สำหรับคุณแม่มือใหม่ หลายคนมักเจอปัญหามีน้ำนมให้ลูกไม่เพียงพอ หรือน้ำนมไหลน้อย ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น สุขภาพ ความเครียด และการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าไม่เพียงพอ ซึ่งมีพืชผักผลไม้ไทยใกล้ตัวหลายชนิด ที่จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการช่วยกระตุ้นน้ำนมของคุณแม่ๆ ทั้งหลาย และยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งคุณแม่และคุณลูกอีกด้วย
ใบกะเพรา
มีธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส เส้นใยอาหารสูง ความร้อนจากใบกะเพราช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้มีน้ำนมมากขึ้น แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หวัด คลื่นไส้ อาเจียน ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น ยิ่งถ้าเด็กได้รับจากนมแม่ ก็จะช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อในเด็กด้วย อาหารแนะนำ ก็จะมีแกงเลียง(ใส่ใบกระพรา) แกงป่า ผัดกระเพราต่างๆ
ขิง
ช่วยขับลม แก้อาเจียน ช่วยย่อยไขมันได้ดี ลดการบีบตัวของลำไส้ บรรเทาอาการปวดท้องเกร็ง ขับเหงื่อ เพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำให้น้ำนมไหลได้ดี ลดอาการอาเจียน และเชื่อว่าเมื่อคุณแม่กินเข้าไป สรรพคุณที่ดีของขิงจะผ่านทางน้ำนมไปสู่ลูก ทำให้ลูกไม่ปวดท้อง อาหารแนะนำ คือ ไก่ผัดขิง กุ้งอบวุ้นเส้น(ใส่ขิงเยอะๆ) มันต้มน้ำขิง เต้าฮวยน้ำขิง
กุยช่าย
มีสรรพคุณ ช่วยขับน้ำนม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม อาหารแนะนำ คือนำไปใส่ในผัดก๋วยเตี๋ยวต่างๆ หรือขนมกุยช่าย
ใบแมงลัก
มีรสหอมร้อน ทำให้น้ำนมไหลได้ดี ขับลม ขับเหงื่อ อาจนำมาใส่แกงเลียง กินสดแกล้มกับขนมจีน หรือใส่แกงป่าต่างๆ
พริกไทย
มีรสร้อน ทำให้น้ำนมไหลได้ดี ขับลม ขับเหงื่อ สามารถใส่ในอาหารได้หลายประเภท
หัวปลี
อุดมไปด้วยแคลเซียม (มากกว่ากล้วยสุกถึง 4 เท่า) โปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี บีตาแคโรทีน ช่วยแก้โรคกระเพาะอาหาร ลำไส้ บำรุงเลือด ตั้งแต่โบราณสอนกันต่อๆมาว่าผู้หญิงที่คลอดลูกใหม่ๆ ให้กินหัวปลีมากๆ จะได้มีน้ำนมให้เลี้ยงลูกนานๆ อาหารแนะนำ คือ แกงเลียงหัวปลี ยำหัวปลี ทอดมันหัวปลี หัวปลีต้มจิ้มน้ำพริก
มะละกอ
มีธาตุเหล็กและแคลเซียมสูง และมีเอนไซม์ที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย รวมถึงมีเส้นใยอาหารในปริมาณมาก ช่วยขับน้ำนม บำรุงเลือด บำรุงกระดูก สายตา ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด อาหารแนะนำคือ กินผลสุก หรือนำผลดิบไปทำอาหาร เช่น แกงส้มมะละกอ ส้มตำ
ฟักทอง
มีสารอาหารสำคัญเพื่อบำรุงร่างกายจำนวนมาก ทั้งวิตามินเอ บี ซี ฟอสฟอรัส บีตาแคโรทีน ช่วยขับน้ำนม ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณสดใส และช่วยให้หน้าท้องลายน้อยลงอีกด้วย อาหารแนะนำ ฟักทองผัดไข่ แกงฟักทอง อาจนำมานึ่งรับประทานเปล่าๆ หรือทำเป็นเป็นขนมต่างๆ เช่น แกงบวดฟักทอง ฟักทองสังขยา ฟักทองเชื่อม
มะรุม
มีสารอาหารที่ดีมากสำหรับมารดา และทารก มะรุมถูกนำมาใช้รักษาโรคขาดสารอาหารในเด็กแรกเกิดถึง 10 ขวบ ในกรณีของเด็กแรกเกิดการให้มะรุมทำได้ดีที่สุดโดยผ่านทางน้ำนมมารดาที่กินใบมะรุมอย่างสม่ำเสมอ สารอาหารสำคัญจะผ่านสู่ทารกได้โดยง่าย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มแคลเซียมเข้าไปเสริมกระดูกมารดาได้เป็นอย่างดี ใบและดอกของมะรุมมีสรรพคุณในการขับน้ำนม ซึ่งปัจจุบันมีการศึกษายืนยันฤทธิ์ในการขับน้ำนมของมะรุมแล้ว อาหารแนะนำ คือ แกงส้มมะรุม
ตำลึง
ช่วยบำรุงน้ำนม ทำให้น้ำนมมีมาก บำรุงเลือด บำรุงกระดูก บำรุง สายตา บำรุงผม บำรุงประสาท สามารถนำมาทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น ต้มจืด ผัดตำลึง ใส่แกงเลียง ใส่ในก๋วยเตี๋ยวต่างๆ
เมล็ดขนุน
ช่วยบำรุงน้ำนม ทำให้น้ำนมมีมาก บำรุงประสาท แนะนำให้เอาเม็ดขนุนต้มกินเป็นขนมทุกวันกินจนอิ่มวันละ 1 ครั้งกิน 7-10 วัน
พุทรา
ช่วยบำรุงน้ำนม บำรุงประสาทและสมอง แนะนำให้นำลูกพุทราต้มให้เดือด 10 นาที แล้วเอาน้ำมาดื่มจะทำให้มีน้ำนมมาก หรือรับประทานเปล่าๆ ก็ได้
จากที่กล่าวมาจะเห็นว่า พืชผักที่คนโบราณบอกให้กินเพื่อเรียกน้ำนมนั้น ส่วนใหญ่มีฤทธิ์ให้ความร้อนแก่ร่างกาย ช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี ช่วยขับลมในกระเพาะ ช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารเป็นไปอย่างปกติ และเป็นสมุนไพรที่ประกอบไปด้วยไขมัน โปรตีน แร่ธาตุที่สำคัญอย่าง แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ดังนั้นหากคุณแม่ทั้งหลายรู้อย่างนี้แล้ว รีบหาอาหารใกล้ตัวเหล่านี้มาทำเป็นเมนูอาหาร เพื่อผลิตน้ำนมที่มีคุณภาพให้ลูกกันดีกว่า