TOP 5 หนังสือเสียงสำหรับเด็ก แบบไหนดี 2022 เสริมทักษะการเรียนรู้

ผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก
JESSIE MUM

หนังสือเสียงสำหรับเด็ก หรือ Sound Book เป็นหนังสือที่จะช่วยเสริมพัฒนาการ เสริมทักษะและความรู้ให้กับเด็กๆในความดูแลของคุณพ่อคุณแม่ได้ นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็นกิจกรรมในการเล่นและฟังภายในครอบครัวได้อีกด้วย นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่และลูกๆได้อีกด้วย สำหรับผู้ปกครองที่กำลังมองหาหนังสือเสียงให้กับลูกๆ มาดูกันว่าหนังสือพูดได้แบบใดที่เหมาะสมต่อวัยในการเรียนรู้ของเด็กกันบ้าง ไปดูกันเลย

หนังสือเสียงสำหรับเด็ก มีกี่ประเภท

หนังสือเสียงสำหรับเด็ก มีด้วยกันหลากหลายประเภท จะแยกออกเป็นทักษะความรู้ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกได้ตามต้องการ ว่าต้องการให้ลูกน้อย เสริมความรู้และทักษะทางด้านใดบ้าง ซึ่งประเภททั้งหมดที่ถูกสร้างขึ้นมา ก็มีการหาความรู้และพัฒนาขึ้นมาจากหนังสือที่เด็กควรอ่าน หรือคัดมาแล้วว่าหนังสือเสียงแบบใดที่เหมาะกับเด็กบ้าง โดยจะมีการแบ่งประเภทออกไป ดังต่อไปนี้

หนังสือเสียง ระดับเริ่มต้น

หนังสือพูดได้ระดับเริ่มต้น เหมาะสำหรับเด็กที่เริ่มเข้าสู่ช่วงอายุ 1-3 ขวบ หนังสือถูกออกแบบมาให้สามารถกดเพื่อเล่นเสียงเพียงปุ่มเดียว โดยส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการ์ตูน นิทานสำหรับเด็ก ที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน และเป็นเนื้อหาเพียงสั้นๆ ที่จะช่วยเสริมทักษะทางด้านการอ่าน การฟังให้แก่เด็กได้เป็นอย่างดี

หนังสือเสียง ระดับกลาง

หนังสือพูดได้ระดับกลาง จะเพิ่มปุ่มสำหรับกดเล่นเสียงขึ้นมาอีกประมาณ 3-7 ปุ่ม ซึ่งจะมีการเล่นเสียงเพียงสั้นๆ เท่านั้น ให้เหมาะกับเนื้อเรื่องภายในหนังสือตามแต่ละหน้า อย่างเช่น เสียงของรถไฟ เสียงหัวเราะ เหมาะสำหรับเด็กในวัย 1-5 ขวบ

หนังสือเสียงจากสิ่งแวดล้อม

หนังสือพูดได้ที่มีเสียงมาจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว ไม่ว่าจะเป็น เสียงน้ำตก เสียงรถ เสียงเรือ เสียงจากสิ่งของต่างๆ จะช่วยกระตุ้นความคิด จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น ประสาทสัมผัส ทำให้เด็กสามารถจดจำเสียงจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้เป็นอย่างดี

หนังสือเสียงจากสัตว์ต่างๆ

เป็นหนังสือที่หนังสือพูดได้เป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ เป็นอย่างมากซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมเสียงจากบรรดาสัตว์ต่าง ๆ จากรอบโลก ช่วยเสริมสร้างจินตนาการ และการจดจำของเด็กได้เป็นอย่างดี ทำให้เด็กสามารถเลียนเสียงจากสัตว์เหล่านี้ได้ และจดจำได้ว่าเสียงนี้เป็นเสียงของสัตว์ชนิดใด

หนังสือเสียงคำศัพท์

หนังสือเสียงคำศัพท์ เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ที่ต้องการให้ลูกพัฒนาทางด้านการพูดที่มากยิ่งขึ้น เมื่อลูกน้อยเริ่มเปล่งเสียงพูด จะเริ่มจดจำคำพูดจากพ่อแม่ การใช้หนังสือพูดได้อย่างคำศัพท์ ตัวอักษร จะช่วยกระตุ้นการฟังและการพูดของเด็กได้เป็นอย่างดี

ประโยชน์ที่จะได้รับจากหนังสือเสียง

  1. หนังสือเสียงช่วยเสริมความรู้ พัฒนาการ ทางด้านคำศัพท์ของเด็ก ๆ ได้
  2. หนังสือเสียงจะช่วยเพิ่มระดับสมาธิของเด็ก ให้มีสมาธิมากยิ่งขึ้น สามารถจดจ่อทำสิ่งตรงหน้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่อกแว่ก
  3. ช่วยสร้างจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ได้เป็นอย่างดี
  4. พัฒนาความสัมพันธ์ภายในครอบครัว หากใช้หนังสือเสียงเป็นกิจกรรมยามว่าง
  5. ส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ ความคิด และช่วยกระตุ้นระบบประสาทสัมผัสในการฟังจากหนังสือเสียงได้

5 หนังสือเสียงสำหรับเด็ก ช่วยเสริมทักษะ เพิ่มการเรียนรู้

หนังสือเสียง Songs for Kids

หนังสือเสียง Songs for Kids
หนังสือเสียงเพลง ที่มีเพลงให้เล่นมากถึง 30 เสียง 30 ปุ่ม ช่วยเสริมทักษะทางด้านการฟัง การออกเสียง คุณภาพเสียงดี ช่วยให้เด็กสามารถเพลิดเพลินไปกับการเล่นหนังสือเสียงได้ ช่วยพัฒนาการทางด้านอารมณ์ ให้เด็กมีอารมณ์ดีที่ขึ้น สดใส  เหมาะสำหรับเด็กในช่วงอายุแรกเกิด ไปจนถึง 3 ปี

จำนวนหน้า ไม่ระบุ
เหมาะกับช่วงอายุ แรกเกิด – 3 ปี

หนังสือเสียง 3 ภาษา

หนังสือเสียง 3 ภาษา
หนังสือพูดได้ ที่สามารถเล่นเสียงได้มากถึง 3 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ และจีน ช่วยพัฒนาคำศัพท์ของเด็ก ความรู้และความเข้าใจของภาษา โดยมีหมวดให้เลือกเล่นถึง 5 หมวด ไม่ว่าจะเป็น อาชีพ สัตว์ ยานพาหนะ ยานพาหนะ และ ตัวเลข นอกจากนี้ ยังมีเสียงเพลงให้เด็กเลือกเล่น ถือว่าเป็นหนังสือเสียงที่สารพัดประโยชน์มากๆ

จำนวนหน้า 10 หน้า
เหมาะกับช่วงอายุ อายุ 3 ปี ขึ้นไป

หนังสือเสียง 2 ภาษา

หนังสือเสียง 2 ภาษา
หนังสือพูดได้ ที่มีเกมทักษะให้เด็กได้ร่วมสนุก เสริมสร้างพัฒนาการทางด้านการเรียนรู้ มีทั้งภาพและเสียง ให้เด็กสะกดไปด้วยพร้อมๆกัน มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เสียงสัตว์ เสียงตัวสะกด ผัก ผลไม้ ช่วยให้เด็กหัดจำ หัดพูด และหัดอ่านได้อย่างคล่องแคล่ว

จำนวนหน้า 18 หน้า
เหมาะกับช่วงอายุ อายุ 3 ปี ขึ้นไป

หนังสือเสียงจินดา 3 ภาษา

หนังสือเสียงจินดา 3 ภาษา
หนังสือพูดได้ ที่มีฟังก์ชันเสริมในการเขียน ช่วยฝึกการเขียนให้แก่ลูกน้อยได้ด้วย มาพร้อมกับภาพและเสียงมากถึง 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย จีน และ อังกฤษ มีแบบฝึกหัดให้ทำ ให้เด็กได้ลองเขียน ด้วยปากกาที่เขียนและลบได้ในแท่งเดียว เล่นเกมถามตอบภายในเล่ม พร้อมเสียงเพลงสร้างความเพลิดเพลินใจ

จำนวนหน้า 20 หน้า
เหมาะกับช่วงอายุ อายุ 3 ปี ขึ้นไป

หนังสือเสียงไดโนเสาร์และสัตว์

หนังสือเสียงไดโนเสาร์และสัตว์
หนังสือพูดได้ ที่มีเสียงสรรพสัตว์จากในฟาร์ม รวมถึงเสียงสิ่งแวดล้อมมากๆ ช่วยเสริมสร้างจินตนาการของลูกน้อย พร้อมเสียงประกอบการเล่าเรื่อง ภาพประกอบสวยงามสีสันสดใส ไม่ว่าจะเป็น เสียงร้องของไดโนเสาร์ เสียงไก่ภายในฟาร์ม ช่วยให้เด็กๆสนุกสนานไปกับการเล่นและฟังไปพร้อมๆกัน

จำนวนหน้า ไม่ระบุ
เหมาะกับช่วงอายุ อายุ 3 ปี ขึ้นไป

เป็นอย่างไรบ้าง สำหรับหนังสือที่เด็กควรอ่าน ที่ได้แนะนำไปทั้งหมด ซึ่งหนังสือเสียงเหล่านี้ จะช่วยพัฒนาและเสริมสร้างความรู้ทางด้านการคิด การอ่าน การเขียน และการฟังให้แก่เด็กได้เป็นอย่างดี คุณพ่อคุณแม่ สามารถเลือกซื้อได้ตามความเหมาะสมของลูกๆในแต่ละช่วงวัย ซึ่งทักษะเหล่านี้ ถือว่าเป็นมีความเกี่ยวข้องและมีบทบาทที่ค่อนข้างสำคัญต่ออนาคตของลูกน้อยเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมที่จะร่วมฟังและอ่านหนังสือเสียงไปพร้อมกับลูกๆ เพื่อให้เด็กมีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP