การเสริมสร้างไอคิว(Intelligence Quotient – IQ)ให้กับลูกน้อยนั้นสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ลูกอยู่ในครรภ์กันเลยทีเดียวซึ่งถือว่ายิ่งเตรียมตัวเร็วเท่าไรก็ยิ่งดีกับลูกมากขึ้นเท่านั้น ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ววันนี้เราจะขอมาแนะนำวิธีง่ายๆ ในการเสริมสร้างไอคิวให้กับลูกน้อยตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์กันเลยดีกว่า
สารบัญ
เริ่มง่ายๆ ที่ตัวคุณแม่เอง
คุณแม่อย่าลืมที่จะอารมณ์ดีอยู่เสมอ
อารมณ์ดีมีความสุขไม่เครียดสิ่งเหล่านี้จะหลั่งสารแห่งความสุขออกมาซึ่งมันสามารถช่วยให้ทั้งร่างกายและจิตใจของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์แข็งแรงขึ้นได้อย่างแน่นอนและที่สำคัญมันยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาไอคิวให้กับลูกน้อยของคุณได้อีกทางหนึ่งด้วย
และในทางตรงกันข้ามถ้าคุณแม่มักเครียดอยู่บ่อยๆ ร่างกายของคุณแม่นั้นก็จะหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมาแทนซึ่งมันคือสารที่อาจส่งผลกระทบเมื่อลูกของคุณคลอดออกมาแล้วก็เป็นได้
อาหารก็สำคัญ
อาหารที่ดีที่คุณแม่ทานเข้าไปนั้นย่อมมีผลโดยตรงต่อลูกอย่างแน่นอน ดังนั้นอยากให้คุณแม่มองหาอาหารที่มีทั้งโปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม และวิตามินที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมองของลูกในครรภ์ และพยายามเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง
คนท้องก็ออกกำลังกายได้
เมื่อคุณแม่ท้องนั้นการออกกำลังกายตามสมควรคือสิ่งที่ควรทำเพื่อให้ร่างกายของคุณแม่นั้นมีระบบไหลเวียนเลือดและระบบหายใจที่ดีซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลดีต่อลูกในครรภ์ได้อย่างแน่นอน และนอกจากนี้การที่คุณแม่ขยับเพื่อออกกำลังกายนั้นก็จะทำให้ลูกในครรภ์เกิดการขยับตามไปด้วยนั่นเอง
พูดคุยเล่นกับลูกบ่อยๆ
เดี๋ยวนี้มีอุปกรณ์ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่คุยและได้ยินความเคลื่อนไหวของลูกในครรภ์ได้ง่ายขึ้นแล้วซึ่งการพูดคุยหยอกล้อ ลูบท้อง เล่านิทาน ชวนลูกฟังเพลง อยู่บ่อยๆ ตลอดระยะเวลาที่ตั้งครรภ์นั้นมีความสำคัญกับพัฒนาการของเขาเป็นอย่างมาก เพราะระบบประสาทต่างๆ ของเขาเหมือนได้รับการกระตุ้นแล้วทำให้เขาเรียนรู้ที่จะตอบสนองนั่นเอง และถ้าทำไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องยังถือว่าเป็นการช่วยเสริมพัฒนาการด้านการฟังและช่วยเสริมความจำให้กับลูกคุณอีกด้วย
มาส่องไฟฉายใส่ลูกกันดีกว่า
เมื่ออายุครรภ์ประมาณ 7 เดือน ลูกจะมีความสามารถในการกระพริบตาได้แล้ว ดังนั้นถ้าคุณได้ลองส่องไฟฉายผ่านหน้าท้องของคุณแม่ดูจะมีส่วนช่วยให้เซลล์สมองและประสาทส่วนรับภาพและการมองเห็นได้รับการพัฒนาที่ดีขึ้นนั่นเอง
นี่คือการเตรียมพร้อมด้านไอคิวให้กับลูกในครรภ์เบื้องต้นสนามจริงคือหลังจากที่เขาคลอดออกมาแล้วนั่นเองที่ยังต้องใส่ใจดูแลเขาอีกเยอะ แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าลูกจะมีไอคิวที่สูงขนาดไหนคุณพ่อคุณแม่ก็ห้ามลืมที่จะพัฒนาอีคิวของเขาให้ดีขึ้นไปตามด้วย เพราะมันคงไม่ดีเท่าไรนักที่ลูกจะฉลาดแต่ไม่มีสังคมอย่างที่ควรจะเป็น