ส่งลูกเรียนที่ไหนดี ระหว่าง EP (English Program) หรือ สายสามัญ พร้อมข้อมูล 6 ประเภท โรงเรียน

ไลฟ์สไตล์

เมื่อถึงวัยที่ลูกต้องเข้าเรียน คุณพ่อคุณแม่มือใหม่อาจจะกำลังคิดไม่ตกว่า จะให้ลูก เรียน English Program, เรียน International Program หรือจะเป็นสายสามัญดีวันนี้ผู้เขียนมีข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจมาฝากค่ะ

International Program และ English Program

รศ.ดร. เสาวลักษณ์ รัตนวิชช์ประธานโครงการประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครูนานาชาติ (International Graduate Diploma Program) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร)เปิดเผยว่า การจะให้นักเรียนที่เลือกเรียนแผนนี้ (IE และ EP)แล้วประสบความสำเร็จทั้งด้านการศึกษาและด้านภาษาแล้วควรพิจารณาที่ตัวผู้สอนก่อน ดังนี้

  1. ตัวผู้สอนต้องมีความพร้อมและความสามารถ
  2. ความรู้ในเชิงลึกเกี่ยวกับวิชาที่จะสอยเด็ก
  3. มีวุฒิการศึกษาที่ดี

แต่โดยมากที่พบครูและอาจารย์ผู้สอนในแผน IP และ EP เอง ส่วนใหญ่เป็นเพียงเจ้าของภาษา ส่วนมากไม่มีวุฒิการศึกษาเฉพาะทางเกี่ยวกับการสอน หรือไม่มีใบประกาศนียบัตรประกอบวิชาชีพครู ตามที่กฎกระทรวงการศึกษากำหนด โดยเฉพาะหลักสูตรที่จะสอนต้องเป็นไปตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดหากเป็นแบบนี้แล้วจะทำให้ครูผู้สอนไม่สามารถที่จะถ่ายทอดความรู้หรือไม่สามารถที่จะสอนให้เด็กเข้าใจได้

การประเมินผลในโรงเรียน IP และ EP

เนื่องจากหลักสูตรที่นักเรียนจะต้องเรียนนั้น ต้องเป็นหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดขึ้น ดังนั้น นักเรียนที่เรียนในโปรแกรม IP และ EP จะใช้หลักสูตรที่แปลจากตำราภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการของนักเรียนทั้ง 2 โปรแกรมนี้

ดังนั้น นักเรียนจึงต้องเรียนทั้ง 2 ภาษาคือ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพราะเป็นข้อบังคับที่ขึ้นอยู่กับกระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนี้ การวัดและการประเมินผลยังไม่เป็นสากลเท่าที่ควร คือ การใช้หลักการประเมินตามการเรียนในหลักสูตรภาษาไทย ซึ่งจริง ๆ แล้วการจะประเมินว่าหลักสูตรดีหรือไม่ดีนั้น ควรให้ผู้เรียนเป็นผู้ประเมินหรือตัดสินใจเอง

แนวคิดในการเลือกเรียน

  1. ตัวโรงเรียนเองไม่ว่าจะเป็นความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย อากาศถ่ายเทได้สะดวก
  2. ผู้บริหารของโรงเรียน พิจาณาจากวิสัยทัศน์ที่ดีของผู้บริหาร
  3. ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ประโยชน์ของเด็กต้องมาก่อน
  4. มีแนวทางด้านคุณธรรมจริยธรรมที่ดี
  5. ชื่อเสียงโรงเรียน

ทั้งหมดนี้…จะรู้ได้อย่างไร? คุณพ่อคุณแม่ต้องทำการบ้านค่ะ โดยการไปหาข้อมูลจากคนรู้จัก เพื่อนบ้านที่เค้ามีลูกในวัยเรียนเหมือนกัน การได้พูดคุยกับเด็กเอง ถ้าเป็นไปได้ ไปเยี่ยมเยียนโรงเรียนและไปคุยกับผู้บริหารหรือคุณครูในโรงเรียนนั้นๆ ค่ะ ก็จะได้รับทราบข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้นค่ะ

โรงเรียนที่มีเกียรติประวัติดี

โรงเรียนที่มีเกียรติประวัติดี คือ โรงเรียนที่มีป้ายโชว์ว่าเด็กนักเรียนคนนี้สอบชิงทุนต่างประเทศได้ หรือเด็กชายคนนั้นสอบติดมหาวิทยาลัยคณะนี้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ อะไรประมาณนี้เป็นต้น จะว่ากันตามจริงแล้ว ไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่เน้นตรงนี้มาก เพราะหากลูกของเราได้เรียนที่โรงเรียนนี้จริง แต่ตกเย็นต้องมานั่งทำการบ้านกองพะเนิน ไม่มีเวลาเล่น ไม่มีเวลาสนุกตามวัยของเค้าที่ควรจะเป็นก็จะทำให้เด็กเครียดซะเปล่า ๆ
สิ่งที่ควรปลูกฝังลูก คือ ความตั้งใจเรียน เพราะหากเด็กมีความตั้งใจ มีความขยันแล้ว เค้าก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้ค่ะ โดยคุณพ่อคุณแม่คอยให้กำลังใจ ส่งเสริมเค้าก็พอ

ไม่ควรเน้นแต่วิชาการอย่างเดียว

เด็กหลายคนที่ขยันเรียน ตั้งใจเรียนมากแต่…ขาดทักษะการใช้ชีวิต คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกโรงเรียนที่มีการสอนเรื่องจริยธรรม คุณธรรม การใช้ชีวิตกับคนรอบข้าง หรือการทำกิจกรรมกับคนรอบข้าง เพื่อปลูกฝังให้เค้าเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือตัวเอง และการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น ๆ ในสังคม
ข้อนี้คุณพ่อคุณแม่จะรู้โดยการสอบถามคุณครูที่โรงเรียนได้เลยค่ะ

เลือกโรงเรียนใกล้บ้าน

ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกโรงเรียนใกล้บ้าน ถึงแม้จะเลือกโรงเรียนที่ดีมากอย่างไร แต่หากลูกต้องใช้ชีวิตอยู่บนถนนนาน ๆ รองจากที่บ้านและโรงเรียนข้อนี้ก็ไม่ไหวค่ะ เพราะเด็กต้องตื่นแต่เช้าตรู่ หากบ้านไหนที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานนอกบ้านด้วยแล้ว ก็จะยิ่งเครียดกันไปใหญ่ ส่งลูกก็สาย เข้างานก็สาย ไม่มีเวลาเหลือทำกิจกรรมร่วมกัน คุณพ่อคุณแม่ค่อยๆ พิจารณานะคะ

ค่าใช้จ่าย

การเลือกโรงเรียนไม่ว่าจะเป็น IP หรือ EP หรือ สายสามัญก็ตาม หลักๆ แล้ว เรื่องค่าใช้จ่ายก็เป็นตัวแปรหลัก ซึ่งถ้าแพงไป คุณพ่อคุณแม่ก็จะรับไม่ไหว ทำให้เกิดความเครียด ส่งต่อไปยังลูกอีก ดังนั้น การเลือกโรงเรียนควรพิจารณาจากกำลังเงินของคุณพ่อคุณแม่เองจะดีที่สุดค่ะ

6 ประเภทโรงเรียน

โรงเรียนรัฐบาล

จุดเด่นของโรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนที่ใครหลาย ๆ คนมองเป็นตัวเลือกธรรมดาตัวหนึ่ง ความจริงแล้วโรงเรียนรัฐบาลมีข้อดีหลายข้อนะคะ

  • ค่าเทอมไม่แพง
  • มีสังคมที่หลากหลาย
  • ได้ใช้ชีวิตแบบติดดิน
  • ความมีชื่อเสียง
  • อยู่ใกล้บ้าน
  • ผู้ปกครองเคยเป็นศิษย์เก่า

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยลำดับต้น ๆ ที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจให้ลูกเข้าเรียนโรงเรียนรัฐบาลนั้นคือ ค่าเทอมไม่แพงเฉลี่ยอยู่ที่ 3,000 – 6,000 บาทต่อปี

โรงเรียนคาทอลิก

โรงเรียนคาทอลิกเป็นโรงเรียนเอกชนที่มีจุดเด่นคือ

  • วิชาการเด่น
  • สังคมกว้างขวาง
  • คอนเนคชันกว้างไกล

เด็กที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนนี้ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องนับถือศาสนาคริสต์นะคะ กลับกันส่วนใหญ่เป็นครอบครัวที่นับถือศาสนาพุทธนี่แหละ เพียงแต่พื้นฐานของโรงเรียนประเภทนี้คือ คริสต์เท่านั้นเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายอยู่ราว ๆ 80,000 – 90,000 บาทต่อปี ซึ่งถ้าเรียนหลักสูตร English Program ค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับหลักสูตรสามัญที่โรงเรียน

แม่โน้ต

แม่โน้ตให้น้องมินเรียนที่โรงเรียนคาทอลิก แบบสองภาษาค่ะ เพราะยังอยากให้ลูกได้เรียนภาษาไทยอยู่ และที่สำคัญทางครอบครัวเห็นว่าลูกชอบเรียนภาษาอังกฤษ และพูดภาษาได้ตั้งแต่อายุเกือบ ๆ 3 ขวบ แต่เป็นประโยคสั้น ๆ นะคะ ซึ่งการจะเลือกโรงเรียนให้ลูกต้องพิจารณาหลาย ๆ ปัจจัย ที่สำคัญคือ เรื่องค่าใช้จ่าย เพราะไม่ใช่ว่าค่าเทอมอย่างเดียวแล้วจบ

โรงเรียนสาธิต

โรงเรียนสาธิตเป็นโรงเรียนที่อยู่ภายใต้การดูแลของคณะศึกษาศาสตร์หรือคณะครุศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ จุดเด่นของโรงเรียนประเภทนี้คือ

  • มีการเรียนการสอนที่นอกกรอบ
  • เป็นการปูทางเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย
  • วิชาการเข้ม
  • มีกิจกรรมเยอะ

ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 25,000 – 50,000 บาทต่อปี แต่ไม่ค่อยเด่นในเรื่องของภาษาเท่าไหร่

โรงเรียนทางเลือก

มาระยะหลังนี้คุณพ่อคุณแม่อาจจะเคยได้ยินชื่อโรงเรียนทางเลือกเยอะขึ้น ซึ่งโรงเรียนทางเลือกนี้เป็นโรงเรียนที่อิสระจากการควบคุมของรัฐบาล มีการเรียนการสอนที่ต่างจากการเรียนการศึกษากระแสหลัก โดยจะเน้นการเรียนนอกห้องเรียน เน้นเชิงปฏิบัติ ซึ่งจุดเด่นของโรงเรียนประเภทนี้ คือ

  • เน้นเรียนเชิงปฏิบัติ
  • ได้ใกล้ชิด และสัมผัสธรรมชาติ
  • มีกิจกรรมให้ได้ทำ และได้เรียนรู้มากมาย

ค่าจ่ายของโรงเรียนทางเลือกเฉลี่ย 25,000 – 50,000 บาทต่อปี บางที่อาจไปถึงหลักแสนต้น ๆ แต่คือ แค่ระดับอนุบาลนะคะ

โรงเรียนสองภาษา

จุดเด่นของโรงเรียนสองภาษา คือ

  • ได้เรียนรู้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
  • ราคาไม่สูงเท่าโรงเรียนนานาชาติ
  • เด็กยังได้เรียนหลักสูตรภาษาไทย

โรงเรียนสองภาษาหรือ Bilingual เป็นการเรียนการสอนที่มีหลักสูตรต่อยอดมาจากการสอนแบบไทยปกติ แต่จะมีในบางวิชาที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ เช่น ในระดับชั้นอนุบาลจะสามารถสอนภาษาอังกฤษได้ไม่เกิน 50% ของวิชาที่สอนทั้งหมด และในระดับประถมศึกษาจะสอนเป็นภาษาอังกฤษได้เฉพาะวิชาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และพลศึกษา เป็นต้น โดยที่ค่าใช้จ่ายจะตกราว ๆ 80,000 – 100,000 บาท ต้น ๆ ต่อปี

โรงเรียนนานาชาติ

ประเภทสุดท้ายนี้ โรงเรียนนานาชาติมีจุดเด่นคือ

  • ใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนกับสังคมต่างชาติ
  • สอนด้วยหลักสูตรต่างประเทศ
  • ภาษาอังกฤษดีเยี่ยม

สำหรับ โรงเรียนนานาชาติจะมีค่าใช้ค่อนข้างสูงประมาณ 300,000 – 700,000 บาทต่อปี โดยจะใช้หลักสูตรของอังกฤษ อเมริกา หรือออสเตรเลียในการเรียนการสอน แต่ก็จะมีวิชาภาษาไทยเป็นวิชาบังคับด้วย

ไม่ว่าสุดท้ายแล้วคุณพ่อคุณแม่จะเลือกแบบไหนคงต้องมีหลาย ๆ ปัจจัยเข้าเป็นตัวประกอบ เพื่อการตัดสินใจโดยเฉพาะในระดับชั้นอนุบาล ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถดูข้อมูลเติมได้จาก “โรงเรียนอนุบาลที่ดีที่สุดในประเทศไทย พร้อมค่าใช้จ่าย 2563” ค่ะ


อยากรู้จังว่าโรงเรียนอนุบาลไหนที่ดีสุดในประเทศไทย พร้อมค่าใช้จ่ายด้วยจะดีมาก? คำตอบรอคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้วที่นี่ค่ะ คลิกเลย

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP