เลือกของเล่นเสริม EQ ลูกวัย 1-3 ปี

พัฒนาการเด็กและสุขภาพลูกวัย 1-3 ขวบ

การเล่นของเล่น” ของเด็กๆ อาจเป็นเรื่องธรรมดาในสายตาผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กๆ แล้ว การเล่นนั้นถือเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของพวกเขาเลย เพราะนั่นเป็นประสบการณ์ที่สนุกและท้าท้าย ทั้งยังกระตุ้นให้เด็กมีพฤติกรรมรักการเรียนรู้ด้วยตนเองอีกด้วย
การเลือกของเล่นให้เหมาะกับความสามารถของเด็กในแต่ละวัยนั้นก็เป็นปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อการพัฒนาศักยภาพของเด็กเป็นอย่างมาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจจะเห็นแต่ของเล่นพัฒนา IQ ของลูกๆ จึงคิดว่า การพัฒนา IQ นั้นเป็นเรื่องสำคัญกว่า แต่ความจริงแล้ว การพัฒนา EQ ของลูกควบคู่กันไปด้วยนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด

IQ และ EQ ต่างกันอย่างไร

เรื่องแรกที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำความเข้าใจ คือ ความแตกต่างระหว่างไอคิว และอีคิว ซึ่งอธิบายคร่าวๆ ได้ดังนี้

ไอคิว หรือ Intelligence Quotient

หมายถึง ความฉลาดทางเชาวน์ปัญญา การคิด การใช้เหตุผล การคำนวณ การเชื่อมโยง เป็นศักยภาพทางสมองที่ติดตัวมาแต่กำเนิด เปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ยาก และสามารถวัดได้เป็นตัวเลข

อีคิว หรือ Emotional Quotient

หมายถึง ความฉลาดทางอารมณ์เป็นความสามารถในการรับรู้และเข้าใจอารมณ์ทั้งของตัวเองและผู้อื่น ตลอดจนสามารถปรับหรือควบคุมได้อย่างเหมาะสมกับสภาพการณ์ถึงแม้จะเป็นศักยภาพทาง สมองเหมือนกันแต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาให้ดีขึ้นได้ แต่อีคิว ไม่สามารถวัดให้เห็นเป็นตัวเลขได้ แต่ใช้วิธีการประเมินจากความสามารถหลัก 3 ด้าน คือ ดี เก่ง สุข

ดี
– การควบคุมอารมณ์ความต้องการของตัวเอง
– เห็นใจผู้อื่น
– ความรับผิดชอบ

เก่ง
– รู้จักและมีแรงจูงใจในตนเอง
– มีการตัดสินใจแก้ปัญหา
– มีสัมพันธภาพกับผู้อื่น

สุข
– ภูมิใจในตนเอง
– พอใจในชีวิต
– มีความสุขสงบ

ของเล่นเสริม EQ เป็นอย่างไร

ของเล่นเสริมพัฒนาการ เน้นด้าน EQ จะเป็นของเล่นที่เน้นด้านการพัฒนาสมองซีกขวาหรือ อีคิว ซึ่งเป็นส่วนที่เน้นด้านการควบอารมณ์ สมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และการปฎิสัมพันธ์กับผู้อื่น สำหรับของเล่นสำหรับเด็กวัยนี้ เนื่องจากเด็กจะเริ่มนั่ง จนถึงเดิน จะเริ่มตอบโต้กับผู้ใหญ่ได้รู้เรื่อง เข้าใจคำสั่งง่ายๆ และเริ่มขีดเขียน ของเล่นเสริมพัฒนาการ เน้นด้านอีคิวที่มี จะเน้นเรื่องการใช้เครื่องมือง่ายๆ และการสนับสนุนเรื่องจินตนาการขั้นพื้นฐาน

5 ของเล่นเสริม EQ ที่ควรมีติดบ้าน

1.หนังสือนิทานภาพ

ให้ลูกน้อยของคุณเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่น่าสนใจในหนังสือ ที่มีการสอดแทรกความรู้ต่างๆทั้งการสอนนับเลข นิทานแสนสนุก เรียนรู้ภาษา โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยดูแล คอยอ่านหนังสือให้ลูกน้อยฟัง จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก สร้างเสริมทักษะ การฟัง อ่าน เขียน ลับสมองประลองปัญญาได้ดี

2.ดินน้ำมันหรือแป้งโดว์

นับเป็นของเล่นยอดนิยมไม่ว่าจะยุคสมัยไหนซึ่งปัจจุบัน จะนิยมให้เด็กเล่นแป้งโดว์มากกว่า เพราะนอกจากจะมีสีสันที่สดใสแล้ว ยังปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายกับเด็กๆ ด้วยนะคะ และเด็กๆ จะสามารถสรรค์สร้างทุกอย่างได้ตามจินตนาการอย่างไม่สิ้นสุด หรือคุณพ่อคุณแม่ จะร่วมปั้นกับลูกด้วย ก็ทำให้เด็กๆ สนุกมากขึ้นค่ะ

3.เครื่องดนตรีจำลอง

ให้เด็กได้เรียนรู้การรับเสียง เสียงดนตรี เสียงเพลง ช่วยให้หนูๆ เพลิดเพลิน ส่งเสริมจินตนาการ และทำให้เด็กมีสมาธิ นิ่งฟัง และมีอารมณ์ดีขึ้นด้วยค่ะ

4.สมุดวาดภาพ สมุดระบายสี

ช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ ให้ความเพลิดเพลินให้เด็กๆ และทำให้เด็กใจเย็น มีสมาธิ ซึ่งสมุดภาพระบายสีมีให้เลือกมากมายหลายแบบ สีสันสดใส หลายสไตล์ และบางเล่มก็มีเรื่องราวประกอบไปด้วย

5.ตุ๊กตา/หุ่นยนต์

คุณพ่อคุณแม่สามารถนำตุ๊กตาต่างๆ เช่นตุ๊กตามือ ไปเล่าประกอบนิทาน การแสดงบทบาทสมมติกับลูก ช่วยเสริมสร้างความสนุกสนาน ดึงดูดความสนใจและสมาธิของลูกน้อยได้เป็นอย่างดี และเรามักจะเห็นเด็กๆ สวมบทบาทสมมุตติให้ตุ๊กตาหรือหุ่นยนต์ของเขา นั่นคือการส่งเสริมจินตนาการของลูก

เป็นยังไงบ้างคะ กับของเล่นเสริมอีคิวเหล่านี้ เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ซื้อไว้ให้ลูกเล่นกันแล้ว เพียงแต่อาจจะยังไม่ทราบว่า ของเล่นเหล่านี้มีประโยชน์กับเด็กๆ อย่างไร ของเล่นจำพวกนี้จะเน้นความรู้สึก ความคิดสร้างสรรค์ และจินตนาการ เพื่อให้เจ้าหนูทั้งหลายได้โลดแล่นไปในความคิด สมองซีกขวาจะได้ถูกดึงออกมาใช้มากพอกับสมองซีกซ้าย ทำให้หนูน้อยรู้จักควบคุมอารมณ์ความรู้สึก และเข้าสู่สังคมได้ไม่ยาก และนอกจากของเล่นเหล่านี้แล้ว ปัจจุบันยังมีของเล่นอีกหลายชนิด ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อการส่งเสริมอีคิวของเด็กโดยเฉพาะ ให้คุพ่อคุณแม่เลือกซื้อไว้ให้ลูกน้อย รวมไปถึง ของเล่นเสริมไอคิว และพัฒนาการทางร่างกายด้านอื่นๆ ด้วยนะคะ ฉะนั้น อย่าเห็นว่าการเล่นของลูก เป็นเรื่องธรรมดาอีกต่อไป

ที่มา: https://www.gotoknow.org

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP