งานนี้แม่มีเฮ เตรียมหยอดโรต้าฟรี! ปี 63

โรค
JESSIE MUM

ไวรัสโรต้า” เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่คงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว ไวรัสชนิดนี้เป็นเหตุให้เด็กเล็กท้องร่วงต้องบอกว่าเด็กเล็กๆ บางคนยังไม่เคยได้รับวัคซีนเลย แต่อีกไม่นานเกินรอ คุณพ่อคุณแม่เตรียมเฮกันได้เลยค่ะ เพราะรัฐบาลจะมีนโยบายผลักดันให้เด็กไทยได้รับวัคซีนชนิดนี้ ฟรี!เราไปดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะ

สถานการณ์ปัจจุบันของวัคซีนโรต้า

ณ ปัจจุบันวัคซีนโรต้ายังเป็นวัคซีนเสริม นอกเหนือจากวัคซีนพื้นฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้เด็กไทยทุกคนควรได้รับ ตั้งแต่แรกเกิด –12 ปี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งทีผ่านมาคุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกไปรับวัคซีนโรต้ามักจะต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายเอง โดยมีราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 บาท แต่ในปีนี้ (2562) คุณแม่ที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพฯ สามารถนำลูกอายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป เข้ารับการหยอดวัคซีนโรต้า ฟรี! ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขสำนักอนามัยทุกแห่งตลอดปี

จะประกาศให้เป็นวัคซีนพื้นฐานได้เมื่อไหร่

ที่ผ่านมาได้มีหลายหน่วยงานที่พยายามผลักดันให้วัคซีนโรต้าเป็นวัคซีนพื้นฐาน ทั้งนี้ นพ. ทวี โชติพิทยสุนนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ (บอร์ดวัคซีน) ได้กล่าวว่า ขณะนี้วัคซีนโรต้าได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเรียบร้อยแล้ว

ก่อนหน้านี้ มีหลายหน่วยงานที่ร่วมกันทำการทดลองนำร่องการใช้วัคซีนในหลายพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อที่ต้องการศึกษาถึงข้อดี ข้อเสีย และข้อบกพร่องต่างๆ เช่น การขนส่ง กาจัดเก็บวัคซีน รวมไปถึงความรู้และทักษะของผู้ที่ให้วัคซีนนั้นว่าถูกวิธีหรือไม่? เป็นต้น โดยคาดว่า ปี 2563 จะสามารถประกาศให้วัคซีนโรต้าเป็นวัคซีนพื้นฐานของประเทศไทย ซึ่งจะให้เด็กแรกเกิดทุกคนในช่วงอายุตั้งแต่ 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน ทั้งนี้ต้องหยอดให้ครบนะคะ

**อย่างไรก็ตาม วัคซีนโรต้าที่มีแนวโน้มว่าจะประกาศใช้ในปี 2563 คุณแม่ที่มีกำหนดในปีดังกล่าวสามารถนำลูกไปรับวัคซีนกันได้ ฟรี! เฉพาะโรงพยาบาลรัฐในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและศูนย์บริการสาธาณสุขสำนักอนามัย ที่ลูกได้รับสิทธิเท่านั้น แต่ถ้าคุณแม่ไปโรงพยาบาลเอกชนหรือคลินิกจะต้องเสียค่าใช้จ่ายตามปกตินะคะ

วัคซีนโรต้าในปัจจุบันที่ใช้กันอยู่จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ แบบ Rotarixที่หยอด 2 ครั้ง และแบบ Rotateqหยอด 3 ครั้ง แต่มีประสิทธิภาพเหมือนกัน ซึ่งจะเลือกแบบไหนนั้นต้องอยู่ที่เรื่องการแข่งขันของราคาเป็นสำคัญ

รู้จักไวรัสโรต้าให้มากขึ้น

ไวรัสโรต้า เป็นไวรัสที่ทำให้มีไข้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง และเบื่ออาหาร มักจะพบในเด็กเล็กที่อายุระหว่าง 3-24 เดือน หากมีอาการรุนแรงอาจทำให้เด็กขาดน้ำและเกลือแร่ได้
เชื้อโรคนี้สามารถติดต่อผ่านกันได้จากน้ำลายที่เป็นละอองฝอยจากการไอ จาม หรืออาจเล่นของเล่นชิ้นเดียวกับผู้ป่วยแล้วเอามือเข้าปาก

รู้ได้อย่างไรว่าลูกได้รับเชื้อไวรัสโรต้า

เรามีวิธีสังเกตุมาฝากค่ะ

  • มีไข้สูง อาจจะถึง 39 องศาเซลเซียส
  • คลื่นไส้ และอาเจียน 7-8 ครั้ง/วัน (แต่หากได้รับเชื้อที่ไม่รุนแรง สามารถหายได้ภายใน 2-3 วัน)
  • ปวดท้อง ถ่ายเหลว บางครั้งอาจถ่ายเป็นฟองร่วมด้วย
  • บางรายอาจมีอาการไอและน้ำมูกไหลร่วมด้วย

วิธีดูแลลูกในเบื้องต้น

หากลูกน้อยได้รับเชื้อไวรัสโรต้าส่วนใหญ่จะมีอาการท้องร่วง ดังนั้น เพื่อไม่ให้ลูกน้อยมีอาการขาดน้ำ คุณพ่อคุณแม่ต้องทดแทนน้ำที่ร่างกายลูกเสียไป โดยมีรายละเอียดอื่นๆ ดังนี้ค่ะ

  • จิบน้ำเกลือแร่ ครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยๆ
  • หลีกเลี่ยงการให้ยาปฏิชีวนะและยาฆ่าเชื้อ
  • งดน้ำผลไม้และนม แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กที่ยังต้องทานนมแม่อยู่ สามารถทานต่อได้ค่ะ ไม่ต้องหยุด
  • เน้นอาหารเหลว อาหารอ่อน
  • ถ้ามีอาการรุนแรง อาทิ ไข้สูง ถ่ายเป็นมูกเลือด อาเจียน อ่อนเพลียมาก ทานข้าว ทานนมได้น้อย ควรปรึกษาคุณหมอทันทีค่ะ

จากประสบการณ์ตัวเอง ถึงแม้ว่าได้รับการหยอดวัคซีนโรต้าครบแล้ว ลูกก็ยังสามารถได้รับเชื้อนี้ได้อยู่นะคะ เพียงแต่ว่าอาการจะไม่รุนแรงเท่าเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีนค่ะ
สำหรับข่าวดีนี้คุณแม่ที่วางแผนจะคลอดลูกในปี 2563 คงต้องเตรียมเกาะติดสถานการณ์กันไว้ซักนิด เพื่อที่จะได้ไม่เสียสิทธิในการรับวัคซีน ฟรี! ค่ะ แต่เฉพาะในโรงพยาบาลที่ได้แจ้งไว้ข้างต้นนะคะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP