“โพรไบโอติกส์” กลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งไม่ได้มีดีเฉพาะลำไส้เท่านั้น เพราะยังมีโพรไบโอติกส์อีกหลายสายพันธุ์ที่ดีต่อระบบเจริญพันธุ์และระบบภายในสตรีด้วย ช่วยรักษาสมดุลภายในช่องคลอด และช่วยจัดการกับเชื้อแบคทีเรียก่อโรคภายในช่องคลอด รักษาสมดุล pH Balance ภายในช่องคลอด ลดการติดเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคช่องคลอดอักเสบ และโรคทางสูติศาสตร์หลายโรค โดยโพรไบโอติกส์สามารถลดลงได้ตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตและอายุที่มากขึ้น จึงจำเป็นต้องทานเสริมเข้าไปเพื่อช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่แต่เดิมในลำไส้ และระบบต่างๆในร่างกายรวมถึงช่องคลอด และมดลูก สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติ โดยเฉพาะสตรีที่เตรียมตั้งครรภ์การควรเลือกเสริมโพรไบโอติกส์ที่ดีต่อลำไส้และระบบเจริญพันธุ์
ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์ ครูวิทยาศาสตร์และผู้ก่อตั้งเพจให้ความรู้เตรียมตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก https://www.facebook.com/BabyAndMom.co.th ให้ข้อมูลจากการศึกษาค้นคว้างานวิจัยเกี่ยวกับโพรไบโอติกส์และภาวะเจริญพันธุ์ ว่า โพรไบโอติกส์ (Probiotics) คือ จุลินทรีย์ดี หรือ แบคทีเรียชนิดดีที่อาศัยอยู่ในร่างกาย มีบทบาทสำคัญในการช่วยดูดซึมวิตามินและสารอาหารในระบบลำไส้ สร้างภูมิคุ้มกันและการรักษาความสมดุลของแบคทีเรียในระบบต่างๆของร่างกาย ซึ่งขึ้นอยู่ชนิดของโพรไบโอติกซ์แต่ละสายพันธุ์ เนื่องจากแต่ละสายพันธุ์ให้ประโยชน์ต่อระบบต่างๆ ในร่างกายแตกต่างกัน โดยพบโพรไบโอติกส์ในอวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย เช่น บริเวณผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ ภายในช่องปาก ปอด ทางเดินปัสสาวะ มดลูก และช่องคลอด นอกจากนี้ โพรไบโอติกส์บางชนิดยังช่วยรักษาสมดุลในระบบเจริญพันธุ์ รักษาความเป็น กรด – ด่าง หรือ pH Balance ในช่องคลอด ลดการติดเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคช่องคลอดอักเสบ และโรคทางสูติศาสตร์หลายโรค ซึ่งล้วนเป็นปัญหากวนของผู้หญิงหลายๆ คน และยังเป็นอุปสรรคต่อการตั้งครรภ์สำหรับผู้ที่วางแผนท้องอีกด้วย
ซึ่งจากการศึกษางานวิจัย “ครูก้อย นัชชา” ได้รวบรวม โพรไบโอติกส์สายพันธุ์ที่ช่วยสร้างสมดุลให้กับร่างกาย ภูมิคุ้มกันดีทั้งระบบลำไส้และระบบเจริญพันธุ์ เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกเสริมโพรไบโอติกส์ให้กับสตรีวางแผนตั้งครรภ์และผู้มีบุตรยาก โดยมี “โพรไบโอติกส์ทั้งหมด 9 สายพันธุ์” ได้แก่
สารบัญ
- 1.แลคโตบาซิลลัส รามโนซัส HN001 (Lactobacillus rhamnosus HN001)
- 2.แลคโตบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส La-14 (Lactobacillus acidophilus La-14)
- 3.แลคโตบาซิลลัส คริสปาทัส (Lactobacillus crispatus)
- 4. แลคโตบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส NCFM (Lactobacillus acidophilus NCFM)
- 5.บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส HN019 (Bifidobacterium lactis HN019)
- 6.บิฟิโดแบคทีเรียม ลองกัม BB536 (Bifidobacterium longum BB536)
- 7.บิฟิโดแบคทีเรียม เบรเว B-3 (Bifidobacterium breve B-3)
- 8.บิฟิโดแบคทีเรียม เบรเว M-16V (Bifidobacterium breve M-16V)
- 9. แลคโตบาซิลลัส แกสเซรี (Lactobacillus gasseri)
1.แลคโตบาซิลลัส รามโนซัส HN001 (Lactobacillus rhamnosus HN001)
โพรไบโอติกส์สายพันธ์ุนี้ ช่วยปรับ pH ในช่องคลอดให้สมดุล เพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ชนิดดีในช่องคลอด สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียจากการฟักตัวและเจริญเติบโตได้ ลดความเครียดและความกังวลขณะตั้งครรภ์ และหลังคลอด ลดความเสี่ยงการเกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
2.แลคโตบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส La-14 (Lactobacillus acidophilus La-14)
ช่วยปรับ pH ในช่องคลอดให้สมดุล เพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ชนิดดีในช่องคลอด สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียจากการฟักตัวและเจริญเติบโตได้
3.แลคโตบาซิลลัส คริสปาทัส (Lactobacillus crispatus)
ส่งเสริมสุขภาพระบบทางเดินปัสสาวะของผู้หญิง ช่วยรักษาจุลินทรีย์ในช่องคลอดให้เป็นปกติ ปกป้องระบบทางเดินปัสสาวะจากแหล่งติดเชื้อ Chlamydia trachomatis ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคหนองในเทียม สาเหตุหลักของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ยับยั้ง Chlamydia trachomatis ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยที่สุดในเซลล์เยื่อบุผิวของมนุษย์และ Macrophage เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งและเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกัน มีหน้าที่กลืนกินและย่อยสลายสิ่งแปลกปลอมที่ไม่มีโปรตีนผิวบ่งบอกว่าเป็นเซลล์ร่างกายปกติ มีผลยับยั้งการติดเชื้อหนองในเทียม ส่วนใหญ่ผ่านการหลั่งสารเมตาบอไลต์ สารที่ผลิตโดยกระบวนการเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน ในลักษณะความเข้มข้นที่ขึ้นอยู่กับค่า pH ช่วยในการย่อยอาหารและป้องกันการติดเชื้อ ประสิทธิภาพในการปกป้องลําไส้จากการติดเชื้อ และยึดติดกับเยื่อบุผิวช่องคลอด มีหน้าที่ในการผลิตกรดแลคติก ลดค่า pH ในช่องคลอด
4. แลคโตบาซิลลัส แอซิโดฟิลัส NCFM (Lactobacillus acidophilus NCFM)
เพิ่มระดับแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ ช่วยลดเวลาการขนส่งในลำไส้ ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารสบายขึ้น ลดการท้องอืด ช่วยลดอาการเจ็บปวดของลำไส้ ลดแก๊สไข่เน่า
5.บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส HN019 (Bifidobacterium lactis HN019)
ช่วยให้ระดับแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้น ช่วยลดเวลาการขนส่งในลำไส้ ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น ลดท้องอืด ลดแก๊สไข่เน่า ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติของร่างกาย
6.บิฟิโดแบคทีเรียม ลองกัม BB536 (Bifidobacterium longum BB536)
ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ลดอาการท้องผูก เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลเมตาบอลิซึม ช่วยให้เชื้อ Bacteroides fragilis ลดลง ซึ่งเชื้อชนิดนี้อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้ ช่วยป้องกันการก่อตัวของมะเร็งทั้งในตับ ลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงสภาพผิวให้มีความชุ่มชื่น ลดเรือนริ้วรอย จุดด่างดำ
7.บิฟิโดแบคทีเรียม เบรเว B-3 (Bifidobacterium breve B-3)
ลดการอักเสบติดเชื้อซึ่งนำไปสู่ภาวะลำไส้รั่ว ทำให้ผนังลำไส้ให้อยู่ในสภาวะสมบูรณ์มากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม ลดการสะสมของไขมันในอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย
8.บิฟิโดแบคทีเรียม เบรเว M-16V (Bifidobacterium breve M-16V)
ลดการติดเชื้อในทารก ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับทารกที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ ลดความเสี่ยงของการเกิดเนื้อร้ายในลำไส้เล็กส่วนต้น (NEC) และการเสียชีวิตของทารก การเพิ่มระดับของ Bifidobacterium ในลำไส้จะช่วยเพิ่มการดูดซึม โพลีฟีนอล (Polyphenol) สารต้านอนุมูลอิสระจากพืช ผัก ผลไม้ ถั่ว ฯลฯ ที่รับประทานเข้าไปได้ดีที่สุด ถึง 50% ในเวลาอันสั้นเพียง 1-3 ชั่วโมง ซึ่งโพลีฟีนอล เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีงานวิจัยศึกษาแพร่หลายถึงสรรพคุณในด้านการต้านการอักเสบและการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงของโรคหอบหืดหรือมีอาการดีขึ้น ช่วยบรรเทาอาการโรคผิวหนังภูมิแพ้และอาการผื่นแดงอีกด้วย
9. แลคโตบาซิลลัส แกสเซรี (Lactobacillus gasseri)
ช่วยในเรื่องของลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อฮอร์โมนและภาวะเจริญพันธุ์ เนื่องจากการอักเสบเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคทางสูติศาสตร์ และยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการเผาผลาญที่ผิดปกติ การเพิ่ม Bifidobacterium และลด Clostridium ช่วยป้องกันการเพิ่มน้ำหนักและการสะสมของไขมันรอบเอวและรอบสะโพกลดลงเล็กน้อย และป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่
กล่าวโดยสรุป โพรไบโอติกส์ทั้ง 9 สายพันธุ์ที่รวบรวมมาข้างต้น เน้นการส่งเสริมการทำงานของลำไส้และภาวะเจริญพันธุ์ในองค์รวม โดยเพิ่มอัตราการดูดซึมสารอาหารที่ดียิ่งขึ้น และเพิ่มจุลินทรีย์ดีในลำไส้ ช่วยส่งเสริมให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดี และสร้างสมดุลในระบบเจริญพันธุ์ ให้มีแบคทีเรียโพรไบโอติกส์ชนิดดีมากกว่าแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรค ไม่มีผลต่อการบีบรัดมดลูก ไม่เสี่ยงต่อการแท้ง หรือมีผลขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน ซึ่งเหมาะกับสตรีวางแผนเตรียมตั้งครรภ์ และคนทั่วไปที่ต้องการดูแลสุขภาพ ด้วย Ferty Probiotics By KruKoy ที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ที่ดีต่อระบบลำไส้และระบบภายในสตรี และมีพรีไบโอติกส์ช่วยเสริมการทำงานของโพรไบโอติกส์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือสามารถติดตามความรู้และเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับโพรไบโอติกส์ที่เหมาะกับผู้ที่เตรียมตั้งครรภ์และมีผู้บุตรยากในการดูแลสุขภาพตามหลักวิทยาศาสตร์ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/BabyAndMom.co.th หรือ แอดไลน์ปรึกษาครูก้อยได้โดยตรงผ่านทางไลน์แอด @babyandmom.co.th