รับมือกับลูกที่ร้องไห้ไม่หยุดให้อยู่หมัด

การเลี้ยงลูกวัยแรกเกิด-1 ขวบ

เด็กๆ กับการร้องไห้ถือเป็นเรื่องปกติแต่ถ้าเขาเกิดร้องไห้หนักหรือนานเกินกว่าปกติล่ะคุณพ่อคุณแม่จะรับมืออย่างไรดีเพราะถ้าจะปล่อยให้ร้องกันทั้งวันทั้งคืนนอกจากลูกอาจจะต้องการบอกอะไรบางอย่างแต่คุณพ่อคุณแม่เดาไม่ถูกแล้วนั้นอาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่และคนในบ้านที่ได้ยินเกิดอาการหัวเสียกับเสียงร้องไห้ของเขาได้

ก่อนจะแก้ไขอะไรได้เราก็น่าจะต้องมารู้ถึงสาเหตุกันก่อนว่าสาเหตุที่เด็กๆ เขาร้องไห้กันมันมีอะไรบ้าง เขาต้องการจะสื่อสารอะไรกับคุณหรือไม่ แล้วถ้ารู้สาเหตุกันแล้วจะมีวิธีรับมือและแก้ไขอย่างไรมาติดตามกันได้เลย

สาเหตุการร้องไห้ของลูกน้อย

หิวนม

นี่คือสิ่งพื้นฐานที่สุดที่เด็กๆ จะร้องไห้เพราะหิวนม บางทีคุณอาจจะหลงลืมไปว่าเด็กนั้นมีกระเพาะที่เล็กกว่าพวกเรามากกินนิดเดียวก็อิ่มและอีกสักครู่เดียวก็หิวจึงไม่แปลกถ้าเขาจะร้องไห้เพราะหิวนมบ่อยๆ

เหนื่อย

เพลีย หลายๆ คนอาจสงสัยว่าเด็กจะเหนื่อยและเพลียกันเป็นด้วยหรือ คำตอบคือเด็กๆ ก็สามารถเหนื่อยและเพลียกันได้ และอาจจะร้องไห้ขึ้นมาเพียงเพื่อต้องการให้คุณรู้ว่าควรพาเขาไปนอนได้แล้วนั่นเอง

ไม่สบายตัว

เมื่อลูกร้องคุณอาจจะต้องตรวจสอบสิ่งรอบข้างให้ดีทั้งอากาศ ที่นอน ผ้าห่ม เสื้อผ้า และสิ่งต่างๆ ว่ามันดูมีอะไรที่ทำให้ลูกดูไม่สบายตัวหรือไม่

อยากให้อุ้ม

เด็กๆ ในบางเวลาเขาก็มีความต้องการการสัมผัสจากคุณพ่อคุณแม่หากเขาร้องแล้วก็ลองอุ้มเขาสักนิดอาจจะช่วยให้พายุสงบลงได้ เพราะเขาเพียงอยากได้ความสงบทางใจเท่านั้นเอง

กลัว

การร้องไห้ของเขาอาจเกิดขึ้นจากความกลัวได้ เช่น การมีคนแปลกหน้ามาอุ้ม การมีเสียงดังเกิดขึ้นกะทันหัน สิ่งเหล่านี้คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องคอยอยู่ใกล้ๆ เพียงให้เขามีความรู้สึกอบอุ่นใจนั่นเอง

อาการป่วย

สาเหตุนี้อาจจะเป็นเรื่องยากที่คุณพ่อคุณแม่จะเดาได้ถูกว่าลูกเป็นอะไรแต่ถ้าลองเช็คดูจากรายการข้างบนแล้วก็ดูยังไม่เข้าข่ายคุณอาจจะต้องหันมาสังเกตการขับถ่ายของลูกว่าเขาอาจจะมีอาการท้องอืด ตัวร้อนเป็นไข้ มีแผลที่ไหนหรือไม่ โดนยุงกัดหรือเปล่า แต่อย่างไรก็ตามถ้าลูกยังร้องไห้หยุดแล้วมีเสียงที่ดูแผดดังกว่าปกติก็ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อให้ตรวจอย่างละเอียดจะดีกว่า

วิธีรับมือกับอาการร้องไห้ไม่หยุดของลูกให้อยู่หมัด

เมื่อได้ลองเช็คตามสถานการณ์ต่างๆ แล้วอาจจะมีเทคนิคต่างๆ เหล่านี้เสริมช่วยอีกเพื่อที่อาจจะตรงจุดและสามารถทำให้ลูกของคุณหยุดร้องได้อย่างง่ายดายก็เป็นได้

  1. กล่อมด้วยการอุ้มแล้วเริ่มโยกไปมา การอุ้มแล้วโยกเบาๆ หรืออุ้มไว้ในอ้อมกอดแล้วนั่งบนเก้าอี้โยก หรือแม้แต่การเอาเด็กทารกไปไว้ในแปลแล้วแกว่งไปมา สิ่งเหล่านี้อาจจะมีส่วนช่วยให้เด็กๆ ค่อยๆ สงบลงจากการร้องไห้ได้วิธีหนึ่ง
  2. เปิดเพลง White Noise คือ โทนเสียงที่ราบเรียบ สม่ำเสมอ อย่างเช่น ไดร์เป่าผม เครื่องซักผ้า พัดลม เสียงฝน เพราะว่าตอนอยู่ในท้องเด็กจะคุ้นเคยกับเสียงการเต้นของหัวใจคุณแม่ เมื่อเขาคลอดออกมาแล้วร้องไห้ไม่หยุดลองเอาเสียงโทนนี้ไปเปิดไว้ให้เขาได้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นจากแอพลิเคชั่นหรือจาก CD ก็ได้เพื่อที่จะเอาไว้กล่อมให้เขาค่อยๆ เคลิ้มหลับไปนั่นเอง
  3. ลองเปลี่ยนท่าให้นม เมื่อเด็กยังกินนมไม่พอหรืออิ่มเขาก็อาจจะร้องไห้ออกมาได้หรือแม้แต่ขณะที่กินอยู่แต่รู้สึกไม่ถนัดด้วยเช่นกัน ดังนั้นคุณแม่ควรลองปรับท่านั่งท่านอนของเขาให้เข้าที่จนกว่าเขาจะหยุดร้องนั่นอาจจะเป็นคำตอบของเสียงร้องไห้ของลูกก็เป็นได้
  4. ดึงความสนใจ อาจจะพาเขาออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ้างเพื่อให้เขาหันไปสนใจอย่างอื่นแทนการร้องไห้ หรือถ้าไม่สะดวกออกไปก็อาจจะร้องเพลงหรือหาของเล่นที่เขย่าแล้วมีเสียงมาเล่นกับเขาเพื่อให้เขาหันมาสนใจสิ่งต่างๆ เหล่านั้นเท่านั่นเอง
  5. ร้องเพลง แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะยังไม่ค่อยมั่นใจกับเสียงร้องเพลงของตัวเองมากเท่าไรนักแต่ด้วยสปริตความเป็นคุณพ่อคุณแม่แล้วลองหายใจลึกๆ ร้องเพลงน่ารักๆ สดใสๆ สักเพลงให้ลูกฟัง แล้วใจเย็นๆ ค่อยๆ ลองเปลี่ยนเพลง เปลี่ยนทำนองจังหวะไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะดูสนใจ หรือถ้าการร้องเพลงมันยังอาจจะคิดไม่ทันโดยทันทีอาจจะหันไปพึ่ง Playlist ที่จัดเอาไว้แล้วในมือถือหรือคอมพิวเตอร์ของคุณมาช่วยในส่วนนี้ก็ได้เช่นกัน

วิธีรับมือกับการร้องไห้ของลูกน้อยนั้นไม่ได้มีจุดเริ่มต้นมาจากความรำคาญแต่เป็นเพราะคุณพ่อคุณแม่ควรที่จะใส่ใจกับการร้องไห้งอแงของเขาทุกๆ ครั้งเนื่องจากยังเป็นวัยที่ยังไม่สามารถพูดจาสื่อสารอะไรกับคุณได้ การร้องไห้ออกมาเป็นสิ่งเดียวที่เขารู้จักและทำได้เพื่อที่จะทำให้คุณหันมาสนใจและช่วยเหลือเขาในสิ่งที่เขาต้องการได้นั่นเอง

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP