7สิ่งไม่ควรทำ เมื่อสามีภรรยาทะเลาะกัน

ชีวิตคู่
JESSIE MUM

เมื่อคนสองคนตกลงมาคบกันและตัดสินใจที่จะแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาแล้วแน่นอนย่อมมีการทะเลาะเบาะแว้งขึ้นบ้าง ไม่มากก็น้อยเหมือนลิ้นกับฟันที่มีกระทบกระทั่งกันบ้างในบางวัน ไม่มีใครทำอะไรให้ถูกใจเราไปซะทุกอย่าง ต่างคนต่างก็เติบโตมาคนละที่ ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาแตกต่างกัน วิธีคิดในบางเรื่องก็ย่อมแตกต่างกันไปเป็นธรรมดา

“แต่…อะไรล่ะ ที่จะทำให้การทะเลาะกันต้องบานปลาย?”

วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องสิ่งที่ทั้งสามีและภรรยาไม่ควรทำต่อกัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

1.อย่าเงียบ

จริงอยู่เวลาสามีภรรยาทะเลาะกัน ต่างคนก็ต่างใช้อารมณ์พูดคุยกันจนบางทีต่างคนต่างคิดว่า “ความเงียบสงบสยบความเคลื่อนไหว”แต่ความจริงแล้วการเงียบ ไม่ใช่การแก้ปัญหาเลย สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ถูกแก้ไข หรือคลี่คลาย

การเงียบ…แท้จริงแล้วก็เหมือน “ระเบิดเวลาที่หมกอยู่ใต้พรม”รอเวลาที่จะระเบิดอีกครั้ง ซึ่งครั้งหลังนี้อาจทำให้ทะเลาะกันหนักขึ้นกว่าเดิมอย่าใช้ความเงียบเพียงเพื่อเป็นอาวุธของการประชดหรือความสะใจ กลับกันมันจะเป็นตัวบั่นทอนความรักของซึ่งกันและกันมากกว่า

2.ไม่ท้าให้ “หย่า”

เข้าใจค่ะว่าเวลาทะเลาะกันบางทีอารมณ์ก็พาไป แต่พาไปออกอ่าวเลย เพราะการที่เราตกลงปลงใจใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วก็น่าจะต้องช่วยกันประคับประคองไปจนตลอดรอดฝั่ง เพราะหากใครคนใดคนนึงพูดท้ามาก่อน และเมื่ออีกฝ่ายได้ยินบ่อยๆ เข้า อาจประชดรับคำท้า สรุปเสียใจกันทั้งคู่

ลองนะคะ ทั้งคู่…ลองวางทิฐิ วางอัตตา (ยึดตัวตน) ลง อาจจะเงียบซักพัก เพื่อสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ตั้งสติคิดดูใหม่ ว่าปัญหามันเกิดจากอะไร? แล้วอะไรที่เป็นต้นเหตุของเรื่องที่ทำให้ปัญหาบานปลายจนต้องทะเลาะกัน จะใช่ทิฐิหรือเปล่า? ถ้าใช่…ให้วางลงทันที แล้วเข้าไปคุยกันใหม่เพื่อแก้ปัญหานะคะ

3.ไม่เอาเรื่องเก่ามาทะเลาะใหม่

ข้อนี้ยิ่งหนักเลยค่ะ เรื่องล่าสุดก็ยังทะเลาะกันอยู่ เผลอแป๊บเดียวโยงเรื่องเก่าเอามาทะเลาะใหม่ได้อย่างกะใส่ hyperlink คลิกเรื่องเก่าเรื่องไหนก็ยังเอามาทะเลาะได้ทุกเรื่อง แบบนี้เมื่อไหร่ปัญหามันจะคลี่คลายล่ะคะ

แบบนี้ไม่ดีเลยให้ตั้งสติคิดซะว่า เรื่องเก่าคือเรื่องเก่า จบไปแล้ว เรื่องใหม่ที่ไม่เข้าใจกัน ณ ปัจจุบันก็เคลียร์กันเฉพาะของปัจจุบันให้จบ พอจบแล้ววางไม่เอามาแบกไว้ค่ะ หนักเปล่าๆ

4.ไม่ทำร้าย “ร่างกายและจิตใจ” กัน

ข้อนี้ขอกาดอกไม้จันท์ เอ้ย! ดอกจันซักพันดอก เพราะธรรมชาติผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า พละกำลังน้อยกว่า ดังนั้น เวลาทะเลาะกันต่อให้จะโมโหกันมากขนาดไหนก็ตามก็ไม่ควรที่จะทำร้ายร่างกายหรือจิตใจซึ่งกันและกัน ต่างคนอยู่ให้ห่างไกลสิ่งของที่สามารถหยิบเควี่ยงได้ เพราะเวลาด้วยอารมณ์พาไปเราอาจจะทำอะไรแบบที่แม้แต่เราเองก็ไม่คาดคิดขึ้นได้ แต่คงไม่ถึงกับเป็นฮัค ตัวเขียวโนะ

5.อย่าทำให้เรื่องบานปลาย

เพราะความที่สามีภรรยาได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาต่างกัน นิสัยจึงย่อมมีต่างกันบ้าง โดยเฉพาะเรื่องของการใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชม. อาจมีเรื่องบางเรื่องที่ขัดหูขัดตาไปบ้าง หากเป็นเรื่องเล็กน้อย อาทิ การถอดเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว หรือการเก็บข้างของให้เป็นระเบียบ สิ่งเหล่านี้ลองค่อยๆ พูดคุยกันดู

แต่หากพูดแล้วยังไม่ดีขึ้น ยังไม่มีวี่แววว่าจะปรับปรุงตัว แนะนำว่า ให้เรา “หลับตาข้างนึง” แล้วจัดการเองเลยค่ะ แล้วให้เราเปลี่ยนวิธีคิดและมุมมองใหม่ว่า “คนเราไม่ได้มีใครเพอร์เฟ็คไปซะทุกเรื่อง”เท่านี้ ปัญหาก็ไม่เกิด ทะเลาะก็ไม่มีค่ะ

6.ไม่ทะเลาะต่อหน้าลูก (หากกรณีมีลูก)

ข้อนี้สำคัญค่ะ เพราะหากครอบครัวไหนมีลูกแล้ว การทะเลาะต่อหน้าลูกเปรียบเสมือนการสร้างรอยแผลในใจให้ลูกอย่างนึงเลยทีเดียว และเค้าจะจำภาพที่คุณพ่อคุณแม่ทะเลาะกันไปจนโต ยิ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่ทะเลาะกันให้ลูกเห็นบ่อยๆ เค้าจะซึมซับพฤติกรรมนั้นไปจนโต และจะถ่ายทอดพฤติกรรมดังกล่าวสู่คนที่อยู่รอบตัวเค้า ทำให้เค้ากลายเป็นเด็กมีปัญหาไปในที่สุดค่ะ

7.อย่าประชด

หรืออีกนัยหนึ่งคือ “อย่าบอกว่าไม่มีอะไร หากในใจยังติดค้าง”เพราะอีกฝ่ายอาจเข้าใจไปอย่างนั้นจริงๆ สุดท้ายไม่มีการเคลียร์กัน ไม่มีใครง้อใคร ส่วนคนที่คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะตามมาเคลียร์แต่ไม่มา แบบนี้ก็ยิ่งทำให้ปะทุความโกรธ ยกระดับดีกรีความงอนสูงขึ้นไปอีก ไม่มีประโยชน์เลย สู้บอกไปเลยค่ะ ว่าติดค้างเรื่องไหน? อย่างไร?

รู้กันแบบนี้แล้ว ก่อนจะทะเลาะกัน ค่อยๆ นั่งคิดกันดีๆ ใจเย็นๆ นะคะ แล้วรับฟังซึ่งกันและกัน ช่วยกันประคับประคองชีวิตคู่ไปจนตราบนานเท่านาน เป็นกำลังใจให้นะคะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP