรรูป และอาหารสำเร็จรูปนะคะ

ทานโฟลิคให้พอ

ในอาหารก็มีโฟลิคค่ะ แต่อาจจะไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อย ซึ่งส่วนนี้หากคุณแม่รู้ตัวแล้วว่าตั้งครรภ์ แนะนำให้ฝากครรภ์ทันที เนื่องจากแพทย์จะให้มีการจัดโฟลิคแบบเม็ดให้ทานค่ะ และคุณแม่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดนะคะ

คุมน้ำหนัก

หลายคนพออาการแพ้ท้องเริ่มหายไป คิดว่าต้องกินชดเชย จัดหนัก จัดเต็ม ทุกอย่างทั้งเนื้อสัตว์ ทั้งแป้ง ทั้งน้ำตาล คราวนี้กลายเป็นว่ากินไปแล้วแต่ร่างกายเผาผลาญได้ไม่หมด กลายเป็นว่าน้ำหนักที่ขึ้นมานั้น เกินครึ่งอยู่ที่คุณแม่ ซึ่งเมื่ออายุครรภ์มากขึ้นจะเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนได้ง่าย

ตรวจคัดกรองยีนส์

หากสามีภรรยาวางแผนไว้แล้วว่าต้องการจะมีลูกด้วยกัน สิ่งแรกที่ควรทำคือ การตรวจคัดกรองยีนส์เพื่อให้ยีนส์ที่ดีที่สุด ตรวจสอบประวัติการเป็นโรคต่าง ๆ ของครอบครัวแต่ละฝ่าย ว่าเคยมีประวัติเป็นโรคมาหรือไม่ เช่น โรคปอดเรื้อรัง โรคโลหิตจางแบบซิกเคิลเซลล์ หรือกลุ่มอาการโครโมโซมเอกซ์เปราะบาง เป็นต้น

ลด ละ เลิก คาเฟอีน

สำหรับใครที่วางแผนจะมีลูกหรือตั้งครรภ์อ่อน ๆ อยู่ แนะนำว่า ควรลด ละ เลิก เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าสามารถบริโภคคาเฟอีนในกาแฟได้ไม่เกินวันละ 200 มิลลิกรัม หรือ 12 ออนซ์ ต่อแก้ว หรือจากชา ไม่ควรเกิน 8 ออนซ์ต่อแก้ว จริง ๆ ถ้าเลิกได้จะดีที่สุดค่ะ แต่ถ้าเลิกไม่ได้จริง ๆ แนะนำให้ดื่มเป็นแบบ Decaf แทน

เลิกบุหรี่

บุหรี่ไม่เคยส่งผลดีต่อใครเลย ไม่ว่าจะเป็นคนที่สูบบุหรี่เองหรือจะเป็นควันบุหรี่มือสองเองก็ตาม ที่สำคัญ เสี่ยงลูกน้อยพิการอีกด้วยค่ะ

เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เชื่อว่าคุณแม่คงทราบกันดีว่า แอลกอฮอล์ไม่ส่งผลดีต่อร่างกาย ดังนั้น ก่อนการตั้งครรภ์คุณแม่ควรเลี่ยงแอลกอฮอล์นะคะ ยกเว้นว่าถ้ากินไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าตั้งครรภ์ และเมื่อทราบแล้วก็เลิกได้ แบบนี้ไม่เป็นไรค่ะ แต่หากยังคงกินอยู่แม้ว่าทราบว่าตั้งครรภ์ แบบนี้ไม่ดีแน่

พับทริปการเที่ยวสองต่อสองลง

ทริปที่เคยแพลนกันไว้สองคนว่าจะไปเที่ยวกัน ต่อไปนี้คงต้องพับเก็บไปก่อนค่ะ เพราะหลังจากนี้การเที่ยวในทุกทริปจะมีลูกน้อยติดสอยห้อยตามไปตลอดก็เป็นความสุขอีกแบบหนึ่ง

บอกลาบ่อน้ำเลี้ยงปลา

บ่อเลี้ยงปลาเป็นอะไรที่อันตรายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็ก เด็กกับน้ำเป็นของคู่กัน แต่ด้วยความที่เด็กยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพื่อเป็นการป้องกันควรบอกลาบ่อไปก่อนค่ะ

เช็คมุมต่าง ๆ ภายในบ้าน

ที่ว่า “มุม” ต่าง ๆ นั้น หมายถึง ขอบตู้ ของเตียง ที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อลูกน้อย ควรหายางกันขอบมาติดไว้ตามมุมหรือขอบต่าง ๆ เป็นการป้องกันลูกน้อยชนนะคะ

เพราะการป้องกันถือเป็นสิ่งที่เหมาะสมและควรทำมากที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ซึ่งถ้าพูดในมุมของการอยากมีลูก และไม่อยากที่จะต้องเผชิญกับโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ระหว่างการตั้งครรภ์ ว่าที่คุณแม่ควรดูแลตัวเองและหมั่นสังเกตตัวเองทุกวัน อย่างน้อยหากเกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นจะได้เข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ได้ทันท่วงทีค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP