ภูมิแพ้ภัยใกล้ลูกที่พ่อแม่ต้องรู้ให้ทัน

โรค
JESSIE MUM

ถ้าลูกของคุณกำลังมีอาการ ไอ จาม คัน ผื่นขึ้น ขยี้ตาอยู่บ่อยๆ และอาการเหล่านี้เป็นเรื้อรังนั่นก็คือเป็นแล้วหายเป็นแล้วหายวนไปมาซ้ำๆ อยู่แบบนี้ นั่นคือสิ่งที่คุณต้องสังเกตและรีบพาลูกไปตรวจหาสาเหตุของอาการเหล่านี้โดยเร็วเพราะมันอาจเป็นสัญญาณของโรคภูมิแพ้นั่นเอง

หลายๆ คนอาจยังสงสัยว่าแล้วภูมิแพ้มันคืออะไร ภูมิแพ้เกิดจากภูมิคุ้มกันภายในร่างกายนั้นมีการตอบสนองต่อสิ่งที่แพ้มากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดการอักเสบเรื้อรังที่อวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ผิวหนัง เยื่อบุตา เยื่อบุจมูก เยื่อบุทางเดินหายใจ หรือแม้กระทั่งเยื่อยุทางเดินอาหาร เป็นต้น

ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ลูกเสี่ยงเป็นภูมิแพ้มาจาก 2 กรณี นั่นก็คือ ปัจจัยด้านกรรมพันธุ์ กับ ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม นั่นเอง ดังนั้นก็เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะต้องเช็คตนเองและครอบครัวว่ามีใครเคยเป็นภูมิแพ้หรือไม่และยังต้องคอยดูสภาพแวดล้อมของลูกทั้งที่บ้าน นอกบ้าน ว่าเป็นปัจจัยส่งผลให้ลูกเกิดอาการภูมิแพ้ได้หรือไม่อีกด้วย

ประเภทของโรคภูมิแพ้ที่พบบ่อยในเด็ก

โรคหืด

เกิดจากทางเดินหายใจที่บวมจนทำให้เกิดตีบแคบ มีอาการหายใจเสียงดังและมีอาการหอบ จนลามไปถึงการแน่นหน้าอก โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะชอบอาจเกิดอาการในตอนกลางคืนบ้าง ตอนออกกำลังกายหนักๆ อยู่บ้าง หรือขณะเป็นหวัดอยู่นั่นเอง ซึ่งเด็กๆ ที่เป็นจะค่อนข้างทรมานและมีอาการตกใจกลัวเป็นอย่างมากเพราะส่วนใหญ่จะต้องเผชิญกับการหายใจไม่ออก หายใจไม่ทัน ผสมรวมกับการร้องไห้กลัวจึงทำให้เป็นจุดที่พ่อแม่ต้องคอยระวังเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

โรคเยื่อบุจมูกอักเสบ

เด็กๆ จะมีอาการทั้ง จาม คัน คัดจมูก มีน้ำมูกใส โดยอาการต่างๆ เหล่านี้จะเป็นแบบเรื้อรังติดต่อกันอยู่หลายสัปดาห์เลยทีเดียว บางคนอาจจะเป็นในช่วงฤดูฝนหรือบางคนอาจจะเป็นตลอดทั้งปีเลยทีเดียว

โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

มี ผื่น คัน ทำให้เด็กๆ นั้นต้องเกาจนทำให้ผิวหนังแดงถลอกและเป็นแผลได้เลยทีเดียว โดยอาการเหล่านี้เป็นอาการแบบเรื้อรังจะพบในเด็กเล็กและผื่นต่างๆ จะมีอาการมากขึ้นเมื่อมีสิ่งกระตุ้นเข้ามา เช่น อากาศที่ร้อนจนทำให้เหงื่อออก การแพ้อาหารต่างๆ หรือไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งกระตุ้นรวมอยู่ด้วยเป็นต้น

4ผื่นลมพิษ

จะมีอาการคัน บวม ผื่นขึ้นนูนหนาเกิดขึ้นบนผิวหนัง โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการแพ้ยาและอาหารบางชนิด นอกจากนี้การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียบางชนิดก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดลมพิษได้อีกด้วย

แพ้อาหาร

เด็กบางคนจะเกิดปฏิกิริยาแพ้โปรตีนในอาหารก่อให้เกิดผลกระทบกับหลายๆ ระบบในร่างกายได้ ยกตัวอย่างเช่น

  • ระบบทางเดินอาหาร ที่จะมีอาการปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย ถ่ายมีมูกปนเลือด
  • อาการทางผิวหนัง ทำให้มีผื่นขึ้น เป็นลมพิษ
  • ระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบ คัดจมูก มีน้ำมูกเรื้อรัง

โดยอาหารที่พบว่าเป็นสาเหตุที่พบเจอบ่อยๆ สำหรับภูมิแพ้ชนิดนี้นั่นก็คือ นมวัว นมถั่วเหลือง ไข่ และแป้งสาลี เป็นต้น และที่สำคัญก็คืออาการเหล่านี้มักแสดงในขวบปีแรกและมีอาการเรื้อรังเป็นๆหายๆ นั่นเอง

เยื่อบุตาอักเสบ

ภูมิแพ้ชนิดนี้จะทำให้มีอาการแสบตา คันตา น้ำตาไหลอยู่ตลอด ทำให้เด็กๆ คันและขยี้ตาบ่อยๆ จนเป็นผลให้ขอบตาช้ำหรือเป็นสีคล้ำ อาการเหล่านี้จะพบบ่อยร่วมกับอาการเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบภูมิแพ้

มาพบกันวิธีรักษาอาการภูมิแพ้ของลูกๆ กัน

หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้

แม้จะเป็นวิธีที่ฟังแล้วดูยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ 100% แต่อย่างไรก็ตามการพยายามหลีกเลี่ยงให้ไกลจากสารก่อภูมิแพ้พวกนี้ให้มากที่สุดก็ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ อย่างน้อยก็เพื่อให้ลูกได้ลดปริมาณในการใช้ยาลงให้ได้ใช้ยาน้อยที่สุดนั่นเอง

ทำตามแพทย์สั่งอย่าให้ขาด

เป็นวิธีที่ควรทำตามมากที่สุดเพราะคุณหมอจะทราบอาการและการพัฒนาของโรคดีที่สุดการทำตามคำแนะนำจะช่วยปกป้องลูกของคุณจากภูมิแพ้ได้ และยังมีอีกที่ต้องไม่ลืมเช่นกันนั่นก็คือการล้างจมูกด้วยน้ำเกลืออย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
และการพ่นยารวมไปถึงกินยาตามที่คุณหมอให้มานั่นคือสิ่งที่จะสามารถควบคุมการดื้อยาของภูมิแพ้ได้ดีที่สุดและควรพูดคุยซักถามคุณหมอให้มีความเข้าใจตรงกันมากที่สุดเพื่อการรักษาที่ก้าวหน้า

ดูแลร่างกายและจิตใจของลูกให้ดี

เริ่มที่อาหารพอหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจะเป็นสิ่งกระตุ้นอาการภูมิแพ้แล้วก็ต้องให้เด็กๆ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่ตรวจสอบแล้วว่ามีความปลอดภัยกับเด็กๆ มาเล่น มาพูดคุยสนทนากัน เพื่อเสริมสร้างอารมณ์ที่ดีให้กับเขา ไม่ให้ต้องรู้สึกจมกับอาการป่วยมากจนเกินไปและพร้อมจะปรับตัวดูแลตนเองต่อไปในอนาคต

กันไว้ดีกว่าแก้กับวิธีการป้องกันลูกก่อนจะเป็นภูมิแพ้

เด็กบางคนอาจจะรอดพ้นจากการเป็นภูมิแพ้ในช่วงแรกๆ มาแล้วจนบางครั้งทำให้พ่อแม่สบายใจจนอาจจะลืมไปว่าการเป็นภูมิแพ้นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเมื่อรู้แบบนี้แล้วเรามาเรียนรู้วิธีป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้กันตลอดรอดฝั่งกันดีกว่า

ไม่ควรเลี้ยงสัตว์มีขนไว้ในบ้าน

แน่นอนว่าหลายๆ ครอบครัวน่าจะเป็นครอบครัวที่รักสัตว์มากและปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้าสัตว์พวกนี้คือส่วนหนึ่งที่เติมรอยยิ้มให้กับทุกๆ คนในบ้านอย่างแท้จริง แต่ลูกน้อยนั้นยังบอบบางและยังไม่แข็งแรงพอที่จะอยู่ใกล้กับสิ่งที่มีความเสี่ยงจะเป็นสิ่งกระตุ้นมากนัก การเลี่ยงหรือแบ่งเขตในการอยู่อาศัยให้ชัดเจนกับเจ้าสัตว์มีขนอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยให้ลูกห่างไกลจากการเป็นภูมิแพ้นั่นเอง

ในห้องนอนก็ควรมีแต่เครื่องนอนและของที่จำเป็นเท่านั้น

ไม่ควรมีการเก็บสะสมสิ่งต่างๆ เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ กองผ้า กระเป๋า เป็นต้น เพราะสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นแหล่งรวมฝุ่นละอองและทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ได้อีกด้วย

ควรหมั่นทำความสะอาดบ้านและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอากาศให้บ่อยครั้ง

เช่น การทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ พัดลม และอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เครื่องนอน พรม โซฟา รวมไปถึงเสื้อผ้าก็ควรเก็บในที่ที่ปลอดฝุ่นอีกด้วย

การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐนี่คือคำที่ใช้ได้กับทุกเพศทุกวัยอย่างแท้จริง และเมื่อลูกน้อยปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ นั้นคนที่จะสบายใจและมีความสุขไปยิ่งกว่าก็คือคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง เพราะจะได้เห็นการเติบโตของลูกในสิ่งที่ควรจะเป็นโดยไม่ต้องมีโรคภัยเข้ามาเป็นวิกฤตให้ต้องคอยเครียดกันไปทั้งครอบครัว

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP