กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ให้ลูกวัยอนุบาล

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ

การฝึกทักษะและพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กของลูกน้อยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากลูกน้อยมีพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็กที่แข็งแรงแล้ว การจะฝึกให้กล้ามเนื้อมัดเล็กทำงานสัมพันธ์กับสายตาก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

กล้ามเนื้อมัดเล็ก คืออะไร?

กล้ามเนื้อมัดเล็ก คือ การที่ลูกน้อยสามารถใช้มือหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ ได้ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่ลูกน้อยจะสามารถพัฒนาไปสู่การเขียน การทำงานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงเรื่องของการช่วยเหลือตัวเองได้
ข้อมูลอ้างอิง คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ประโยชน์จากกิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก

ประโยชน์จากการให้ลูกได้ทำกิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก มีดังนี้

เป็นการเตรียมพร้อมในการเขียน

ข้อนี้ต้องอาศัยการทำงานที่สัมพันธ์กันระหว่างมือและสายตา รวมไปถึงการควบคุมกล้ามเนื้อมือและแขน

เตรียมความพร้อมในการอ่าน

หากสายตาและมือทำงานได้สัมพันธ์กันก็จะช่วยให้ลูกน้อยสามารถใช้สายตาในการมองหนังสือ หยิบจับหนังสือ รวมถึงมองตัวอักษรจากซ้ายไปขวา ซึ่งเป็นพื้นฐานในอ่านได้อย่างคล่องแคล่วได้ในอนาคต

เพิ่มความฉับไวทางความคิด

สติ ปัญญา และการเคลื่อนไหว มักทำงานควบคู่กัน เมื่อลูกน้อยได้เคลื่อนไหว สมองก็จะทำงานไปด้วย กลับกัน หากลูกน้อยไม่ได้มีการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมัดเล็กเลย ก็จะส่งผลให้ลูกน้อยคิดช้าไปด้วยเช่นกัน

ส่งเสริมให้กล้าแสดงออกทางความรู้สึกและจินตนาการ

ด้วยการให้จัดให้ลูกน้อยได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ต่าง ๆ อาทิ การวาดภาพ การระบายสี การปั้นดินน้ำมัน การพับกระดาษ การฉีกกระดาษ หรือการทำศิลปะประดิษฐ์ เป็นต้น

ส่งเสริมให้รักการสำรวจ

หากลูกน้อยให้ออกไปเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง ได้สำรวจสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ก็จะทำให้ลูกเกิดการเรียนรู้ การเปรียบเทียบ รวมไปถึงลูกจะได้เรียนรู้ในเรื่องของการแบ่งประเภทสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอีกด้วย

สามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

เมื่อลูกน้อยได้เรียนรู้ในสิ่งต่าง ๆ รอบด้านแล้ว เมื่อโตขึ้นเขาก็จะสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ใชชีวิตประจำวันได้ดี

กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก

สามารถแบ่งได้ในแต่ละด้าน ดังนี้

กิจกรรมเสริมประสบการณ์

การทำอาหาร

เช่น เมนูบัวลอย ให้ลูกปั้นแป้งบัวลอย การทำผักสลัด ให้ลูกน้อยช่วยหั่นผัก โดยใช้มีดของเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งต้องมีผู้ปกครองอยู่ด้วย หรือการให้ลูกใช้ทัพพีตักข้าว เป็นต้น

การทดลองทางวิทยาศาสตร์

เช่น การทดลองเอาลูกอมใส่ลงไปในขวดน้ำอัดลม เพื่อดูปฏิกิริยา การเป่าฟองสบู่ หรือกิจกรรมตัดลูกบอลเล็ก ๆ ที่ลอยน้ำ เป็นต้น

การศึกษานอกห้องเรียนหรือนอกสถานที่

เช่น การไปสำรวจสัตว์หรือแมลงเล็ก ๆ รอบบ้าน ด้วยการใช้แว่นขยาย หรือใช้การจับสัมผัสใบไม้เพื่อศึกษาถึงความแตกต่างกันของพื้นผิวใบไม้ เป็นต้น

กิจกรรมสร้างสรรค์ศิลปะ

การปั้น

เช่น การปั้นดินน้ำมัน การปั้นแป้งโดว์ หรือดินเหนียว การปั้นทรายผสมกาวและน้ำ รวมไปถึงการอุปกรณ์ต่าง ๆ ช่วย เช่นมีดของเล่น หรือพิมพ์ขนมของเล่น เป็นต้น

การวาดภาพและระบายสี

ให้ลูกน้อยวาดภาพและระบายสีด้วยสีไม้ สีเทียน สีน้ำ สีฝุ่น หรือสีโปสเตอร์ก็ได้ค่ะ หรืออาจะเป็นการโรยทรายสี การขูดสีแบบนี้ก็เป็นการฝึกล้ามเนื้อมัดเล็กได้ดีเช่นกัน

การผสมสี

เช่น สีน้ำ หรือสีโปสเตอร์ ให้ลูกน้อยได้ใช้พู่กันในการตักสีและการผสม คนให้เข้ากัน ลูกน้อยยังได้เรียนรู้ในเรื่องของทฤษฎีสีไปในตัวค่ะ

งานกระดาษ

เช่น การตัด การพับ การฉีก การปะ การขยำกระดาษ รวมไปถึงงานสานกระดาษ

กิจกรรมกลางแจ้ง

การพลศึกษา

เช่น กิจกรรมแข่งขันกันคีบลูกปิงปองด้วยตะเกียบ เกมขี่ม้าส่งเมือง แข่งกันโยนลูกบอลลงตะกร้า หรือกิจกรรมโยนรับลูกบอล เป็นต้น

การละเล่นพื้นบ้าน

เช่น การเล่นกำทาย การทอยราว การโยนห่วงยาง การเล่นอีตัก และการทอยลูกสะบ้า เป็นต้น

การเล่นทรายในสนาม

สามารถหาอุปกรณ์ต่าง ๆ มาเล่นทราย ตักทราย ใช้ไม้ขีดเขียนบนทรายเปียก การขุดอุโมงค์ หรือการก่อเจดีย์ทราย เป็นต้น

เพราะร่างกายของลูกน้อยยังต้องการการกระตุ้นและการส่งเสริมอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะทางด้านร่างกายผ่านการเรียนรู้ในกิจกรรมที่พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ที่บ้าน ไม่เว้นแม้แต่ “กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ ทำได้ง่าย ๆ แม้อยู่บ้าน” ได้เช่นกัน


จะช่วยลูกพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ยังไงดีนะ เพราะที่บ้านก็ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหนด้วยสิ? ถึงจะอยู่บ้านก็สามารถช่วยกระตุ้นพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้ค่ะ ด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้ คลิกที่นี่

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP