เรื่องควรรู้ก่อนพาเจ้าตัวเล็กไปเล่นน้ำ

การเลี้ยงลูกวัย 1-3 ขวบ

เด็กๆ มักจะอยากมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายและเล่นสนุกอยู่เสมอทำให้ในช่วงสุดสัปดาห์และวันพักผ่อนต่างๆ หลายๆ ครอบครัวก็มักจะเตรียมแผนการไปเที่ยวกันและบางครั้งก็จะมีกิจกรรมที่ลูกๆ จะได้เล่นน้ำกันอีกด้วยซึ่งค่อนข้างเหมาะกับสภาพอากาศของประเทศเราเป็นอย่างมากที่ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีอากาศร้อนเป็นหลักทำให้เมื่อเด็กๆ ได้เล่นน้ำกันแล้วล่ะก็จะสนุกติดใจกันแทบทุกรายเลยทีเดียว

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเล่นน้ำของเด็กๆ นั้นก็แอบมีอันตรายซ่อนอยู่ยิ่งถ้าเป็นการพาเขาไปเล่นน้ำยังสถานที่ต่างๆ ด้วยแล้วล่ะก็ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ สวนน้ำ แหล่งน้ำธรรมชาติอย่างน้ำตก หากบางครั้งละเลยหรือมีเหตุการณ์ฉุกเฉินใดๆ ขึ้นมาก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายกับลูกได้ง่ายๆ เลยทีเดียว วันนี้เลยจะขอมาแนะนำเทคนิคในการดูแลและเตรียมตัวกันให้ดีก่อนที่จะพาลูกน้อยไปเล่นน้ำกัน เพื่อที่จะทำให้การเล่นน้ำทุกครั้งของคุณและลูกเป็นความสนุกและเป็นความทรงจำที่ดีในอนาคต

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนพาเจ้าตัวเล็กไปเล่นน้ำ

1.เริ่มต้นจากการทำความรู้จักกับสถานที่ให้ดีก่อน

ก่อนที่จะตัดสินใจไปเที่ยวเล่นพักผ่อนที่ไหนคุณควรตรวจสอบสถานที่และบริเวณโดยรอบให้ดีก่อนว่ามีความเหมาะสมกับอายุของลูกไหม มีมาตรการป้องกันภัยต่างๆ ที่รัดกุมปลอดภัยและเหมาะสมหรือไม่หากเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อเป็นการวางแผนป้องกันที่ถูกต้องนั่นเอง และแม้ว่าคุณจะบอกว่าไปพักผ่อนไม่ได้เล่นน้ำแต่หากบริเวณนั้นมีแหล่งน้ำอยู่นี่ก็ยิ่งต้องระวังให้ลูกอยู่ในสายตาตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย

2.คำนึงถึงอายุของลูกเสมอ

ยิ่งถ้าลูกเป็นเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถสื่อสารได้ดีนั้นก็อยากจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการพาลูกไปเล่นน้ำก่อนเพราะว่าถือว่าเสี่ยงอันตรายอยู่พอสมควรแม้ว่าจะมีอุปกรณ์ป้องกันลูกแล้วก็ตาม หรือหากอยากจะพาไปก็ควรอยู่ในสายตาและใกล้กับคุณพ่อคุณแม่ตลอด แต่ถ้าเป็นเด็กที่เล็กมากจริงๆ อยากจะขออุนญาตแนะนำให้ซื้อสระน้ำเป่าลมมาเล่นกันที่บ้านก่อนจะดีกว่าเพราะว่าตื้นและปลอดภัยกับลูกเล็กมากว่า

3.อุปกรณ์ว่ายน้ำและป้องกันอันตรายต้องครบ

ห่วงยา เสื้อชูชีพ แว่นตากันน้ำ และชุดว่ายน้ำ นี่คือสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยและอย่าเน้นแต่ความสวยงามเท่านั้นให้คำนึงถึงประโยชน์ของการใช้งานเป็นหลัก อย่างเช่นห่วงยางควรพอดีกับตัวลูกและเสื้อชูชีพด้วยเช่นกันรวมทั้งอย่าลืมที่จะตรวจสอบตัวล็อกของเสื้อชูชีพให้ดีด้วย แว่นตากันน้ำใส่ไว้ให้เขาเพื่อที่จะไม่ทำให้เขาแสบหรือระคายเคืองตาซึ่งในบางกรณีน้ำอาจจะมีสิ่งสกปรกเจื้อปนอยู่โดยที่ไม่รู้และทำร้ายดวงตาของลูกได้และยังเป็นการป้องกันไม่ให้ลูกเสียสมาธิในการเล่นน้ำเมื่อมีสิ่งมาทำให้เขาแสบตาอีกด้วย และปิดท้ายที่ชุดว้ายน้ำอย่าละเลยและให้ใส่เสื้อผ้าธรรมดาเด็ดขาดเพราะเสื้อผ้าทั่วไปนั้นจะอุ้มน้ำมากมีผลทำให้ดึงหรือถ่วงการเล่นน้ำของลูกนั่นเอง

4.เรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาด้วย

อุบัติเหตุคือสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอแม้ว่าจะรอบคอบและรัดกุมมากแค่ไหนก็ตามจึงไม่ควรประมาทและเรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเอาไว้เพื่อที่จะจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างทันท่วงทีเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นบางครั้งแค่เสี้ยววินาทีก็สำคัญและมีวิธีแนะนำเพิ่มเติมหากเกิดกรณีที่ลูกจมน้ำ

สิ่งที่ห้ามทำหากลูกจมน้ำ

  1. ห้ามอุ้มเด็กจมน้ำพาดบ่า เพราะอาจทำให้สำลัก ขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิตได้
  2. อย่าเป่าปากแรงเกินไปเพราะปอดเขายังเล็กกว่าผู้ใหญ่มากอาจทำให้ถุงลมแตกได้เลยทีเดียว
  3. มีสติและช่วยเหลือชีวิตให้ทันภายใน 4 นาทีเพราะมีเวลาจำกัดเพียงเท่านี้ก่อนทุกอย่างจะสาย

สิ่งที่ควรทำเมื่อลูกจมน้ำ

  1. พาขึ้นมาจากน้ำให้เร็วที่สุด
  2. โทร. 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือทันที
  3. พยายามคลำหาชีพจนของเด็กถ้าเป็นเด็กโตคลำที่คอและถ้าเป็นเด็กเล็กอยู่ที่ศอก
  4. หากไม่พบชีพจรให้ทำการผายปอดและปั๊มหัวใจไม่ให้หยุดเต้นทันที
  5. จับเด็กนอนตะแคงเพื่อให้น้ำไหลออกมาและรีบนำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

และถ้าหากคุณพ่อคุณแม่สามารถศึกษาสถานที่พักผ่อนเอาไว้เป็นอย่างดีแล้วว่ามีมาตรการป้องกันอันตรายเป็นอย่างดีหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นก็สามารถอุ่นใจได้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยลูกได้อย่างทันเวลาและถูกวิธี ดังนั้นก่อนจะพาลูกไปเที่ยวพักผ่อนก็ควรศึกษาทั้งการเดินทาง สถานที่เที่ยว สถานที่พักด้วยความรอบคอบเพื่อที่จะลดความเสี่ยงให้มากที่สุดและถ้าหากเกิดความเสี่ยงจะได้ส่งผลเสียให้น้อยที่สุดนั่นเอง

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP