เป็นไข้ห้ามกินอะไร?

ตั้งแต่เล็กจนโต เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมาบ้างว่า ห้ามกินโน่น กินนี่ โดยเฉพาะอาหารที่มีฤทธิ์เย็น เพราะจะทำให้ไข้เพิ่มอีก สรุปแล้วเวลาที่เป็นไข้ห้ามกินอะไร วันนี้แม่โน้ตมีข้อมูลมาฝากค่ะ สามารถนำไปใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่นะคะ

อาหารแสลงของคนเป็นไข้

ด้วยคำว่า “อาหาร” เมื่อเรากินเข้าไปแล้ว ร่างกายเราจะได้รับสารอาหารเพื่อไปช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย แต่ในขณะเดียวกันอาหารที่เรากินเข้าไปนั้นก็มีส่วนที่ส่งผลเสียต่อร่างกายเช่นกัน โดยเฉพาะกับผู้ที่มีไข้ ไม่สบาย คำว่า “ของแสลง” จึงมากระทบหูเรามากขึ้น ซึ่งจริง ๆ แล้วคำว่าของแสลงเป็นสิ่งซึ่งพิสูจน์ได้ เนื่องด้วยคุณสมบัติและสรรพคุณของอาหารนั้น ๆ นั่นเอง ซึ่งของแสลงที่ว่ามีดังนี้

อาหารดิบ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ

อาหารในกลุ่มนี้ส่งผลโดยตรงต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องอืด คลื่นไส้ และอาเจียนได้

อาหารที่ร้อนเกินไป

เนื่องจากอาหารที่ร้อนเกินไป จะส่งผลให้ระบบย่อยทำงานหนักขึ้น เกิดความร้อนและความชื้นสะสมในร่างกายมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการเจ็บคอ และเป็นแผลในปากได้

อาหารที่ปรุงแต่งมากเกินไป

อาหารที่ปรุงแต่งมากเกินไปจะทำให้คุณค่าหรือสารอาหารที่มีอยู่ตามธรรมชาตินั้นหมดไป ดังนั้น การปรุงอาหารควรปรุงให้เหมาะกับวัตถุดิบและปรุงเพียงเล็กน้อยก็พอแล้วค่ะ

การกินอาหารที่ไม่สอดคล้องต่ออาการป่วย

เช่น ขณะที่ในปากมีแผล แต่ไปกินผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน เช่น ลิ้นจี่ หรือทุเรียน แบบนี้ยิ่งทำให้แผลยิ่งหายช้าค่ะ

เป็นไข้ห้ามกินอะไร

ผู้ที่เป็นไข้ มักจะมีน้ำมูกร่วมด้วย บางรายมีการไอ แล้วมีอาหารอะไรบ้างที่คนเป็นไข้ห้ามกิน ไปติดตามกันค่ะ

อาหารที่มีฤทธิ์เย็น

ในช่วงวันแรก ๆ เราจะรู้สึกว่าตัวจะรุม ๆ เหมือนมีไข้ รู้สึกขนลุก เพราะครั่นเนื้อครั่นตัว แนะนำว่าควรเลี่ยงอาหารหรือผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น เช่น แตงโม สับปะรด แคนตาลูป หัวไชเท้า น้ำมะพร้าว และไอศกรีม เป็นต้น เพราะด้วยฤทธิ์เย็นจากอาหารที่กินเข้าไป จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง อาจเกิดอาการหนาวสั่น ส่งผลทำให้อาการไข้สูงขึ้น

อาหารที่มีโซเดียม

ขณะที่ร่างกายเราเป็นหวัด มีไข้ เวลาที่เรากินอาหารจะรู้สึกว่าไม่ค่อยรู้รสชาติของอาหารสักเท่าไหร่ คือกินไม่อร่อยเหมือนปกติ เรื่องนี้เกิดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ คราวนี้ไม่สบายก็ควรกินอาหารที่ย่อยง่าย อาหารอ่อน อย่างโจ๊ก หรือข้าวต้ม พอเรารู้สึกว่าลิ้นรับรสไม่ค่อยได้ ก็เหยาะซอสปรุงรสเพิ่ม แต่…รู้หรือไม่ว่า เมื่อเราไม่สบาย ไตของเราจะทำงานหนักมากกว่าเดิม เพราะต้องการเก็บกักน้ำไว้ในร่างกายเพื่อใช้ปรับอุณหภูมิในร่างกาย คราวนี้พอกินเค็มมาก ๆ ก็ทำให้ไตเราทำงานหนักขึ้น หวัดก็หายได้ช้าขึ้น

อาหารดิบ หรือปรุงไม่สุก

การกินอาหารที่ไม่สุกเวลาที่เป็นไข้จะยิ่งทำให้ร่างกายสะสมความร้อนเอาไว้ ยิ่งทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นไปอีก อาหารที่ไม่สุก อาทิ ปลาแซลมอนดิบ ปลาดิบชนิดต่าง ๆ ไข่ดาวไม่สุก รวมไปถึงสเต็กที่สุกไม่ทั่วทั้งชิ้น เป็นต้น รู้อย่างนี้แล้วช่วงไม่สบายควรเลี่ยงอาหารประเภทนี้ก่อนนะคะ

อาหารที่ย่อยยาก

เพราะอาหารที่ย่อยยากจะทำให้ร่างกายทำงานหนักขึ้น ซึ่งกลับกันการกินอาหารที่ย่อยง่าย จะช่วยให้ร่างกายไม่ทำงานหนักเกินไป ที่สำคัญ คือ ร่างกายจะได้รับการพักฟื้น เพื่อให้กลับมาแข็งแรงในเร็ววัน และไม่แนะนำให้กินอาหารประเภททอด อาหารที่มีไขมันมาก และอาหารมัน เพราะร่างกายจะใช้พลังงานในการเผาผลาญมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นอีก

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

เป็นธรรมดาของการเป็นไข้ ที่ร่างกายจะรู้สึกอ่อนเพลีย บางครอบครัวอาจหาน้ำผลไม้ที่มีประโยชน์มาให้ลูก ๆ ได้กิน แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ น้ำผลไม้คงซอฟท์ไป จะเป็นแอลกอฮอล์ก็ยังคงเกรงใจ จึงเอาเป็นเครื่องดื่มคาเฟอีนแล้วกัน เพื่อให้ร่างกายได้สดชื่น กระปรี้กระเปร่าอย่างชา หรือกาแฟ เรื่องนี้แม่โน้ตไม่แนะนำเด็ดขาดค่ะ เพราะเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจะทำให้ร่างกายขับน้ำออกมา ร่างกายก็จะสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ เพลีย นอนซมแน่เลยคราวนี้ ซึ่งถ้าอยากกินน้ำอะไรที่สดชื่น มีประโยชน์จริง แนะนำเป็น น้ำส้มคั้นสดจะดีที่สุด และที่สำคัญควรคั้นแล้วดื่มทันที เพราะหากทิ้งไว้เกิน 10-15 นาที คุณค่าในน้ำส้มก็หมดไปแล้วค่ะ

คนที่เป็นหวัด เป็นไข้ ร่างกายจะอ่อนเพลียซึ่งเป็นเรื่องปกติจากฤทธิ์ไข้ค่ะ ดังนั้น การกินอาหารอ่อน ๆ งดของแสลง และดื่มน้ำเปล่าสะอาดที่อุณหภูมิห้องในปริมาณที่ร่างกายต้องการ ที่สำคัญ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเท่านี้ก็ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วแล้วค่ะ แต่บางคนมีข้อสงสัยว่าแล้วน้ำเย็นล่ะกินได้ไหม สามารถติดตามได้จากที่นี่ค่ะ >> “เป็นไข้กินน้ำเย็นได้ไหม น้ำอะไรที่กินได้บ้าง?”

บทความที่อยากให้อ่านเพิ่มเติม

เป็นไข้กินน้ำเย็นได้ไหม น้ำอะไรที่กินได้บ้าง?