แผลผ่าคลอดห้ามกินอะไร กินไข่ กินข้าวเหนียวได้ไหม

การคลอดและหลังคลอด

คุณแม่ที่คลอดลูกด้วยวิธีการผ่าคลอด ต้องดูแลแผลผ่ามากเป็นพิเศษ คุณแม่หลายคนจะระวังเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ ผนวกกับอาจจะได้ยินต่อ ๆ กันมาว่าห้ามกินไข่ ห้ามกินข้าวเหนียว เพราะจะทำให้แผลอักเสบและเป็นหนองได้ ซึ่งด้วยความไม่รู้ของคุณแม่หลังคลอดนี้เองทำให้จะกินอะไรก็กังวลไปเสียหมด ระวังจนกลายเป็นระแวงทำให้การเลี้ยงลูกนั้นไม่สนุก และกลายเป็นความเครียดเข้ามาแทนที่

แต่การเลือกกินอาหารที่ถูกหลักและเหมาะสมกับสภาวะก็อาจจะยังไม่พอ คุณแม่จำเป็นที่จะต้องทราบถึงวิธีปฏิบัติตัวหลังคลอด รวมถึงท้ายบทความเราจะมาแนะนำกันเกี่ยวกับเมนูอาหารของคุณแม่หลังคลอด ที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด และช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมมาให้อีกด้วยค่ะ ไปติดตามกันเลย

การปฏิบัติตัวหลังผ่าคลอด

สำหรับคุณแม่ผ่าคลอด ร่างกายจะอ่อนเพลียมากในช่วง 12 ชั่วโมงแรกหลังคลอด เนื่องจากมีการเสียเลือดไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณแม่จะต้องรู้วิธีการปฏิบัติตัวหลังผ่าคลอด ซึ่งมีแนวทาง ดังนี้

ฝึกการหายใจ

เมื่อคุณแม่กลับมาพักฟื้นที่ห้อง และเริ่มมีอาการดีขึ้นแล้ว ควรเริ่มบริหารร่างกายเบา ๆ โดยเริ่มจากการฝึกการหายใจ, บริหารแขน คอ และส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย พร้อมกับหมั่นตะแคงตัวบ่อย ๆ เพื่อเตรียมพร้อมให้ร่างกายได้ลุกเดิน เป็นการป้องกันแผลกดทับจากการนอนหงายเป็นเวลานาน ๆ

ให้ลูกเข้าเต้าให้เร็วที่สุด

ทันทีที่คุณพยาบาลนำทารกมาให้คุณแม่ ให้คุณแม่เอาลูกน้อยเข้าเต้าให้เร็วที่สุด ให้ลูกดูดเพื่อเป็นการกระตุ้นต่อมน้ำนม และท่อน้ำนมให้ทำงายได้อย่างปกติโดยเร็ว ในช่วงนี้จะมี “น้ำนมเหลือง” ออกมา ซึ่งเป็นส่วนหัวนมที่มีประโยชน์ต่อลูกน้อยมากที่สุด ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่กับลูกน้อยอีกด้วย

เริ่มจิบน้ำ หากไม่มีอาการแทรกซ้อน

หลังผ่าตัดแล้ว 24 ชั่วโมง คุณแม่ไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร แพทย์จะเริ่มให้จิบน้ำ ทานอาหารเหลว ตามลำดับ หากคุณแม่เริ่มทานอาหารอ่อนหรืออาหารเหลวเร็วเกินไป จะส่งผลให้ท้องอืด และปวดบีบที่ลำไส้ได้

นำสายสวนปัสสาวะออก

หลังผ่าคลอดไปแล้ว 24 ชั่วโมง แพทย์จะหยุดให้อาหารทางหลอดเลือดดำ พร้อมกับนำสายสวนปัสสาวะออก คุณแม่จะรู้สึกสบายตัวขึ้น แต่ก็ไม่ควรนอนนิ่งอยู่บนเตียง ให้พยายามลุกเดินบ้าง ยืนบ้าง เพราะหากคุณแม่ไม่พยายามลุกเดินเลยจะส่งผลให้แผลผ่าตัดเป็นพังผืดได้

กลับบ้านได้

หลังผ่าตัดไปแล้วประมาณ 3-5 วัน หากคุณแม่และทารกแข็งแรงดี ไม่มีอาการแทรกซ้อนอะไร แพทย์ก็จะให้กลับบ้านได้ค่ะ

ผ่าคลอดห้ามกินอะไร

คุณแม่คนไหนที่คลอดลูกด้วยวิธีผ่าคลอด อาหารที่คุณแม่ควรเลี่ยงมีดังนี้ค่ะ

ผลไม้ที่มีแก๊สเยอะ

อาทิ กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ ทุเรียน แตงโม และฝรั่ง เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะได้ทั้งสิ้น ซึ่งจะทำให้คุณแม่เกิดอาการแน่นท้อง อึดอัด ไม่สบายตัวได้ค่ะ

อาหารค้างคืน

อาหารหรือกับข้าวที่ค้างคืน ก่อนกินค่อยนำมาอุ่นร้อนใหม่ไม่ว่าจะด้วยไมโครเวฟหรือจะอุ่นกับเตาแก๊สก็ตาม อาหารลักษณะนี้คุณแม่และลูกน้อยจะไม่ได้สารอาหารอะไรเลย นอกจากอิ่มท้องอย่างเดียว เพราะฉะนั้นควรเป็นอาหารที่ปรุงสุกใหม่จะดีที่สุด

เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

เป็นอาหารที่คุณแม่ลูกอ่อนไม่ควรดื่มค่ะ ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ เพราะคุณแม่อยู่ในระยะให้นมบุตรด้วย เพราะแอลกอฮอล์สามารถปนออกมากับน้ำนมได้ นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอล์ 1 แก้ว จะส่งผลให้ปริมาณน้ำนมลดลงได้ถึง 23% และถ้าหากดื่มมากกว่า 2 แก้ว อาจส่งผลยับยั้งกระบวนการผลิตน้ำนมได้เลยทีเดียว

อาหารหมักดอง

ผลไม้หมักดอง หรือผักดองชนิดต่าง ๆ รวมถึงอาหารที่ใส่ผงชูรส อาจทำให้คุณแม่และลูกน้อยเกิดอาการท้องเสีย หรือท้องอืดได้ ที่สำคัญ เป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งคุณแม่และลูกน้อยอีกด้วยค่ะ

เครื่องดื่มคาเฟอีน

ได้แก่ ชา กาแฟ ช็อกโกแลต และน้ำอัดลม เหล่านี้อาจเป็นเครื่องดื่มสุดโปรดของคุณแม่เมื่อก่อนตั้งครรภ์ แต่ตอนนี้อย่าลืมนะคะว่าคุณแม่ยังมีอีกหนึ่งชีวิตน้อย ๆ ที่ต้องดูแล เพราะคาเฟอีนสามารถส่งผ่านออกมากับน้ำนมได้ ถ้าลูกน้อยกินนมแม่ที่มีคาเฟอีนบ่อย ๆ อาจส่งผลต่อพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ของลูกน้อยที่ช้าเกินเกณฑ์ปกติค่ะ

อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ

อาทิ ซาชิมิ ส้มตำปูปลาร้า ลาบดิบ ก้อย และแหนมดิบ เป็นอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงค่ะ เพราะหลังคลอด ร่างกายของคุณแม่ยังอ่อนแอ และอยู่ในระยะฟื้นตัว ดังนั้น อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย และที่สำคัญ ลูกน้อยก็ยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อน พยาธิ และแบคทีเรียในร่างกายได้

อาหารเสริมที่ไม่ได้รับการรับรอง

อาหารเสริมอาจเป็นอาหารที่คุณแม่กินประจำในช่วงก่อนตั้งครรภ์ บางคนอาจคิดว่าถ้ากินอาหารเสริมช่วยจะได้ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้โดยเร็ว แต่แท้ที่จริงแล้วอาหารเสริมถึงแม้ว่าจะมาจากการผลิตที่ได้คุณภาพ หรือบริษัทที่น่าเชื่อถือ ก็ยังไม่ควรกินในระยะนี้นะคะ เพราะอาจไม่ปลอดภัยต่อลูกน้อยค่ะ

หลังผ่าคลอด กินไข่ กินข้าวเหนียวได้ไหม

เป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่มีมากันตั้งแต่โบราณว่าแผลผ่าคลอดห้ามกินไข ห้ามกินข้าวเหนียว แต่ก็ไม่ใช่แค่เรื่องของแผลผ่าคลอดเท่านั้น ยังมีในเรื่องของแผลผ่าตัดอื่น ๆ รวมถึงเรื่องการเจาะหูอีกด้วย เพราะเข้าใจกันว่าไข่ และข้าวเหนียวเป็นของแสลง หากกินเข้าไปแล้วจะทำให้แผลอักเสบ เน่า แผลปูดนูน แผลนูนแดง และหายช้า
ทั้งนี้ ในทางการแพทย์ได้มีการออกมาชี้แจงแล้วว่า…

ไข่ เนื้อสัตว์ต่าง ๆ รวมไปถึงถั่วชนิดต่าง ๆ

เหล่านี้ล้วนเป็นอาหารที่อยู่ในกลุ่มของโปรตีน ที่มีส่วนช่วยให้แผลแห้งและหายเร็ว มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายไป

ข้าวเหนียว

จัดเป็นอาหารจำพวกแป้ง กลุ่มคาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานสูง ซึ่งไม่มีผลทำให้แผลอักเสบ หรือทำให้แผลหายช้าแต่อย่างใด อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจกัน

หลังผ่าคลอด กินอะไรได้บ้าง?

ที่ผ่านมาข้างต้น เราก็ได้รู้กันไปแล้วนะคะว่าคุณแม่หลังผ่าคลอดต้องดูแลตัวเองอย่างไร ห้ามกินอะไร มาในส่วนนี้จะเป็นในส่วนของอาหารที่แม่ผ่าคลอดควรทานค่ะ มีเมนูอะไรบ้าง? ไปดูกันเลย

แกงเลียงผักรวม

นับเป็นอาหารยอดฮิตสำหรับคุณแม่หลังคลอด เพราะในแกงเลียงมีผักหลากชนิดที่ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์สำหรับคุณแม่ ช่วยกระตุ้นน้ำนมได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นฟักทอง, เห็ด หรือแม้แต่ในส่วนผสมของแกงเลียงเองที่ทำจากสมุนไพรไทยอย่างข่า หรือพริกไท เป็นต้น

ต้มข่าไก่ใส่หัวปลี

เมนูหัวปลี เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อว่ากระตุ้นน้ำนมแม่ได้เป็นอย่างดี ในหัวปลีอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะไฟเบอร์ ที่ช่วยลดอาการท้องผูกให้คุณแม่ได้เป็นอย่างดี ตามด้วยเนื้อไก่ โปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและช่วยสมานแผลผ่าตัดได้เป็นอย่างดี

ไก่ผัดขิง

ขิงเป็นสมุนไพรไทยที่มีฤทธิ์ร้อน ช่วยให้ภายในร่างกายอบอุ่น ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนม ทำง่าย ใช้เวลาไม่นานค่ะ ในขณะที่เนื้อไก่ก็เป็นแหล่งโปรตีนชั้นยอดที่ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อจากการผ่าตัดคลอดได้

แกงเห็ดรวม

เป็นอีกหนึ่งเมนูสุขภาพ เมนูแนะนำสำหรับคุณแม่หลังคลอด เนื่องจากเห็ดจะช่วยในเรื่องการฟื้นฟูร่างกาย ควบคุมน้ำหนักคุณแม่ได้ดี

ต้มจืดกระเพราะแดงหมูสับ

สำหรับเมนูนี้คุณแม่บางท่านอาจจะยังไม่ค่อยรู้ แต่ช่วงที่โน้ตอยู่ในระยะให้นม เราเองเบื่อกับเมนูอาหารเดิม ๆ ก็เลยเสาะหาเมนูใหม่ ๆ ก็ได้เมนูนี้มาค่ะ วิธีทำเหมือนต้มจืดทั่วไปเลยค่ะ ใช้เวลาทำน้อยมาก แถมกระตุ้นน้ำนมได้ดีอีกด้วย

ฟักทองผัดไข่

เป็นที่ทราบกันดีว่า ไข่เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก มีโปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อที่เกิดจากการผ่าตัดคลอด ในขณะที่ฟักทองมีคุณสมบัติที่ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนม อุดมไปด้วยวิตามิน, ไฟเบอร์ และสังกะสี นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน มีไฟเบอร์สูงช่วยลดอาการท้องผูกของคุณแม่หลังคลอดได้ค่ะ

ส่วนแผลผ่าที่เกิดการอักเสบนั้น เป็นไปได้สูงว่าเกิดจากแผลที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดมากเท่าที่ควร หรือไหมเย็บของแผล หรือตัวแผลเองไปเสียดสีกับเสื้อผ้า เมื่อนาน ๆ เข้า ก็สามารถทำให้เกิดแผลเป็นหนอง และอักเสบได้ ส่วนแผลผ่าตัดที่นูนแดง อาจเนื่องมาจากความไม่สมดุลกันของร่างกาย ที่สร้างคอลลาเจนออกมาในปริมาณที่มากเกินไป รวมถึงเป็นลักษณะที่ถ่ายทอดกันมาทางพันธุกรรม ไม่ใช่เพราะไข่หรือข้าวเหนียวแต่อย่างใด

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP