หลายคนคงจัดกระเป๋าเตรียมตัวไปคลอดกันแล้วสินะคะ นอกจากจะต้องเตรียมข้าวของเครื่องใช้และเอกสารต่างๆ แล้ว ก็อย่าลืมที่จะเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อพร้อมรับมือกับทั้งสองชีวิตใหม่กันด้วยนะคะ การหาข้อมูลล่วงหน้าจะช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้นในการเลี้ยงดูลูกน้อย ลองมาฟังเรื่องเล่าจากคุณแม่ที่เพิ่งผ่านภาวะหลังคลอดมาได้จนตอนนี้เรียกว่าอยู่ในช่วงคงที่ทั้งร่างกายและจิตใจของตัวเองรวมถึงลูกน้อยด้วยค่ะ
ประสบการณ์จากแม่พลอย
คุณแม่เภสัชกรลูกหนึ่งที่เคยผ่านภาวะซึมเศร้าหลังคลอดมาได้โดยไม่ต้องใช้ยา ทั้งยังเคยเป็นพี่เลี้ยงเด็กเล็กมาก่อน ดังนั้นการมีลูกคนแรกจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับแม่คนนี้เท่าไหร่ โชคดีที่ได้เป็นคุณแม่ฟูลไทม์ไปพร้อมๆ กับการทำงานที่บ้านได้ ก็จะพยายามใช้ทั้งความรู้และประสบการณ์นำมาถ่ายทอด ไม่ว่าจะทฤษฎีทางการแพทย์หรือความเชื่อโบราณทุกอย่างล้วนมีเหตุผล แต่แม่พลอยคิดว่าการเลี้ยงลูกทางสายการนั้นย่อมดีที่สุดค่ะ
ของคุณแม่มือใหม่
ด้านร่างกาย
ตอนก่อนคลอดเนี่ยตัวก็จะบวมๆ หน่อย ก็อย่างว่าแหละเนอะมี 2 คนในร่างเดียว พอแยกร่างกันแล้วหลังคลอดตอนแรกก็ดูเหมือนจะยังไม่คลอดหรอกนะคะ
ตอนออกจากโรงพยาบาลกลับมาบ้านได้ 3-4 วันจะเริ่มเห็นชัดแล้วว่าท้องแฟบลง แต่หน้าท้องจะเหี่ยวๆ หน่อย ของแม่พลอยเองนี่ก็หน้าท้องคล้ำกว่าตอนก่อนคลอดหน่อยนึง โชคดีที่ไม่มีการแตกลาย ส่วนเส้นกลางท้องสีดำๆ จะยังคงอยู่ไปจนลูกอายุ 3-4 เดือนถึงเริ่มจาง เพียงแค่ขัดออกแบบขี้ไคลก็จางหายไปค่ะ
ส่วนที่ภูมิใจที่สุดก็จะเป็นเรื่องนมแม่นี่เลย จริงๆ ก่อนคลอดเต้านมก็ยังไม่ใหญ่นะ ใส่ไซส์เดิมมาตั้งแต่ก่อนท้องยันคลอดด้วยซ้ำ แต่พอหลังคลอดในวันแรกๆ น้ำนมมาแบบเป็นหยดน้อยๆ เพราะเพิ่งจะเคยมีลูกน่ะค่ะ
เลยไม่เข้าใจว่านมมันจะออกเยอะเท่าคนที่เค้าปั๊มได้เป็นขวดๆ มั้ย แอบเครียดอยู่นะคะตอนนั้น เมื่อใจเราตั้งมั่นไว้ว่าต้องให้ลูกกินนมตัวเองให้ได้ไม่ว่าจะหัวนมแตกแค่ไหน เหนื่อยอุ้มเข้าเต้าแค่ไหนก็ต้องสู้จนลูกได้กินนมแม่ 100% และการเอาลูกเข้าเต้าบ่อยๆ ก็ช่วยขับน้ำคาวปลาให้หมดไว มดลูกเข้าอู่ไวโดยไม่ต้องพึ่งยาสตรีใดๆน้ำหนักแม่ลงอย่างรวดเร็ว เหลือไว้ก็แต่เต้านมที่อัพไซส์ขึ้นมานี่แหละค่ะ
ตอนนี้หุ่นแม่ก็กลับมาเป็นเหมือนก่อนคลอดแล้ว คนไม่รู้จักอาจจจะไม่เชื่อว่านี่คือแม่ลูกอ่อน ในการให้นมลูกนั้น ถ้าเราเอาเข้าเต้าตลอดก็จะไม่มีปัญหาเรื่องนมอุดตัน ไวท์ดอท เจ็บปวดคัดตึงเต้า อาจเพราะเราเป็นแม่ฟูลไทม์ก็เลยมีเวลาตรงนี้ได้เต็มที่
ด้านจิตใจ
เรื่องนี้จะว่าไปก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคุณแม่มือใหม่อย่างเราอยู่นะคะ เพราะเตรียมแค่เรื่องจิตใจที่พร้อมแค่กับสามีและลูกน้อยเท่านั้น ไม่ได้เตรียมเผื่อสำหรับคนรอบข้างคนอื่นเลย พอมาเจอจริงๆ ไม่คิดว่าจะปวดหัวมากกก ก.ไก่ล้านตัวได้ขนาดนี้ เหมือนเป็นเรื่องวัดภูมิกันยังไงไม่รู้อะ ไอ่เราก็ว่าเราเรียนมา เราศึกษามาเยอะพอสมควร ประสบการณ์ก็มี ทำไมยังจะต้องมาเจอคำพูดคอยสอนคอยชี้แนะแบบผิดๆ อีก โดยเฉพาะคำพูดที่ว่าโบราณว่าไว้อย่างนั้นอย่างนี้ ไหนจะเรื่องความเชื่องมงายต่างๆ นาๆ เราเตรียมใจเรื่องภาวะซึมเศร้าหลังคลอดไว้แล้วละ เพราะปกติก็เป็นคนคิดมากนอยด์ง่ายอยู่แล้ว
ไม่น่าจะรอดจากภาวะนี้หลังคลอดได้ ตอนคลอดที่ รพ. วันแรกนี่ร้องไห้ที่ตึกรวมเลย ร้องต่อหน้าสาธารณชนแบบไม่อาย ถึงกับยกลูกให้พยาบาลไปเลี้ยงแทน สาเหตุเพียงแค่อะไรๆ มันไม่ราบรื่นได้ดั่งใจแค่นั้นเอง อ่อ…แล้วมีคำพูดนึงที่เจ็บจี๊ดบาดใจแม่ลูกอ่อนมากๆ จนอยากบอกให้ว่าที่คุณแม่ทั้งหลายเตรียมใจไว้เลยก็คือ “วันๆ เลี้ยงลูกอยู่บ้านสบายจะตาย ไม่เห็นต้องทำอะไร” ยิ่งถ้าเป็นคนใกล้ชิดพูดนี่ยิ่งเจ็บค่ะ
แต่ถ้าใครสุขภาพจิตดี กำลังใจดีเรื่องแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาค่ะ อย่างเราสามีดีมากช่วยผ่อนแรงได้เยอะค่ะ ทั้งช่วยเลี้ยงลูก ช่วยขายของ ทำงานบ้าน คอยให้กำลังใจเวลาที่รู้สึกแย่ ก็ต้องขอบคุณเค้าค่ะ
จะว่าไปแม่หลังคลอดนี่ก็เหมือนไปเดินข้ามผ่านมิติอะไรมาสักอย่างเลย หลังจากที่เข้าไปห้องคลอดแล้ว ก็ไม่รู้ว่าชีวิตจะต้องเจอกับอะไรบ้าง แม้ว่าเราจะเตรียมใจมาดีแค่ไหน ก็ไม่รู้หรอกว่าสติจะหลุดเมื่อไหร่กับการตั้งใจในทุกรายละเอียดของชีวิตคนๆ นึง แต่สติจะกลับมาทุกครั้งเมื่อนอนกอดลูกเข้าเต้าฮอร์โมนแห่งความรักหลั่งออกมา เราก็หายเครียดได้ค่ะ
ของลูกน้อย
ด้านร่างกาย
น้องนามิลูกสาวพลอยเองโตไวมากค่ะ น้ำหนักขึ้นเดือนละ 1 กิโลกรัมเลย พ่อกับแม่ก็แบกวนไปค่ะ น้องเป็นเด็กนมแม่ล้วน กินเก่งพอสมควร ถ้ากินนมผงแม่คงจะไม่ไหวผลิตเงินแน่ๆ แต่น้องแข็งแรงตั้งแต่ในท้องแล้วค่ะ
ไม่มีปัญหาสุขภาพใดๆตอนแรกเกิดก็จะต้องระวังหน่อยเพราะตัวยังเล็ก คอยังอ่อน ระวังเรื่องตัวเหลือง คอยนับอุจจาระ ปัสสาวะในแต่ละวันว่าพอหรือไม่ ใครๆ ก็จะชอบพูดว่าลูกเราเป็นเด็กติดมือต้องคอยอุ้มตลอดเวลา ก็น้องกินเยอะอ่าค่ะ
มักจะปวดท้อง ท้องอืดถ้าไม่พาอุ้มพาดบ่า จนบางครั้งต้องใช้แอร์เอ็กซ์แบบหยดช่วย แต่การอุ้มน้องบ่อยๆ เราว่ามันช่วยสร้างสัมพันธ์ระหว่างเรากับลูกได้ดี รวมทั้งเป็นการกระตุ้นพัฒนาการได้หลายด้านด้วย
ด้านจิตใจ
เมื่อลูกน้อยยังพูดไม่ได้ ก็จะสื่อสารได้แค่ร้องไห้ คนนอกไม่เข้าใจอาจจะคิดว่าเด็กขี้งอแง แต่ถ้าเราหาให้เจอว่าลูกร้องเพราะอะไรและตอบสนองลูกได้อย่างรวดเร็ว จะทำให้พื้นฐานอารมณ์ของลูกพัฒนาดีขึ้น ก็เด็กอะเนอะอยู่ในท้องเรามาตั้งเก้าเดือน แล้วจู่ๆ ก็ต้องออกมาอยู่ข้างนอก เจอแสงจ้า เสียงดัง ใครต่อใครคอยรบกวนอีก ถ้าลูกเกิดความอุ่นใจก็จะไว้ใจพ่อแม่ ไว้ใจโลกมากขึ้น และลูกก็จะเติบโตได้อย่างมั่นคง จะเห็นชัดก็ตอนปล่อยลูกนอนเล่นไว้คนเดียวได้โดยไม่ร้องกวนค่ะ
จากที่ผ่านช่วงหลังคลอดใหม่ๆ มาได้ ตอนแรกก็คิดว่าชีวิตคงจะเปลี่ยนไปมาก แต่จริงๆ ก็ไม่ค่อยได้เปลี่ยนเท่าไหร่ ยังคนเป็นคนเดิมที่เพิ่มเติมสิ่งมีชีวิตที่แสนจะน่ารักเข้ามาเติมเต็มหัวใจให้มีกำลังใจแก้กับทุกปัญหาไปได้ การเลี้ยงลูกไม่ใช่ทำให้เพียงแต่ลูกเท่านั้นที่เติบโต คนเป็นแม่เองก็เติบโตตามไปด้วย จริงๆ ต้องใช้คำว่า “แก่” มากกว่าเนอะ สุดท้ายอยากบอกว่าที่คุณแม่ทั้งหลายที่ต้องคลอดธรรมชาติว่ามันไม่ได้น่ากลัวเลย และจงมั่นใจในวิถีการเลี้ยงแบบที่ตัวเองสะดวกและถนัดที่สุดก็พอค่ะ