อาการแพ้สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมหรืออาหารนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถรู้ได้จนกว่าจะเกิดอาการแพ้ครั้งแรกขึ้นมา ซึ่งสำหรับสมาชิกใหม่ของบ้านก็อาจจะต้องให้คุณพ่อคุณแม่คอยดูแล สังเกต และอาการต่างๆ ของเขาเป็นพิเศษว่าเมื่อทำกิจกรรมไหนหรือทานอะไรแล้วเกิดอาการแปลกๆ เข้าข่ายอาการแพ้บ้างหรือเปล่า
แต่ก็อาจจะมีคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายๆ คนที่ยังไม่ค่อยรู้จักกว่าขั้นแรกของอาการแพ้ที่ลูกจะแสดงออกมาให้คุณรู้นั้นจะเป็นอย่างไรบ้างและถ้าเจอแล้วต้องแก้ไขเฉพาะหน้ากันอย่างไรดี…วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณพ่อคุณแม่กันเรียบร้อยแล้วมาเริ่มเรียนรู้แล้วนำไปสังเกตอาการของลูกคุณกันก่อนที่เขาจะมีอาการแพ้แต่คุณพ่อคุณแม่ยังไม่รู้ตัวและอาจเป็นอันตรายร้ายแรงกับเขาได้
สารบัญ
อาการแพ้ที่ว่าจะแสดงออกมาอย่างไรบ้าง?
1.แพ้ทางผิวหนัง
นี่คือพื้นฐานของอาการแพ้ที่สามารถพบเห็นกันได้มากและง่ายที่สุด อาการส่วนใหญ่กอย่างเช่น มีผื่นขึ้นบริเวณใบหน้า แก้ม แขน ขา แล้วถ้าลูกมีผื่นขึ้นมาแล้วนั้นอยากให้สังเกตอาการของลูกต่อด้วยว่ามีอาการคันร่วมด้วยหรือไม่ ถ้าเป็นเด็กเล็กอาจจะมีอาการที่ดูหงุดหงิดหรือพยายามเอาหน้าหรือบริเวณที่คันไปถูกับสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อลดความคันตามสัญชาตญาณ แต่ถ้ามีบางรายที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงนั้นผื่นจะมีลักษณะที่นูนแดงคล้ายกับอาการลมพิษ ถึงแม้จะพบได้ไม่บ่อยแต่หากเกิดขึ้นแล้วต้องรีบจัดการพาลูกไปพบแพทย์อย่างด่วน
2.แพ้ที่ระบบทางเดินอาหาร
เด็กเล็กอาจจะยังไม่สามารถสื่อสารบอกอาการให้คุณรู้ได้แต่ส่วนใหญ่เด็กมักจะมีอาการหงุดหงิดจากอาการไม่สบายที่เขาเผชิญอยู่และอาจจะเกิดการอาเจียน ถ่ายเหลว ให้คุณได้เห็นก็เป็นได้ ส่วนใหญ่อาการแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเด็กที่แพ้โปรตีนจากนมวัว แม้ว่าครั้งแรกที่ลูกถ่ายคุณจะสังเกตเห็นแต่หากยังเป็นแค่ครั้งเดียวก็อาจจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นแน่ถ้าลูกยังถ่ายเหลวหลายครั้งติดต่อกัน หรือในบางครั้งอาจจะรุนแรงถึงขั้นมีเลือดติดออกมาด้วยก็เป็นได้
3.แพ้ทางระบบทางเดินหายใจ
เมื่อคุณได้ยินเสียงหายใจของลูกและสัมผัสได้ว่ามันไม่ปกตอ มีเสียงดัง ครืดคราด และดูว่าลูกนั้นหายใจไม่ค่อยสะดวก และดูท่าแล้วจะเรื้อรังสังเกตมาหลายวันก็ไม่หายเสียที นี่คืออาการแพ้ที่ร่างกายของลูกส่งสัญญาณบอกคุณอยู่และถ้ามีอาการแพ้อย่างรุนแรงลูกจะมีอาการของโรคหืดเข้ามาร่วมด้วย แม้จะพบได้ไม่บ่อยแต่ก็ยังคงต้องระวังดูแลลูกอยู่ดี
แล้วการป้องกันอาการแพ้เบื้องต้นให้เด็กๆ ทำอย่างไรดี?
การป้องกันและแก้ไขอาการแพ้ของลูกถ้าจะให้ดีควรเริ่มตั้งแต่แรกเกิดให้เขาได้กินนมแม่เป็นหลักเพราะนมแม่คือแหล่งของสารอาหารที่ช่วยให้เด็กมีภูมิคุ้มกันที่ดีนั่นเอง และยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่ลูกจะแพ้โปรตีนจากนมวัวในอนาคตได้อีกด้วย
แต่ถ้าเกิดผ่านมาจนถึงขั้นที่ลูกเกิดอาการแพ้แล้วล่ะก็ไม่ควรรอช้ามาดูวิธีป้องกันและแก้ไขเบื้องต้นกันก่อนเลย
- หากพบอาการที่ต้องสงสัยหรือมีอาการที่เข้าข่ายอย่างที่ได้ยกตัวอย่างไปข้างต้นแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ในทันทีเพื่อให้ตรวจเช็คอย่างละเอียด
- ถ้าต้องการให้อาหารเสริมกับลูกควรค่อยๆ เริ่มให้อย่างช้าๆ เพื่อที่จะได้สังเกตอาการแพ้และหากพบว่าไม่มีอาการแพ้ก็ค่อยๆ เพิ่มปริมาณให้เท่ากับปริมาณที่เหมาะสมที่ลูกควรจะได้รับต่อไป เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่จะทำให้ลูกต้องพบเจอกับอาการแพ้ต่างๆ นั่นเอง
- ลดปัญหาการแพ้อาหารด้วยการที่คุณพ่อคุณแม่เข้าครัวทำของกินเองเสียเลย การปรุงเองและอาหารที่ทำที่บ้านนั้นส่วนใหญ่ก็จะปราศจากสิ่งเจือปนและผงชูรสแถมยังมีขั้นตอนและวิธีการที่สะอาดกว่าอีกด้วย ทั้งยังสามารถเสริมเติมแต่งอาหารที่มีประโยชน์ต่อโภชนาการของลูกเข้าไปได้ตามใจชอบอีกด้วย
อาการแพ้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับวัยไหนก็สร้างความทรมานและน่ารำคาญอยู่แล้วแต่หากยิ่งเกิดขึ้นกับเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถสื่อสารอาการเจ็บปวดหรือสื่อสารได้อย่างไม่ถูกต้องก็ยิ่งจะสร้างความเจ็บปวดให้กับเขาและในบางกรณีอาจกระทบไปถึงความมั่นใจและการใช้ชีวิตประจำวันของลุกได้เลยทีเดียว
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการจากกิจกรรมและอาหารการกินของลูกให้เป็นอย่างดีเพื่อที่จะแก้ไขทุกอย่างได้ทันเวลาป้องกันอันตรายที่จะเกิดจากอาการแพ้ของลูกได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง