6 เทคนิค แก้ปัญหาลูกติดหน้าจอ

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ
JESSIE MUM

ยุคนี้อะไร ๆ ก็ออนไลน์ เพราะเรียกได้ว่าเป็น “ยุคดิจิทัล” เด็กที่เกิดในยุคนี้จึงเป็นเด็กในยุคดิจิทัลด้วยเช่นกัน ครั้งจะไม่ให้เด็กรู้จักกับหน้าจอเลยก็คงเป็นการรังแกเด็กไม่ให้เด็กได้ตามทันสิ่งต่าง ๆ ที่วัยเขาควรจะได้เรียนรู้ แต่เป็นที่รู้กันดีว่า อะไรที่น้อยไปก็ไม่ดี มากไปก็ไม่ดีเช่นกัน เชื่อว่าประเด็นนี้เป็นปัญหาหนักใจอยู่ไม่น้อย แต่วันนี้โน้ตมีวิธีการควบคุมไม่ให้ลูกต้องอยู่กับหน้าจอมากเกินไปมาฝากค่ะ

ไม่ปล่อยให้ลูกเล่นมือถือคนเดียว

หน้าจอไม่ว่าจะเป็นมือถือ หรือแทปเลต สามารถให้ลูกเล่นได้ค่ะ แต่คุณพ่อคุณแม่ควรเล่นไปกับลูก พร้อมกับให้สังเกตว่าสิ่งที่ลูกเล่นนั้นถูกต้องหรือมีความเหมาะสมหรือไม่เพียงใด หากเห็นว่าไม่เหมาะสม ให้อธิบายสอนลูกทันทีค่ะ เพราะเด็กยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนถูกต้องหรือสิ่งที่ไหนผิด ไม่ควรทำ เพื่อเป็นการป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบในอนาคตค่ะ

หากิจกรรมอื่นทำ

การชักชวนลูกให้ทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการนั่งนิ่ง ๆ หน้าจอเป็นอะไรที่ดีมากอีกทางหนึ่ง ให้คุณพ่อคุณแม่ลองเทียบเคียงดูก็ได้ค่ะในการคิดกิจกรรม ดูว่าลูกชอบเล่นเกมประเภทไหน ให้จัดกิจกรรมที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ลูกเล่นก็ได้ค่ะ อย่างน้อยก็ยังได้ใช้เวลาไปกับกิจกรรมในโลกแห่งความเป็นจริง

กำหนดเวลาไม่ให้เกิน 1-2 ชั่วโมงต่อวัน

คุณพ่อคุณแม่ต้องวางแผนแบ่งเวลาให้ดี ว่าจะให้ลูกเล่นหน้าจอในช่วงใดบ้าง คำนวณเวลาแล้วไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับวันธรรมดา ส่วนถ้าวันหยุดอาจให้เพิ่มเป็นไม่เกิน 2 ชั่วโมงก็ได้ค่ะ

ให้เล่นได้แต่ไม่ใช่เป็นเจ้าของ

เพราะหากคุณพ่อคุณแม่ปล่อยให้ลูกเล่นมือหรือแทปเลตจนลูกเกิดความเข้าใจว่าสิ่งนั้น ๆ คือของของเขา เขาจะโมโหมากเวลาที่ไม่ให้เขาเล่น คราวนี้คุณพ่อคุณแม่จะควบคุมลูกได้ยากขึ้นค่ะ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจอธิบายให้ลูกเข้าใจเลยก็ได้ค่ะว่า มือถือหรือแทปเลตนี้เป็นของคุณพ่อคุณแม่ แต่คุณพ่อคุณแม่ให้หนูเล่นชั่วคราวเท่านั้น

พ่อแม่เป็นต้นแบบที่ดี

เข้าใจค่ะว่า คุณพ่อคุณแม่อาจมีงานที่ต้องทำ ต้องดูผ่านมือถือ หรือแทปเลต แต่ถ้าหากตรวจเช็คงานเสร็จแล้ว ให้ปิดแล้ววางมือถือทันที หรืออาจจะอธิบายให้ลูกฟังไปด้วยก็ได้ค่ะว่าที่คุณพ่อคุณแม่ต้องดูมือถือหรือแทปเลตนั้นเพราะต้องเช็คงาน เป็นต้น เพื่อให้ลูกได้รับรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เล่นมือถือ

พ่อแม่ต้องไม่ใจอ่อน

เพราะก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะให้ลูกเล่นหน้าจอ ควรกำหนดกฎ กติกา ให้ลูกรับรู้และเข้าใจก่อน ที่สำคัญ ต้องรักษากฎให้ได้ กฎต้องเป็นกฎค่ะ อย่าใจอ่อน ความยืดหยุ่นสามารถใช้ได้กับบางอย่างเท่านั้น^^ หรือก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะให้ลูกเลิกเล่นมือถือ อาจแจ้งลูกล่วงหน้าก่อนก็ได้ค่ะว่า “เหลือเวลาอีก 10 นาทีนะคะ” เป็นต้น

บอกลูกถึงข้อดี-ข้อเสียของการติดหน้าจอ

บางวันบางเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ว่าง ๆ บรรยากาศดี ๆ ให้หาจังหวะอธิบายกับลูกให้ลูกได้รู้ว่าข้อดีของการเล่นเกมหรือการอยู่กับหน้าจอนั้นมีอะไรบ้าง และข้อเสียของการอยู่หน้าจอมีอะไรบ้าง เพื่อให้ลูกได้รับรู้ข้อมูลทั้งสองด้าน

ให้เวลาคุณภาพกับลูก

ข้อนี้คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจบอกว่าต้องทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ จะเอาเวลาที่ไหนให้ลูก การมีเวลาคุณภาพไม่ได้หมายความว่าต้องมีเวลาให้ลูกหลาย ๆ ชั่วโมงหรือต้องอยู่กับลูกทั้งวัน แต่การ “ให้เวลาคุณภาพ” กับลูก คือ การที่คุณพ่อคุณแม่มีเวลาเล่นหรือพูดคุยกับลูกอย่างเต็มที่โดยที่ไม่มีหน้าจอเข้ามาเกี่ยวข้องเลยเป็นเวลา 15-20 นาที เท่านั้น หรือจะเป็นเวลาก่อนเข้านอน ได้อ่านหนังสือนิทานหรือได้พูดคุยกับลูก เท่านี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ

แต่…จากทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา การสอนลูกคงไม่ใช่การพูดครั้งเดียวแล้วลูกจะเข้าใจหรือทำตาม ต้องอาศัยระยะเวลา และการพูดซ้ำ ๆ ทำย้ำ ๆ ให้ลูกได้เห็น โดยเฉพาะการเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูก จะเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลกับลูกได้มากที่สุดค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP