อาหารบำรุงสมองลูก วัย 6 เดือน ถึง 5 ปี

อาหารเด็ก
JESSIE MUM

เมื่อลูกน้อยลืมตามาดูโลก อาหารชนิดแรกที่ดีที่สุดของลูกก็คือ น้ำนมแม่ เพราะมีสารอาหารครบถ้วน และเป็นมิตรต่อระบบทางเดินอาหารของลูกน้อย แต่เมื่อลูกอายุได้ 6 เดือน ขึ้นไปร่างกายต้องการปริมาณอาหารและสารอาหารเพิ่ม เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย คุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลาย ๆ คนอาจจะยังคิดไม่ออก และไปไม่เป็นว่าจะเริ่มจากอาหารอะไรก่อนดี และเริ่มอย่างไรดี ซึ่งวันนี้เรามีมาแนะนำกันค่ะ

สารอาหารสำคัญที่ร่างกายลูกต้องการ

ก่อนที่เราจะไปดูอาหารกันในแต่ละช่วงวัย เรามาดูส่วนนี้กันสักนิดดีกว่าค่ะ ว่าร่างกายและสมองของลูกน้อยต้องการสารอาหารอะไรบ้าง

โคลีน

มีความสำคัญต่อระบบประสาทและสมอง ซึ่งเป็นส่วนของความจำ และความสามารถในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ของลูกน้อย

ธาตุเหล็ก

เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาท ที่มีส่วนสำคัญสำหรับพัฒนาการทางสมองของลูก

ไอโอดีน

เป็นสารประกอบของฮอร์โมนไทรอยด์ มีความสำคัญต่อการเติบโต และพัฒนาการทางสมอง พบได้มากในเกลือเสริมไอโอดีน และเกลือสมุทร

อาหารบำรุงสมองลูก วัย 6 – 8 เดือน

  • เด็กในวัยนี้ยังคงต้องทานนมแม่ควบคู่กันไปกับอาหารเสริม
  • ป้อนอาหารเสริมลูก วันละ 1 มื้อ และค่อย ๆ เพิ่มเป็น 2 มื้อในช่วงเดือนที่ 8
  • เน้นอาหารที่เป็นข้าว เนื้อไก่ ตับ ผักหลากสี เพื่อช่วยบำรุงสมอง และช่วยในเรื่องการขับถ่าย
  • เหยาะน้ำมันงา หรือน้ำมันมะกอกเล็กน้อย ประมาณ ½ ช้อนชา เพื่อให้วิตามินบางชนิดที่ละลายในไขมันนั้นดูดซึมเข้าร่างกายได้ดี

อาหารบำรุงสมองลูก วัย 9 – 12 เดือน

  • สามารถเริ่มป้อนอาหารเสริมเป็น 2-3 มื้อได้แล้วค่ะ แต่ยังคงให้นมแม่ควบคู่อยู่
  • ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ปรุงสุก และไม่ปรุงแต่งรสชาติ
  • เน้นอาหารประเภทข้าว ไข่ไก่ ปลา ตับ และผักหลากสี
  • เหยาะน้ำมันงา, น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันพืชเล็กน้อย เพื่อให้ร่างกายดูดซึมวิตามินเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น
  • ลูกน้อยสามารถดื่มน้ำเปล่าได้แล้ว แต่ยังไม่ควรเยอะก่อนนะคะ เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

อาหารบำรุงสมองลูก วัย 1 – 2 ปี

  • ลูกทานอาหารให้ทุกชนิดแล้ว โดยเน้นให้ครบทั้ง 5 หมู่ วันละ 3 มื้อ แล้วเสริมด้วยนมประมาณ 2-3 แก้วต่อวัน หรือตามความเหมาะสม
  • เน้นทานโปรตีนประเภทเนื้อปลา เนื่องจากในเนื้อปลาจะมีสารอาหารสำคัญอย่างโอเมก้า 3 และ DHA ที่มีส่วนอย่างมากในการบำรุงสมองและประสาท และตับ ที่มีสารอาหารสำคัญอย่างธาตุเหล็ก ที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ป้องกันโรคโลหิตจางได้
  • เน้นผักและผลไม้หลากสี เพื่อให้แร่ธาตุและวิตามินอย่างครบถ้วน
  • ไม่ควรให้ลูกทานอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเค็มจัด หรือหวานจัด เนื่องจากจะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กที่ติดรถจัดได้ในอนาคต
  • ไม่ควรให้ลูกทานเนื้อสัตว์ที่ติดมันบ่อย ๆ เช่น หมูสามชั้น และขาหมู เพื่อป้องกันโรคทางหลอดเลือดในอนาคต

อาหารบำรุงสมองลูก วัย 2 – 5 ปี

  • เน้นอาหารหลัก 5 หมู่ ทานวันละ 3 มื้อ
  • เลี่ยงอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม หรือเผ็ด รวมถึงอาหารปิ้งย่าง ของทอด และของมัน เพื่อป้องกันการสะสมในร่างกายจนก่อเกิดโรคได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง, โรคทางหลอดเลือด และโรคเบาหวาน เป็นต้น
  • ถ้าต้องการทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ควรเน้นทานประเภทไม่ขัดขาว หรือเน้นเป็นธัญพืช เช่น ขนมปังโฮลวีท หรือพวกธัญพืชอบ เป็นต้น
  • เน้นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น สตรอว์เบอร์รี่, บลูเบอร์รี่ หรือราสป์เบอร์รี่ เป็นต้น เพื่อบำรุงสายตา และในเรื่องของการมองเห็น รวมถึงยังได้ในเรื่องของระบบประสาทและสมองอีกด้วย

ข้อควรรู้ก่อนเริ่มอาหารเสริมให้ลูก

การให้ลูกได้ทานอาหารเสริมเมื่อลูกมีอายุ 6 เดือนขึ้นไปนั้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

ควรเริ่มในมื้อเช้าหรือมื้อกลางวัน

ก่อนเริ่มอาหารใหม่ ๆ ให้ลูกน้อยไม่ว่าจะประเภทใดก็ตาม ควรเริ่มให้ลูกในมื้อเช้า หรือมื้อกลางวัน เนื่องจากหากลูกน้อยมีอาการแพ้อาหาร คุณพ่อคุณแม่จะได้พาลูกไปพบแพทย์เฉพาะทางได้ในช่วงกลางวัน

เพิ่มเมนูใหม่ครั้งละ 1 อย่าง

แนะนำว่าให้เริ่มที่ละ 1 อย่างเนื่องจากหากลูกมีอาการแพ้อาหาร คุณพ่อคุณแม่จะได้รู้ว่าลูกแพ้จากอาหารตัวไหน ซึ่งจะสามารถเลี่ยงไม่ให้ลูกทานได้ในอนาคตค่ะ

เพราะทารกยังพูดสื่อสารมาเป็นประโยคหรือคำพูดให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจได้ ดังนั้น การจะให้อาหารเสริมใด ๆ กับลูกก็ตาม ควรเริ่มทีละน้อยก่อน เพื่อลดความเสี่ยงหากลูกน้อยมีอาการแพ้อาหารค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP