โรคฝีดาษลิงคืออะไร ป้องกันได้อย่างไร

โรค

สาเหตุที่ต้องกล่าวถึงโรคฝีดาษลิง โรคติดต่อที่ทุกคนเกือบจะลืมไปแล้วซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากไวรัสที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับเชื้อไวรัสโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาหรือมีวัคซีนป้องกันแต่ก็ยังสามารถควบคุมการระบาดได้โดยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันได้ 85% ก็จริงแต่ก็เป็นอันตรายต่อเด็กเล็กเพราะมีโอกาสที่จะเสียชีวิตได้ โดยฝีดาษลิงยังมีรายงานการเกิดเชื้อไวรัสโรคฝีดาษลิง 2 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ

  • สายพันธุ์แอฟริกากลาง (โรคติดต่อจากคนสู่คน)
  • สายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก

ทำความรู้จักกับโรคฝีดาษลิง หรือไข้ทรพิษ

โรคฝีดาษลิงเกิดจากการติดเชื้อ Monkeypox Virus มีการค้นพบครั้งแรกปี พ.ศ. 2501 (ค.ศ. 1958) โดยจะพบในสัตว์จำพวกลิงและยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกด้วยว่าสามารถจะพบได้ในสัตว์ตระกูลฟันแทะต่าง ๆ เช่น กระรอก หนู กระต่าย เป็นต้น และเริ่มพบการระบาดในคนครั้งแรกในประเทศคองโก เมื่อปี พ.ศ. 2513 (ค.ศ. 1970)
ปัจจุบันโรคฝีดาษลิงยังไม่มีการรักษาเฉพาะโรค แต่เพราะเชื้อมีลักษณะใกล้เคียงกับไวรัสไข้ทรพิษ ทำให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษเพื่อเป็นการป้องกัน หรือเรียกว่า การปลูกฝี เป็นการควบคุมการแพร่ระบาดได้ ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2523 (ค.ศ. 1980) องค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่าปราศจากโรคไข้ทรพิษแล้ว จึงยุติการฉีดวัคซีน ส่งผลให้เด็กที่เกิดช่วงหลังปี พ.ศ. 2523 (ค.ศ. 1980) จะไม่ได้รับวัคซีนไข้ทรพิษอีก

โรคฝีดาษลิง มีอาการเป็นอย่างไร

โรคฝีดาษลิง จะมีอาการที่สังเกตได้เบื้องต้นหลังจากที่ได้รับเชื้อมาแล้วโดยประมาณ 12 วัน โดยจะเป็นเชื้อไวรัส Othopoxvirus จะอยู่ในต่อมน้ำเหลืองและใช้เวลาฟักตัวอยู่ที่ 7-21 วัน จึงเริ่มแสดงอาการมีไข้จากนั้นจะเริ่มแพร่กระจายเชื้อให้ผู้อื่น โดยระยะการแพร่ระบาดที่ถึงแม้จะยังไม่พบในไทยแต่ก็เป็นโรคติดต่อที่ควรจะต้องเฝ้าระวังไว้ด้วยเช่นกัน

ระยะก่อนออกผื่น (Invasion Phase)

  • หลังจากระยะฟักตัวแล้วผู้ป่วยจะเริ่มด้วยอาการมีไข้ ปวดหัว ปวดตัว ปวดหลัง อ่อนเพลีย และต่อมน้ำเหลืองโต
  • อาการต่อมน้ำเหลืองโต เป็นอาการจำเพาะของโรคฝีดาษลิง ซึ่งแตกต่างจากโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (Smallpox) ชนิดอื่นที่มีตุ่มน้ำตามมา
  • อาจมีอาการทางระบบหายใจ เช่น ไอหรือเจ็บคอ หรือระบบทางเดินอาหาร เช่น มีอาการท้องเสีย อาเจียน เป็นต้น

ระยะออกผื่น (Skin Eruption Phase)

  • หลังจากมีไข้ประมาณ 3 วัน จะเริ่มมีผื่นขึ้นตามตัว หน้า ฝ่ามือ และฝ่าเท้า โดยผื่นจะมีขนาด 2 – 10 มิลลิเมตร และมักจะหนาแน่นที่บริเวณใบหน้า และแขนขามากกว่าตามตัว
  • ลักษณะตุ่มผื่นที่ขึ้นจะมีรูปแบบการเปลี่ยนแปลงพร้อมกัน โดยเริ่มจากรอยแดงเป็นตุ่มนูนแดง ตุ่มน้ำใส ตุ่มน้ำหนอง และจากนั้นจะแห้งออกหรือแตกออกแล้วหลุด
  • ระยะออกผื่นโรคฝีดาษลิง จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ผื่นจะเริ่มกลายเป็นตุ่มหนองแตกจากนั้นจะแห้งและหลุดออกมา
  • ผู้ป่วยใหญ่สามารถหายจากโรคเองได้แต่หากผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำและมีโรคประจำตัว อาจมีภาวะแทรกซ้อนได้จนถึงขั้นเสียชีวิตได้

โรคฝีดาษลิงติดต่อยังไง

  • โรคฝีดาษลิงสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้จากการสัมผัสใกล้ชิด โดยผ่านการสัมผัสทางผิวหนังกับผู้ติดเชื้อโดยตรง หรือสัมผัสกับวัตถุต่าง ๆ ที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสชนิดนี้
  • ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงนี้สามารถจะเสียชีวิตได้ โดยมีอัตราการเสียชีวิตมากถึง 1-10% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กเล็ก เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องเฝ้าระวัง
  • ไม่พบว่าติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ แต่เชื้อโรคก็สามารถจะติดต่อกันได้ผ่านการสัมผัสกับตุ่มตามผิวหนัง รวมไปถึงละอองจากทางเดินหายใจ

วิธีการป้องกันโรคฝีดาษลิง

  • ควรจะต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ป่วย สัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคฝีดาษลิงโดยเฉพาะลิง และสัตว์ฟันแทะต่าง ๆ
  • งดการเล่น หรือแหย่สัตว์จำพวกลิง หรือที่เป็นสัตว์ฟันแทะ เพราะการถูกขีดข่วนจากสัตว์ก็สามารถจะได้รับเชื้อจากโรคฝีดาษลิงได้
  • ควรต้องหมั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์โดยเฉพาะหากมีการสัมผัสสัตว์ หรือสิ่งของสาธารณะต่าง ๆ ซึ่งอาจจะมีเชื้อไวรัสของโรคฝีดาษลิง
  • ควรจะต้องรับประทานอาหารที่ปรุงสุกเท่านั้น ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีเนื้อสัตว์ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ เพราะจะเสี่ยงกับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้
  • ควรจะต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสบาดแผล สารคัดหลั่ง ประเภทเลือด น้ำเหลืองของสัตว์ รวมไปถึงบุคคลที่มีแผล ตุ่มหนอง ด้วยเช่นกัน
  • หากจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ หรือโรคระบาดจะต้องดูแลตัวเองให้มากกว่าปกติ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่ง แผล ตุ่มหนอง หรือตุ่มน้ำใส จากผู้มีประวัติเสี่ยง หรือสงสัยว่าติดเชื้อ กรณีที่สัมผัสเชื้อไปแล้ว ควรฉีดวัคซีนป้องกันในกรณีที่ยังไม่เกิน 14 วัน
  • การฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงได้ แต่จะต้องฉีดในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงติดเชื้อเท่านั้น

ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการว่าพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในไทย แต่ก็ต้องยอมรับว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงของการเปิดประเทศเพื่อให้มีนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาและเพื่อเป็นการสร้างเม็ดเงินให้กับเศรษฐกิจไทย จึงอาจจะมีความเสี่ยงจากนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงจากการระบาดของโรคฝีดาษลิงในช่องทางการเข้าออกระหว่างประเทศ หรือผู้ที่เดินทางไปในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญของไทย ดังนั้นหน้าที่ของเราคือการป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด
ข้อมูลอ้างอิง : SIKARIN / Praram9 Hospital / naewna

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP