เรื่องของการคุมกำเนิด ทางการแพทย์ได้ระบุไว้ว่าไม่มีวิธีใดที่จะสามารถคุมกำเนิดได้ 100% สำหรับครอบครัวไหนที่คิดว่ายังไม่พร้อม “การกินยาคุมกำเนิด” จึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสะดวก แต่…หากพลาดท้องขึ้นมาล่ะ แต่ว่าที่คุณแม่ไม่รู้ตัวว่าท้องก็กินยาคุมไปตามปกติ คราวนี้จะผลอะไรต่อลูกในท้องไหมนะ
สารบัญ
ยาเม็ดคุมกำเนิด
ด้วยผลของการกินยาเม็ดคุมกำเนิด คือมันจะไปช่วยยับยั้งการตกไข่ ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกมีสภาพที่ไม่พร้อมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน มูกที่ปากมดลูกจะเหนียวข้น ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ ทำให้ตัวอสุจิไม่สามารถเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้นั่นเอง
ยาเม็ดคุมกำเนิด มีกี่ชนิด
ยาเม็ดคุมกำเนิด แบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด คือ
- ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Pill) อันประกอบไปด้วยตัวยาทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสติน
- ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดที่มีเพียงโปรเจสตินอย่างเดียว (Minipill)
- ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Postcoital Pill)
โดยปกติแล้วการกินยาเม็ดคุมกำเนิดนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดเพียงชั่วคราวเท่านั้น คือไม่เกินกว่า 5 ปี ซึ่งยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด คือ ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ส่วนยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินอย่างเดียวนั้น จะเหมาะกับคุณแม่ที่อยู่ในระยะให้นมบุตร และสตรีที่มีข้อห้ามในการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้นะคะ
กินยาคุมตอนท้อง จะท้องนอกมดลูกไหม?
สำหรับใครที่กินยาคุมกำเนิดตอนท้องในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ สำหรับทารกในครรภ์แล้วจะไม่มีความเสี่ยงต่ออาการผิดปกติของลูกแต่อย่างใดค่ะ
ทั้งนี้ มีงานวิจัยบางชิ้นพบว่า การกินยาคุมกำเนิดในขณะที่ตั้งครรภ์จะมีความเสี่ยงต่อทารกในกรณีที่อาจทำให้น้ำหนักทารกน้อย หรืออาจคลอดก่อนกำหนดได้ แต่ก็ยังไม่มีงานวิจัยที่มีข้อมูลที่ชัดเจนในเรื่องนี้
แต่โดยภาพรวมแล้วการกินยาคุมกำเนิดในขณะที่ตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสแรกนั้นจะมีความเสี่ยงต่ำที่ไข่จะปฏิสนธินอกมดลูกหรือท้องนอกมดลูก ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วงที่ไข่กำลังเดินทางจากรังไข่ไปยังโพรงมดลูก
กินยาคุมตอนท้อง ลูกจะพิการไหม?
ด้วยลักษณะการทำงานของยาเม็ดคุมกำเนิดนั้นจะทำให้เมือกที่ปากมดลูกเหนียวข้นขึ้น ผนังมดลูกมีความบางลง เรียกว่าเป็นการขัดขวางหรือเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนที่ของอสุจิ ทำให้การเข้าถึงไข่นั้นยากลำบากมากขึ้น ซึ่งไม่มีผลต่อทารกในครรภ์ค่ะ
ผลข้างเคียงของการกินยาเม็ดคุมกำเนิด
การกินยาเม็ดคุมกำเนิดก็สามารถช่วยป้องกันการปฏิสนธิได้ระดับหนึ่ง แต่การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดนั้นก็มีผลข้างเคียงที่ควรรู้ ดังนี้
- เกิดฝ้า การเกิดฝ้านี้นับว่าเป็นเรื่องปกติของคนที่กินยาเม็ดคุมกำเนิดค่ะ สีผิวของคุณจะคล้ำขึ้น โดยเฉพาะบริเวณใต้จมูก
- เลือดจะข้นขึ้น และจับตัวกันเป็นก้อน ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอาการเส้นเลือดอุดตันในปอด หลอดเลือดอุดตัน และโรคหัวใจได้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่อายุมากกว่า 35 ปี และสูบบุหรี่ จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงทีเดียว
- น้ำหนักขึ้น เนื่องจากฮอร์โมนจะแปรปรวน ซึ่งยาเม็ดคุมกำเนิดจะส่งผลให้ร่างกายเก็บกักน้ำเอาไว้ หรืออาจเพิ่มใขมันในเนื้อเยื่อได้
- มีความรู้สึกทางเพศต่ำ จากข้อมูลในผลงานการวิจัยของมหาวิทยาลัยอินเดียน่า ระบุว่า ผู้หญิงที่กินยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นเวลานาน จะมีความรู้สึกทางเพศลดลง เนื่องจากยาคุมกำเนิดประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งจะทำให้เกิดความบกพร่องต่อฮอร์โมนเทสโตโรน ที่รับผิดชอบต่อการกระตุ้นเร้าทางเพศ
- มะเร็ง สำหรับหัวข้อนี้ ยังคงอยู่ภายใต้การโต้แย้งกันอยู่ ซึ่งมีข้อมูลจากการการศึกษาเกี่ยวกับการกินยาเม็ดคุมกำเนิดในบางหัวข้อว่า ยาเม็ดคุมกำเนิดจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งของรังไข่ แต่ทั้งนี้ก็ยังคงมีข้อเชื่อมโยงกันในบางอย่างระหว่างยาเม็ดคุมกำเนิด เต้านม และมะเร็งปากมดลูกด้วยเหมือนกัน อย่างผู้หญิงที่ติดเชื้อหูด จะมีความเสี่ยงสูงสำหรับเม็ดหูด ซึ่งสามารถพัฒนาต่อไปเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ขณะที่ยังใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดอยู่
ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ มีมืดก็ต้องมีสว่าง มีดีก็ต้องมีเสีย การกินยาเม็ดคุมกำเนิดก็เช่นกันค่ะ ถ้าจะให้ปลอดภัยควรใช้ไม่เกินในระยะ 5 ปี แต่บางคนก็ไม่ได้เลือกกินยาเม็ดคุมกำเนิดรายเดือน แต่เลือกที่จะกินยาคุมฉุกเฉินแทน แต่จะ “กินยาคุมฉุกเฉิน กินยังไง ให้ปลอดภัย” เรื่องนี้ก็สำคัญนะคะ อย่าลืมว่าใช้ผิด ชีวิตเปลี่ยนกันเลยทีเดียว
ข้อมูลอ้างอิง rama.mahidol.ac.th, pobpad.com