5 เรื่องพัฒนาสมองลูกน้อยที่พ่อแม่อาจไม่รู้

พัฒนาการเด็กและสุขภาพลูกวัย 0-1 ขวบ

พัฒนาการด้านสมองของลูกน้อยเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณพ่อคุณแม่มีการส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ก็จะส่งผลให้ลูกน้อยมีรากฐานของการเรียนรู้ที่ดีและมีศักยภาพ ลูกก็พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ซึ่งช่วงเวลาที่สำคัญของการกระตุ้นการทำงานของสมองลูกน้อยจะอยู่ในช่วง 3 ปีแรก วันนี้โน้ตจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปรู้จักกับสมองของลูกน้อยกันค่ะ

5 เรื่องพัฒนาสมองลูกน้อยที่พ่อแม่อาจไม่รู้

สมองของลูกน้อยเริ่มทำงานตั้งแต่อยู่ในท้องแม่

หืมมม…จริงหรอ? อะไร? ยังไง? มาค่ะ ๆ มาติดตามกันต่อ
จริงอยู่คุณแม่อุ้มท้องเพียง 9 เดือน แต่สมองของลูกน้อยในครรภ์มีการสร้างเซลล์สมองเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากตั้งแต่ 2 เดือนแรกที่คุณแม่ตั้งครรภ์แล้วค่ะ นอกจากนี้เมื่อลูกน้อยในครรภ์อายุได้ 2 – 3 เดือน เขายังสามารถรับรถรู้รสชาติของน้ำคร่ำได้อีกด้วย ในเดือนถัดมาที่อายุในครรภ์ประมาณ 4 – 6 เดือน สมองก็จะเริ่มมีพัฒนาการมากขึ้น โดยที่สมองเริ่มที่จะควบคุมการขยับของร่างกายได้บ้างแล้ว ผ่านการดิ้นในครรภ์ของคุณแม่ และเมื่ออายุครรภ์เข้าไตรมาสสุดท้าย คือ เดือนที่ 7 – 9 สมองของลูกน้อยก็จะเริ่มมีรอยหยักเพิ่มขึ้น แถมจำเสียงของคุณพ่อคุณแม่ได้อีกด้วยค่ะ แม้จะอยู่ในท้องก็ตาม

การสัมผัสช่วยกระตุ้นพัฒนาสมองของลูกได้

หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมองของลูกสามารถทำได้ง่าย ๆ เลยค่ะ ผ่านการสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการกอด การบีบนวดเบา ๆ หรือแม้แต่การให้ลูกเข้าเต้า เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นการกระตุ้นเซลล์สมองของลูกน้อยให้พัฒนาได้อย่างดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการสัมผัสจะเป็นการกระตุ้นให้สมองส่วนของ “ไชแนปส์ หรือจุดประสานประสาทให้สร้างเซลล์ในช่องว่างที่มีอยู่ในสมอง ทำให้เส้นใยในสมองแตกแขนงเพิ่มมากขึ้นนั่นเองค่ะ

การเชื่อมต่อของไชแนปส์ (Synapse) สามารถเกิดได้สูงถึง 1,000 ล้านล้านครั้ง ภายในระยะเวลา 1 – 5 ปี แรก เพราะฉะนั้นช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาทองสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะกระตุ้นการทำงานของสมองของลูกได้ดีที่สุดค่ะ

การให้ลูกกินนมแม่สามารถกระตุ้นพัฒนาสมองของลูกได้

จากผลงานการวิจัยของ Lucas A พบว่า การให้ทารกกินนมแม่นั้นมีผลต่อสมอง ทำให้สมองมีพัฒนาการที่ดีโดยเฉพาะในด้านภาษา ยิ่งให้นมแม่มากเท่าไหร่สมองของลูกก็จะยิ่งมีการพัฒนาได้ดีมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากในน้ำนมแม่มีน้ำตาลแล็กโทสสูงมากเมื่อเทียบกับนมทั่วไป ซึ่งน้ำตาลแล็กโทสจะถูกย่อยไปเป็นน้ำตาลกาแล็กโทส ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของสมองนั่นเอง

ความเครียดเป็นตัวขัดขวางการใช้สมองเพื่อการเรียนรู้

เพราะเมื่อเด็กเกิดอาการเครียด กังวล หรือได้รับประสบการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจจนทำให้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวนั้น เด็กก็จะแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ ออกมา อาทิ ต่อต้าน ดื้อ ก้าวร้าว ขาดสมาธิ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความฉลาด อารมณ์ และความจำ

คอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนแห่งความเครียด หากเด็กเกิดความเครียด ร่างกายจะผลิตสารเคมีนี้ขึ้นมา ซึ่งสารนี้จะทำลายสมองส่วนคอร์เท็กซ์ (Cortex) หรือเปลือกสมอง ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความคิด ความฉลาด กับสมองส่วนฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับอารมณ์และความจำ ทำให้ลูกไม่พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

พัฒนาการของสมองพัฒนามาจากการเคลื่อนไหว

สมองจะถูกพัฒนาได้ก็มาจากกิจกรรมที่ลูกทำ การเคลื่อนไหวของร่างกายทำให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเกิดการเชื่อมต่อกัน โดยเฉพาะสมองซีกซ้ายที่ทำหน้าที่ในด้านของรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านความคิด ภาษา การพูด รวมถึงด้านการเขียน นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวยังส่งผลต่อ EQ (Emotional Quotient) ของเด็กในอนาคตอีกด้วยนะคะ เพราะทุกครั้งที่ลูกได้เคลื่อนไหว ลูกก็จะเกิดการเรียนรู้ ทำให้ลูกกล้าคิด กล้าทำ และเป็นเด็กที่มีความมั่นใจในตัวเองค่ะ

เมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้รู้กันอย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมที่จะกระตุ้นพัฒนาการทางสมองของลูกกันนะคะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP