ลูกชอบขยี้ตา เป็นเพราะอะไร? แบบไหนที่ควรกังวล

พัฒนาการเด็กและสุขภาพลูกวัย 0-1 ขวบ

เกร็ดความรู้ในเรื่องของการเลี้ยงลูกที่ถูกส่งต่อกันมา ผนวกกับประสบการณ์ส่วนใหญ่ของคุณพ่อคุณแม่เกี่ยวกับการที่ลูกชอบเอามือขยี้ตาไปมาโดยเฉพาะลูกที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน มักเกิดจากการที่ลูกน้อยเริ่มง่วงแล้ว แต่การที่ลูกเอามือขยี้ตา ถูหน้าไปมานั้น ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกค่ะ ว่าแต่การขยี้ตานี้มีอะไรที่คุณพ่อคุณแม่ควรกังวลหรือไม่ วันนี้เราไปไขข้อข้องใจกันค่ะ

ลูกชอบขยี้ตา เป็นเพราะอะไร?

การที่ลูกมักจะขยี้ตา ถูหน้าไปมา เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

ง่วงนอน

เด็กเล็ก ๆ ก็เหมือนผู้ใหญ่ค่ะ ที่เมื่อเวลาเราเหนื่อยล้าที่ดวงตามาก ๆ เราก็จะมีการขยี้ตา ทารกก็เช่นกัน โดยมากคุณแม่มักจะเห็นลูกน้อยหาวพร้อมกับเอากำปั้นมาขยี้ตา ถูหน้าไปมา นั่นแปลว่าลูกรู้สึกเหนื่อย การขยี้ตาของลูกน้อยก็เพื่อเป็นการทำให้ดวงตาหรือเปลือกตาได้ผ่อนคลาย ส่งสัญญาณให้คุณแม่ได้รู้ว่า หนูง่วงนอนแล้วนั่นเองค่ะ

ตาแห้ง

ตาแห้งเกิดจากการที่น้ำตาในดวงตาลูกระเหยออกไป และหากดวงตาสัมผัสกับอากาศเป็นระยะเวลานาน ก็จะยิ่งทำให้ตาของลูกน้อยยิ่งแห้งมากขึ้นไปอีก จึงเป็นสาเหตุให้ลูกน้อยขยี้ตาเพื่อให้ดวงตากลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง

ไม่มั่นใจในสิ่งที่เห็น

เช่นเมื่อขณะที่ลูกเพิ่งตื่นมาหลังจากการนอนยาวในช่วงกลางคืน บางครั้งการที่เพิ่งลืมตาก็อาจจะทำให้ลูกน้อยเห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเป็นฝ้า ๆ หรือแสงสีขาว ทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเจน ลูกจึงต้องขยี้ตา เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น

มีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยขยี้ตาก็คือ การมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตาซึ่งอาจเป็นฝุ่น ขนตา หรืออาจเป็นเมือกแห้ง ซึ่งคุณแม่สามารถสังเกตอาการของลูกน้อยได้จากการที่ลูกมีน้ำตาไหลออกมา หรือบางรายตาอาจเริ่มแดง แก้ไขได้โดยหาผ้าสะอาดชุบน้ำให้เปียกเช็ดรอบ ๆ ตา และใบหน้าของทารก เพื่อเป็นการทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ เข้าตาลูกน้อยอีก จากนั้นใช้น้ำเย็นทำความสะอาดที่ดวงตาของทารก แต่ต้องมีผู้ช่วยจับศีรษะของลูกน้อย เพื่อป้องกันการดิ้นด้วยนะคะ

เจ็บตา หรือเคืองตา

อาการเจ็บ หรือเคืองตาในข้อนี้จะเป็นลักษณะที่ลูกมีอาการแพ้หรือมีอาการติดเชื้อ ตาของลูกน้อยจะมีอาการบวมแดง มีน้ำมูกไหล มีไข้ รวมไปถึงมีการร้องไห้งอแงไม่หยุด ซึ่งถ้าหากลูกมีอาการเช่นนี้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ

ความเสี่ยงจากการที่ลูกขยี้ตา

การขยี้ตาอันเกิดจากสาเหตุที่ว่าลูกง่วงนอนนั้น คงไม่ได้เป็นอันตราย หรือมีอะไรที่คุณพ่อคุณแม่ควรกังวล แต่ในกรณีที่ลูกขยี้ตาแรงเกินไปนี่สิ เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตกันหน่อยแล้วค่ะ เพราะอาจเกิดความเสี่ยงในเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

เสี่ยงต่อการติดเชื้อ

การติดเชื้อไม่ได้เกิดจากแค่เชื้อโรคที่มากับมือของเด็กเพียงอย่างเดียว แต่สามารถเกิดได้จากเชื้อโรคที่ผู้ใหญ่นำพามาผ่านการสัมผัสเด็ก การกอด หรือการอุ้มก็ได้เช่นกัน

ทำให้ดวงตาได้รับบาดเจ็บ

เพราะดวงตาของเรามีกระจกตา ซึ่งการขยี้ตาด้วยความรุนแรงอันเนื่องมาจากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา อาจส่งผลให้กระจกตาเป็นรอย หรือถลอก ยิ่งจะส่งผลให้ลูกน้อยเกิดอาการเจ็บตาได้มากขึ้นอีก

ส่งผลต่อสายตาในระยะยาว

การขยี้แรง ๆ จะส่งผลต่อสายตาได้ในระยะยาว เนื่องจากเนื้อเยื่อกระจกตาจะบางลง สายตาจึงแย่ลง เมื่อลูกน้อยโตขึ้นอาจทำให้สายตาสั้นได้

แบบไหนที่ควรกังวล

หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตแล้วการที่ลูกน้อยขยี้ตาด้วยสาเหตุที่ไม่ใช่เรื่องของการง่วงนอน โดยเฉพาะเมื่อลูกมีอายุกว่า 6 เดือน ขึ้นไป เพื่อความสบายใจ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยปรึกษาแพทย์ค่ะ เพราะอย่างน้อยถ้ามีอะไรผิดปกติ ลูกน้อยก็ยังจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง

เรื่องการขยี้ตา ไม่ใช่แค่เรื่องของการง่วงนอนอย่างเดียว และที่สำคัญ ทุก ๆ การขยี้ตาของลูกน้อย สามารถส่งผลต่อกระจกตาของลูกน้อยได้ทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งเริ่มต้นที่สำคัญ คือ คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการของลูกน้อยในทุกครั้งของการขยี้ตา เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP