“ความเชื่อมั่น” หรือถ้าจะพูดอีกนัยหนึ่งสำหรับบทความนี้ก็คือ “ความเชื่อใจ ไว้ใจของลูกที่มีต่อคุณพ่อคุณแม่” นั่นเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกเกิดความไว้เนื้อเชื่อในคุณพ่อคุณแม่แล้ว เขาก็จะเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟังโดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องคาดคั้นกันเลยทีเดียว หรือแม้แต่ก่อนจะทำอะไรก็ตาม ลูกก็จะมาปรึกษาอย่างตรงไปตรงมาเสมอ เหล่านี้แหละค่ะที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการ เพราะเมื่อคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าลูกมีปัญหาก็อยากจะเข้าไปช่วยแก้ปัญหา แต่จะทำอย่างไรหากลูกไม่ยอมปริปากแม้แต่น้อย
สารบัญ
5 แนวทางที่ทำให้ลูกเชื่อมั่น เชื่อใจในตัวพ่อแม่
รับฟังลูกด้วยความเข้าใจเสมอ
เพราะในวัยเด็กเป็นวัยที่อยากรู้ อยากเห็น และจะรู้สึกตื่นเต้นกับทุกเรื่องที่เป็นเรื่องใหม่ ๆ จึงเป็นธรรมดาที่เค้าจะมาเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง ถึงแม้ว่าเรื่องที่ลูกมาเล่าให้ฟังนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยมากในสายตาของคุณพ่อคุณแม่
…แต่การที่คุณพ่อคุณแม่รับฟังลูกอย่างตั้งใจ เข้าใจ ไม่ขัดคอ หรือชิงตำหนิลูกก่อนที่ลูกจะเล่าจบจะทำให้ลูกมั่นใจ และเชื่อใจในตัวคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น ๆ และในอนาคตเมื่อลูกต้องเผชิญกับปัญหาอะไรก็ตามที่แก้ไม่ตก เค้าจะเปิดใจปรึกษาคุณพ่อคุณแม่อย่างไม่ลังเลเลยค่ะ
พูดความจริงกับลูกเสมอ
เพราะความที่เด็กเป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น เค้าจึงมีคำถามหรือข้อสงสัยอีกมากมาย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายลูกด้วยเหตุผลและอธิบายตามความจริงที่เป็น แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาเรื่องอายุของลูกก่อนนะคะว่าขอบเขตในการทำความเข้าใจและเรียนรู้ของเค้ามีมากน้อยแค่ไหน แล้วอธิบายให้สั้นกระชับมากที่สุด
กลับกันถ้าเรื่องไหนที่คุณพ่อคุณแม่ไม่รู้หรือไม่แน่ใจ ก็ไม่ควรตอบด้วยคำตอบที่ผิดหรือโกหก แต่ให้ถือโอกาสนี้ชวนลูกไปหาคำตอบพร้อมเรียนรู้ไปด้วยกัน แบบนี้ก็จะยิ่งเป็นการกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากขึ้นไปอีกด้วยค่ะ
รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับลูก
“สัญญาต้องเป็นสัญญา” พี่เบิร์ด ธงไชยกล่าว^^ ถามว่าต้องเชื่อไหม? คือเชื่อไว้ก็ดีค่ะ โดยเฉพาะกับเรื่องที่เกี่ยวกับลูก เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณพ่อคุณแม่มีการสัญญาอะไรบางอย่างไว้กับลูกที่ไม่ว่าจะเป็นการสัญญาเพื่อสร้างแรงจูงใจ หรือจะเป็นสัญญาเพื่อการต่อรอง เมื่อลูกทำได้สำเร็จตามที่ตกลงกัน คุณพ่อคุณแม่ควรทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับลูก ไม่ควรตีเนียนทำลืมนะคะ เพราะลูกจะผิดหวัง และที่สำคัญจะเป็นการลดความเชื่อใจของลูกที่มีต่อคุณพ่อคุณแม่ทันทีค่ะ
เคารพในการตัดสินใจ และความเป็นส่วนตัวของลูก
“ลูกต้องเติบโตและมีชีวิตเป็นของตนเอง” ท่องไว้ค่ะคุณพ่อคุณแม่ เรื่องของ “การให้ความเคารพ” ไม่ใช่แค่ลูกต้องเคารพคุณพ่อคุณแม่ แต่คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องเคารพในตัวลูกไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความคิด การตัดสินใจ หรือแม้แต่ความเป็นส่วนตัวด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างในยุคนี้ ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะโพสต์รูปลูกควรถามความสมัครใจของลูกก่อนว่า “ถ้าคุณพ่อคุณแม่จะโพสต์รูปนี้หนูจะโอเคไหม?” เป็นต้นค่ะ
การที่คุณพ่อคุณแม่แสดงความเคารพในตัวลูก จะทำให้ลูกได้เรียนรู้ และเลียนแบบพฤติกรรมจากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ ที่สำคัญสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานในการปลูกฝัง และให้เกียรติคนอื่นอีกด้วยค่ะ
ตอบสนองอย่างถูกต้องทุกครั้งที่ลูกขอความช่วยเหลือ
เพราะเด็กก็คือเด็ก ในบางเรื่องเค้ายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง ดังนั้น ทันทีที่ลูกต้องเผชิญกับปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ คุณพ่อคุณแม่ควรตอบสนองลูกอย่างถูกต้อง พร้อมคำแนะนำ หรือช่วยหาทางออกโดยที่ไปเพิเฉย หรือปล่อยให้ลูกต้องเผชิญกับปัญหานั้นเพียงลำพัง
เมื่อลูกรับรู้ว่าทุกครั้งที่เค้ามีปัญหาและร้องขอความช่วยเหลือ คุณพ่อคุณแม่ก็จะอยู่ข้างเค้าเสมอ ช่วยเค้าแก้ปัญหาได้ในทุกครั้ง จะเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้ลูกได้มากทีเดียว
พ่อแม่ต้องเชื่อใจในตัวลูกเช่นกัน
ลูกจะมีนิสัยอย่างไร? คุณพ่อคุณแม่เท่านั้นที่รู้จักลูกของตัวเองดีที่สุด การที่จะทำให้ลูกเชื่อมั่น เชื่อใจคุณพ่อคุณแม่ได้นั้นคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องแสดงออกว่าตัวเองมีความเชื่อมั่นในตัวลูกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งคำพูดและการแสดงออก เพื่อให้ลูกรับรู้ว่า “คุณพ่อคุณแม่ก็เชื่อใจหนูเช่นกัน”
ความเชื่อมั่น ความเชื่อใจสร้างกันไม่ได้ในวันเดียว เพราะฉะนั้น…คุณพ่อคุณแม่เริ่มกันได้ตั้งแต่วันนี้นะคะ