“เด็กก็คือเด็ก” ใช่เลยค่ะ แต่การตีความของโน้ตจากประโยคนี้จะเป็นไปใสทิศทางที่ว่า “เด็กนั้นฝึกง่าย ปลูกฝังง่าย” ตอนนี้น้องมินอายุ 4 ขวบกว่า เพราะงั้นโน้ตเลยต้องรีบอาศัยจังหวะนี้ในการสอนเค้า ปลูกฝังสิ่งดีๆ ให้กับเค้า เท่าที่แม่คนหนึ่งจะคิดได้
“การคิดบวก” แน่นอน พ่อแม่ทุกคนก็อยากให้ลูกคิดบวก วันนี้โน้ตขออนุญาตินำประสบการณ์ของตัวเองในการสอนลูกให้คิดบวกมาฝากค่ะ
ประสบการณ์จากแม่โน้ต
คุณแม่ลูกหนึ่งที่เคยผ่านภาวะครรภ์เป็นพิษมาแล้ว ต้องคลอดลูกก่อนกำหนดด้วยอายุครรภ์เพียง 7 เดือน ต้องเลี้ยงลูกด้วยหลักคำสอนของผู้ใหญ่บ้าง ของตัวเองบ้างเพราะ…เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน และยุคสมัยต่างกัน
ในขณะที่ยุคนี้คือ “ยุคดิจิทัล” โจทย์ในการเลี้ยงลูกเปลี่ยนแปลงทุกวัน เราเองก็ต้องตั้งรับให้ดีและเตรียมความพร้อมให้ลูกเช่นกัน
โน้ตเลิฟการอ่าน รักการเขียน ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ค่ะ
Blockdit : คุณแม่บ้านบ้าน
IG : notepatsita
สารบัญ
5 วิธีสอนลูกให้คิดบวก
ไม่ต้องน้อยใจ
น้อยใจในเรื่องอะไรบ้าง?
อย่างตอนนี้น้องมินอยู่อนุบาล 1 ต้องฝึกเขียนตัวอักษรและตัวเลขให้ตรงตามเส้นประ บางครั้งน้องมินเค้าเขียนตัวอักษรไทยได้ไม่ตรงแบบเพื่อน แต่ภาษาอังกฤษกับตัวเลข เค้าเขียนได้ดี เค้าก็จะมาบอกกับแม่ว่า..
หม่ะม้า…น้องมินเขียนภาษาไทยไม่ตรงเส้นเหมือนเพื่อนๆ
แล้วตัวเลขกับภาษาอังกฤษ หนูทำได้ไหมลูก?
ทำได้(ปล. ซึ่งที่บ้านเวลาที่เค้าฝึกเขียน หม่ะม้าเห็นว่าตรงจริงนะ)
ไม่เป็นไรลูก หนูไม่จำเป็นต้องเก่งทุกอย่างนะคะ เพียงแต่เรื่องการเขียนนี้เราฝึกกันได้ค่ะ แต่ต้องใจเย็นๆ
แม่อยากให้หนูกินง่าย
หนูเบื่อแครอท หนูเบื่อบรอกโคลี
น้องมิน…เด็กบางคนรู้ว่าอยากกินอะไร แต่เค้าไม่มีโอกาสได้กิน แต่หนูมีข้าวกินทุกมื้อ แม่อยากให้หนูกินง่าย เวลาไปไหนมาไหนจะได้ไม่ต้องอดนะลูก
ข้อนี้อาจจะฟังดูยากซักหน่อยกว่าเด็กอายุ 3-5 ขวบจะรับได้และเข้าใจ แต่…ถ้าพ่อแม่อยากให้ลูกเป็นเด็กคิดบวก เราต้องปลูกฝังค่ะอาจต้องพูดซ้ำๆ ไปบ้างแต่มันจะได้ผลแน่นอน
รู้จักการรอคอย
การรอคอยเป็นอะไรที่พ่อแม่ทุกคนฝึกลูก โน้ตจะอาศัยการพูดแบบนี้ค่ะ
หนูจะเอาของเล่นอันนี้เลย(เค้าเอื้อมหยิบไม่ถึง)
หม่ะม้าทำกับข้าวอยู่ หนูรอได้ไหมคะ?
(เริ่มทำหน้าบึ้ง)
(เดินมาหาน้องมิน) น้องมินลูก…ในบางครั้งเราไม่สามารถที่จะขอปุ๊บได้ปั๊บนะคะ ไม่มีอะไรที่ได้ดั่งใจเราทุกเรื่องนะคะ หนูรอได้ไหมลูก?
ได้ค่ะ
ไม่พูดจาให้ร้ายใคร
ถ้ามีคนมาพูดให้ร้ายหนูว่า หนูเป็นเด็กเกเร ทั้งๆ ที่มันไม่จริง หนูจะชอบไหมลูก?
ไม่ชอบค่ะ
ก็เหมือนกันค่ะ สิ่งไหนที่หนูไม่ชอบ หนูก็อย่าทำอย่างนั้นกับคนอื่น โอเคไหมคะ?
กล้าที่จะฝัน
ความที่เป็นเด็ก เค้าจะยังไม่รู้แน่ชัดหรอกค่ะว่าเค้าอยากเป็นอะไร บางครั้งตอนอายุ 4 ขวบชอบวิชานี้ มา 6 ขวบอาจเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนก็ได้ เพียงแต่เราคนที่เป็นพ่อแม่มีหน้าที่ส่งเสริมเค้าในสิ่งที่เค้าอยากลอง อยากทำ เพื่อให้เค้าได้ค้นพบตัวเองได้เร็วขึ้น สิ่งที่แม่โน้ตบอกกับเค้าเสมอเลยก็คือ
หนูอยากเป็นอะไรลูก?
………
ไม่เป็นไรลูก ตอนนี้หนูยังไม่รู้ไม่เป็นไร ค่อยๆ ดูไป เพียงแต่หม่ะม้าอยากให้หนูกล้าที่จะฝัน กล้าที่จะทำตามความฝัน อย่ากลัวความผิดหวัง เราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอนะคะ
1 เดือนต่อมา
น้องมินเดินมาบอกเองว่า…
หม่ะม้า…หนูอยากเป็นนักบินอวกาศ
1 อาทิตย์ต่อมา
หนูอยากเป็นคุณหมอหัวใจ
วันรุ่งขึ้น
หนูอยากเป็นสัตวแพทย์
นี่แหละค่ะ “เด็กก็คือเด็ก” ไม่ว่าเค้าจะอยากเป็นอะไรคนเป็นพ่อแม่ก็พร้อมที่จะส่งเสริมทั้งนั้น
ที่กล่าวมาทั้งหมด 5 ข้อนี้ พ่อแม่ต้องอาศัยการพูดซ้ำๆ ทำให้เค้าเห็นเป็นประจำนะคะ เด็กก็จะเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่หรือของคนในครอบครัว อยากเห็นลูกเป็นแบบไหน ปลูกฝังเค้าแบบนั้นนะคะ เหมือนต้นไม้ที่เราต้องรดน้ำ พรวนดิน ฉันใดก็ฉันนั้นค่ะ เป็นกำลังใจทุกครอบครัวนะคะ