ลูกซีด เรื่องใหญ่! กระทบพัฒนาการด้านการเรียนรู้ ส่งผลต่ออนาคตเด็กได้

พัฒนาการเด็กและสุขภาพลูกวัย 1-3 ขวบ

ภาวะซีด” เป็นภาวะที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนคิดว่ามันคงไม่เกิดกับลูกของเราหรอก แต่แท้ที่จริงแล้วมันเกิดขึ้นง่ายมากจนบางครั้งคุณพ่อคุณแม่อย่างเราก็สังเกตไม่เห็นความปกตินี้จากลูก จนเมื่อได้ไปพบกับคุณหมอและมีการตรวจพบว่า ลูกมีอาการซีดที่บริเวณเปลือกตาล่างและริมฝีปาก ภาวะซีดนี้จะส่งผลกระทบในหลาย ๆ ด้านโดยเฉพาะ “สมอง” ทำให้การเรียนตกต่ำ สาเหตุมาจากลูกไม่ได้รับ “ธาตุเหล็ก” ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย วันนี้เราจะมาเข้าใกล้ความสำคัญของธาตุเหล็กกัน

ประโยชน์ของธาตุเหล็ก

  • ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการอ่อนเพลีย หรือเกิดอาการสับสน
  • ป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
  • มีพัฒนาการทางสมองและมีสติปัญญาดี
  • ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง
  • เสริมสร้างกล้ามเนื้อและภูมิต้านทาน

ภาวะซีด ในเด็กนอกจากจะทำให้เด็กดูอ่อนเพลียและเบื่ออาหารแล้ว ยังมีสิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคือ จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2562 ระบุว่า เด็กที่มีภาวะซีดตั้งแต่ช่วงวัยทารกและยังมีการปล่อยให้เรื้อรัง อาจส่งผลต่อค่า IQ ตกต่ำลงในช่วงวัยเรียนได้ถึง 5-10 จุด นั่นก็เท่ากับว่าการขาดธาตุเหล็กโดยเฉพาะในเด็กนั้นจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านสมองเป็นอย่างมาก

เพราะอะไรเด็กถึงมีความเสี่ยงต่อภาวะการขาดธาตุเหล็ก

เป็นที่รู้กันดีว่า “นมแม่” คือ อาหารแรกของลูกที่ดีที่สุดในโลก แต่เมื่อลูกอายุได้ 6 เดือน สารอาหารในน้ำนมแม่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ดังนั้น “อาหารเสริม” จึงต้องเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมารณรงค์และแนะนำว่า การให้ลูกทานนมแม่นั้นควรให้ครบ 6 เดือนก่อนหลังจากนั้นค่อยเริ่มให้อาหารเสริมคู่กันไป ซึ่งไม่ใช่นำอาหารเสริมเข้ามาแทนที่ เพื่อให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

อาหารมื้อแรกจะเริ่มจากอะไรดี

อาหารมื้อแรกของลูกไม่ใช่ว่าจะกินอะไรก็ได้นะคะคุณแม่ เพราะเด็กในวัย 6 เดือน – 1 ขวบ ร่างกายมีความต้องการธาตุเหล็กมากถึง 9.3 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเพื่อให้เห็นภาพก็เทียบเท่าไข่ไก่มากถึง 12 ฟองต่อวัน แต่กระเพาะของลูกมีขนาดที่เล็กกว่าผู้ใหญ่ถึง 5 เท่า เพราะฉะนั้นอาหารแต่ละมื้อที่ลูกน้อยจะได้กินนั้นคุณแม่ต้องเลือกสรรกันหน่อยแล้วล่ะค่ะ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกน้อยได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก

อาหารที่มีปริมาณธาตุเหล็กสูง ได้แก่ เลือดหมู ตับหมู ตับไก่ น่องไก่ ปลาดุก ดาร์กช็อกโกแลต ถั่วดำ ถั่วลิสง งาดำ งาขาว ผักกูด ถั่วฝักยาว ใบกะเพรา เห็ดหูหนู ต้นหอม ข้าวโอ๊ต เต้าหู้ขาว บรอกโคลี คะน้า ผักโขม ถั่วเหลือง (รวมเต้าหู้ด้วย) และไข่แดง
นอกจากอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กแล้ว คุณแม่ควรให้ลูกน้อยกินอาหารที่มีวิตามินซีสูงควบคู่กันไปด้วยนะคะ เพราะวิตามินซีจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

ผลเสียจากการได้รับธาตุเหล็กมากเกินไป

เพราะทุกสิ่งย่อม 2 ด้านเสมอ ธาตุเหล็กแม้จะมีประโยชน์มากแต่หากร่างกายได้รับในปริมาณที่มากเกินไปก็เกิดโทษได้เช่นกัน

  • เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะเยื่อบุทางเดินอาหาร ไปจนถึงอาจทำให้มีเลือดออกในระบบทางเดินอาหารได้ อาทิ กระเพราะหรือลำไส้
  • ส่งผลต่อการกดภูมิต้านทานโรค หรืออาจทำให้ร่างกายติดเชื้อได้ง่าย
  • ส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของไขกระดูก ตับ ไต ปอด หัวใจ และสมอง
  • ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • ร่างกายเขียวคล้ำ และอาจทำให้เกิดอาการตับวาย ไตวาย ชัก โคม่า และถึงขั้นเสียชีวิตได้

ภาวะซีดหรือการที่ลูกขาดธาตุเหล็กแม้ว่าคุณแม่อาจไม่สามารถสังเกตเห็นได้จากร่างกายเหมือนคุณหมอ แต่คุณแม่ก็สามารถประเมินได้จากอาหารที่ให้ลูกกินในแต่ละมื้อ แต่ละวันได้ เพราะฉะนั้นอาหารเสริมของเด็กเล็กจึงเป็นเรื่องสำคัญควรให้ลูกกินในปริมาณที่พอดีซึ่งเชื่อเลยค่ะว่าลูกคงไม่กินทุกอย่างที่แม่จัดให้ เป็นอีกด่านที่ท้าทายคุณแม่พอสมควร เป็นกำลังใจให้นะคะ

อ้างอิง
Honestdocs.co
กรมสุขภาพจิต
tmwa
unicef.org

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP