ลูกอยากเลี้ยงสัตว์ ให้ลูกเริ่มได้เมื่อไหร่ดี

ไลฟ์สไตล์

ขึ้นชื่อว่า “สัตว์เลี้ยง” ก็คือสัตว์ที่สามารถเลี้ยงไว้ได้ในบ้าน และเรื่องของสัตว์เลี้ยงกับเด็กเป็นอะไรที่เจอกันไม่ได้ทีเดียว แม่โน้ตเองจำได้ว่าสมัยเด็ก ๆ คุณพ่อเคยพาไปเที่ยว แล้วเราก็เจอร้านขายสัตว์ร้านหนึ่งที่ขายทั้งนกแก้วและแมว จึงบอกคุณพ่อว่าอยากได้ อยากเลี้ยงสัตว์ คุณพ่อก็ถามราคา พอรู้ราคาเท่านั้นแหละ เดินออกแทบไม่ทัน เพราะร้านนั้นเป็นสัตว์ที่นำเข้าทั้งหมด ดังนั้น วันนี้ถ้าเกิดลูก ๆ ของคุณพ่อคุณแม่ต้องการจะเลี้ยงสัตว์บ้าง เราควรรู้อะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

ข้อดีของการเลี้ยงสัตว์ในบ้าน

การเลี้ยงสัตว์ในบ้านมีข้อดีให้ลูกอยู่หลายข้อด้วยกัน ดังนี้ค่ะ

ฝึกให้อยู่ร่วมกับผู้อื่น

เพราะการได้เลี้ยงสัตว์ ลูกจะได้เรียนรู้ที่จะแบ่งปัน และคำนึงถึงความต้องการของผู้อื่น ลูกจะเริ่มเรียนรู้และเคารพในความแตกต่าง รวมถึงลูกจะมีความอดทน รู้จักการรอคอยได้มากขึ้น

ปลูกฝังความรับผิดชอบ

แน่นอนว่าเมื่อลูกมีสัตว์เลี้ยง ลูกจะมีความรับผิดชอบมากขึ้น มีหน้าที่มากขึ้น โดยที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำข้อตกลงกับลูกให้ชัดเจนก่อนการเลี้ยงสัตว์นะคะ ว่าหน้าที่ของลูกที่มีกับสัตว์เลี้ยงนั้น ลูกต้องทำอะไรบ้าง เช่น การอาบน้ำ, การทำความสะอาด, การให้อาหาร หรือแม้แต่การพาสัตว์ไปเดินเล่น เปลี่ยนบรรยากาศ เป็นต้น

มีภูมิคุ้มกันทางจิตใจ

ด้วยธรรมชาติของสัตว์ก็มักจะชอบกัด ชอบข่วน ซึ่งบางครั้งอาจจะไปกัดรองเท้าหรือโซฟาที่เป็นของรักของหวงของเรา ลูกจะได้เรียนรู้เรื่องของการให้อภัย หรือแม้แต่ในกรณีที่สัตว์เสียชีวิต ลูกก็จะได้เรียนรู้เรื่องของการสูญเสีย เรียนรู้เรื่องการทำใจให้เป็น สุดท้ายลูกจะรู้ว่าการที่เราจะต้องเผชิญกับความสูญเสียนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ

ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

ในวันหยุด แทนที่ลูก ๆ จะอยู่กับหน้าจอ แต่เมื่อมีสัตว์เลี้ยง ลูก ๆ จะสามารถพาออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะได้ ไปออกกำลังกายได้พบปะผู้คน และยังทำให้ร่างกายของลูกแข็งแรงอีกด้วยค่ะ

ให้ลูกเลี้ยงได้เมื่อไหร่ดี

คุณพ่อคุณแม่จะให้ลูกเลี้ยงสัตว์ได้เมื่อไหร่ดี สามารพิจารณาได้จากปัจจัย ดังต่อไปนี้ค่ะ

ลูกคุ้นเคยกับสัตว์ดี

เพราะสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอารมณ์เหมือนคนเรา ในมุมที่สัตว์อารมณ์ดีก็จะอ้อนเรา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่สัตว์เริ่มอารมณ์ไม่ดี เริ่มหงุดหงิด แบบนี้ลูกรู้แล้วหรือยังว่าควรสังเกตอย่างไร แนะนำว่าวันหยุด คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปสวนสัตว์ หรือไปร้านคาเฟ่ อย่างคาเฟ่แมว หรือคาเฟ่สุข เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้หลาย ๆ ด้านของสัตว์ก่อนนำมาเลี้ยง

ลูกมีความอดทนพอหรือไม่

เด็กบางคนพอได้สัตว์มาเลี้ยงไม่นานก็เบื่อ และปล่อยให้เป็นภาะของคุณพ่อคุณแม่ทำหน้าที่ต่อไป ดังนั้น ก่อนการซื้อควรทำข้อตกลงกันให้ดี และชัดเจนเสียก่อน เกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบหากลูกต้องการเลี้ยงสัตว์

ลูกมีความรับผิดชอบดีหรือยัง

การเลี้ยงสัตว์ก็เหมือนการเลี้ยงคน ๆ หนึ่งเลยทีเดียว เพราะต้องให้ข้าว ให้น้ำ พาสัตว์ไปเดินเล่น ไปเปลี่ยนบรรยากาศ รวมไปถึงหากสัตว์เลี้ยงป่วยก็ต้องพาไปรักษาพยาบาล ข้อนี้คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาให้ดีนะคะ เพราะแน่นอนว่าลูกคงรับไม่ได้ทั้งหมด แต่ภาระที่เหลือที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรองรับนั้นไหวหรือไม่

สัตว์เลี้ยงที่เหมาะจะเลี้ยงในบ้าน

สุนัข

เป็นสัตว์ที่แสดงออกได้ค่อนข้างชัดเจน อย่างเช่นเวลาดีใจก็จะกระดิกหางให้ เป็นต้น สุนัขเป็นสัตว์ที่มีความกระตือรือร้น เหมาะกับเด็กที่มีความ Active ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไม่ค่อยอยู่นิ่ง

หนูตะเภา

หนูตะเภาเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายค่ะ แต่อาจส่งกลิ่นเหม็นบ้างบางครั้ง วิธีการลดกลิ่นก็คือ การหมั่นทำความสะอาดกรงที่อยู่ของมันค่ะ

แมว

แมวเป็นสัตว์ที่ขี้อ้อน แต่ไม่ใช่ว่าจะเรียกแล้วมาหาเหมือนสุนัข จะขึ้นอยู่กับตัวแมวเองมากกว่าค่ะ ว่าอยากมาเมื่อไหร่ก็มา อยากไปก็ไป เราเองก็ตกเป็นทาสแมวอย่างเต็มใจก็เมื่อเวลาที่มันมาอ้อนนี่แหละค่ะ

ปลา

ปลาเป็นสัตว์ที่มีสีสันสวยงาม ไม่มีการส่งกลิ่นรบกวนแต่อย่างใด แต่ภาระหน้าที่จะอยู่ที่เราต้องหมั่นสังเกตความสะอาดของน้ำ และความสะอาดของตู้ปลาค่ะ

กระต่าย

เป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่เลี้ยงง่าย กินง่าย อยู่ง่าย แต่ส่วนใหญ่แล้วกระต่ายมักจะตกใจกับเสียงที่ดัง ๆ อย่างเสียงประทัด

การเลี้ยงสัตว์มีข้อดีหลายอย่างค่ะ ทำให้ลูกมีจิตใจที่อ่อนโยน และคิดถึงความต้องการของผู้อื่นด้วย แต่ในขณะที่การพิจารณาเรื่องความพร้อมในการเลี้ยงก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย เนื่องจากการที่ต้องรับผิดชอบสิ่งมีชีวิต เราจะต้องมีความในหลาย ๆ ด้านค่ะ ซึ่งหมายรวมถึงค่าใช้จ่ายที่จะตามมาด้วย ดังนั้น ลองพิจารณากันให้ถี่ถ้วนนะคะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP