“เด็กดื้อ” หรือ “ตัวแสบประจำบ้าน” หากบ้านไหนที่มีเด็กแบบนี้อยู่อาจจะเหนื่อยกันหน่อย และเวลาที่จะสอนเด็กในวัยนี้ ห้ามพูดคำว่า “ไม่” หรือ “อย่า” เด็ดขาด เพราะพูดปุ๊บเค้าจะทำปั๊บ แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่สิจะหาคำไหนมาแทนที่ล่ะ เพราะเวลาที่ลูกจะซน แป๊บๆ ก็เปลี่ยนไปซนที่อื่นละ สรุปคือหาคำพูดไม่ทัน 555
หรือจะมองอีกมุมหนึ่ง “การที่เด็กดื้อ” ถือเป็นธรรมชาติการเรียนรู้ของเค้าอย่างนึงนะคะ เพราะเค้าจะรู้สึกว่ายังมีอีกหลายสิ่งในโลกนี้ที่เค้ายังไม่รู้แล้วก็อยากจะรู้ อยากจะลอง เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ห้ามมีน้ำหนักน้อยกว่าความอยากรู้
แต่…คุณพ่อคุณแม่ทราบมั้ยคะว่า ข้อดีของการที่มีลูกดื้อรั้นส่วนมากเมื่อเด็กเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ เค้าจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าเพื่อน เอ…ยังงัยเอ่ย? ถ้านึกไม่ออก ไปดูกันเลยค่ะ
สารบัญ
- ข้อดีของ ลูกดื้อ
- ลูกที่ดื้อ จะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และไม่ต้องการอะไร
- ลูกที่ดื้อ จะเด็ดขาดมากกว่าคนอื่น
- ลูกที่ดื้อ จะมีแนวทางเฉพาะที่ตัวเองเป็นผู้สร้างขึ้น
- ลูกที่ดื้อ ไม่ได้เป็นคนใจแคบนะคะ เพียงแต่เค้ามีจิตใจที่เข้มแข็งในแบบฉบับของเค้าเอง
- ลูกที่ดื้อ จะมีความพยายามสูงมาก
- ลูกที่ดื้อ จะเป็นเด็กที่มีความคิดนอกกรอบ
- ลูกที่ดื้อ จะทนต่อแรงกดดันได้ดี
- ลูกที่ดื้อ ต้องการคนที่ชี้นำได้
ข้อดีของ ลูกดื้อ
ลูกที่ดื้อ จะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และไม่ต้องการอะไร
การที่เด็กคนนึงจะดื้อรั้น ไม่เอนเอียงไปตามความคิดเห็นของคนอื่นได้ง่าย ๆ ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะเอาเป็นตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลหรอกนะคะ เพียงแต่คนเหล่านี้จะรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เค้าต้องการมากกว่า และไม่ต้องการให้มีอะไรหรือความคิดของใครมาเปลี่ยนแปลงเค้าได้ง่าย ๆ
ลูกที่ดื้อ จะเด็ดขาดมากกว่าคนอื่น
เมื่อเด็กดื้อรู้ว่าตนเองต้องการอะไรแล้ว เค้าจะมีจุดมุ่งหมายที่แน่วแน่มาก เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีอะไรมาทำให้เค้าวอกแวกได้เลย
จนบางครั้ง กลุ่มคนที่อยู่ตรงข้ามกับเด็กรั้นอาจจะรู้สึกว่าตัวเองถูกเอาเปรียบจากการที่เหมือนถูกบังคับให้ทำตามของกลุ่มเด็กรั้นนั้น แต่ถ้ามองดูดี ๆ แล้วมันไม่ใช่ข้อเสียของเด็กที่ดื้อรั้นหรอก มันกลับเป็นข้อเสียของอีกฝ่ายมากกว่าหรือเปล่า ที่ไม่หนักแน่นในความคิดของตัวเองมากพอ หรือถ้าจะมองว่าเด็กดื้อกลุ่มนี้เป็นคนที่ชอบควบคุมคนอื่นหรือเปล่า ก็ไม่น่าจะใช่อีกเหมือนกัน เพราะอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ว่าเป็นเพราะว่าเด็กดื้อกลุ่มนี้เค้าจะเป็นคนเลือกเองว่าจะเป็นผู้ถูกควบคุมหรือเป็นผู้คุม
ลูกที่ดื้อ จะมีแนวทางเฉพาะที่ตัวเองเป็นผู้สร้างขึ้น
เพราะความที่เป็นเด็กดื้อ อยากรู้ อยากลอง ตามแนวความคิดของตัวเองจึงทำให้เด็กกลุ่มนี้มักมีแนวทางทางความคิดเป็นของตัวเองสูงทีเดียว เพราะเค้าจะรู้ว่าเค้าอยากเป็นอะไร หรืออยากทำอะไร โดยที่ไม่ได้ใส่ใจกับความคิดของคนภายนอก แม้ว่าเค้าเหล่านั้นจะมองว่าสิ่งที่จะทำนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ หรือยากเกินกว่าที่จะทำให้สำเร็จได้ เด็กดื้อกลุ่มนี้จะมีความทะเยอทะยานสูงที่ต้องการพิสูจน์ว่าเค้าและทางที่เค้าเลือกนี่แหละ คือทางที่จะพาเค้าไปสู่ความสำเร็จได้ตามที่เค้าวาดหวังไว้ และไม่ยอมให้ตัวเองตกอยู่ภายใต้อิทธิพลทางความคิดของใครทั้งสิ้น
ลูกที่ดื้อ ไม่ได้เป็นคนใจแคบนะคะ เพียงแต่เค้ามีจิตใจที่เข้มแข็งในแบบฉบับของเค้าเอง
ลองค้นหาคำว่า “เด็กดื้อ” หรือ “ลูกดื้อ” ในกูเกิลดู เราจะพบแต่คำว่า วิธีปราบเด็กดื้อ ลูกดื้อทำอย่างไรดี ลูกดื้อเพราะอะไร ลูกดื้อเอาแต่ใจ ฯลฯ เราอาจมองว่าการที่เด็กดื้อ เอาแต่ใจนั้น แสดงว่าเค้าต้องเป็นเด็กที่ใจแคบแน่เลย ไม่ฟังใคร จะเอาแต่ของตัวเอง
แต่ความเป็นจริง…ถึงแม้จะเป็นเด็กดื้อ เค้าก็ฟังนะคะ เพียงแต่บางอย่าง อย่างที่บอกว่าเค้าเลือกที่จะไม่โอนเอนตามสิ่งที่เค้าได้ฟังมามากกว่า เค้าก็จะยังคงหนักแน่นในความเชื่อของเค้า
ลูกที่ดื้อ จะมีความพยายามสูงมาก
เพราะเด็กดื้อจะแน่วแน่ในความคิดของตัวเองเป็นอย่างมาก จึงส่งผลให้เค้ามีความพยายามสูงมากเช่นกัน และมากกว่าคนอื่น ๆ เค้าจะไม่ล้มเลิกความคิดหรือความตั้งใจง่ายๆ เค้าจะต้องไปให้ถึงเส้นชัยให้ได้ในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องงาน เรื่องเรียน หรือแม้แต่เรื่องความรัก เรียกว่าสำหรับเด็กดื้อนี้ ไม่มีคำว่า “ยอมแพ้” ในพจนานุกรมของเค้าค่ะ
ลูกที่ดื้อ จะเป็นเด็กที่มีความคิดนอกกรอบ
เพราะเขามีความคิดเป็นของตัวเอง รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ในด้านอื่น ๆ ด้วย เขาตั้งคำถามเอง ก็อยากจะพิสูจน์และหาคำตอบให้รู้ได้ด้วยตัวเอง จึงกลายเป็นดูไม่ค่อยเชื่อฟัง และที่สำคัญ คือ เขามีความกล้าที่จะทำในสิ่งที่คนอื่นไม่เคยทำและไม่กล้าทำ เด็กเหล่านี้เมื่อเจอปัญหาเขาจะพยายามหาทางแก้ไขปัญหานั้นด้วยตัวเอง แม้ว่าจะมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ตรงนั้นด้วยก็ตาม

บางครั้งด้วยความที่ผู้ใหญ่จะยึดติดกับคำว่า “อาบน้ำร้อนมาก่อน” จึงทำให้ทักษะด้านการเรียนรู้ของลูกไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร ดังนั้น เราควรวางคำว่าอาบน้ำร้อนมาก่อนลงซักพัก ยกเว้น! ย้ำนะคะ ยกเว้นว่าสิ่งที่ลูกจะทำนั้นต้องปลอดภัยนะคะ ถึงทำได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณพ่อคุณแม่แล้วล่ะค่ะ
ลูกที่ดื้อ จะทนต่อแรงกดดันได้ดี
เพราะความดื้อ ความซน ความอยากรู้ อยากลองนี่แหละค่ะที่ทำให้เด็กต้องอดทนต่อคำดุด่า ข้อห้ามต่าง ๆ ของผู้ใหญ่ ดังนั้น เมื่อเด็กโตขึ้นเขาจะสามารถทนต่อแรงกดดันได้ดี ซึ่งจะต่างจากเด็กคนอื่น ๆ ทั่วไป ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าเมื่อเจอกับแรงกดดันนิดหน่อยอาจทำให้ถอยได้
ลูกที่ดื้อ ต้องการคนที่ชี้นำได้
ด้วยความที่ลูกเป็นเด็กที่คิดนอกกรอบ จนบางครั้งบางพฤติกรรมอาจเกินที่คุณพ่อคุณแม่จะรับได้ หรืออาจไปผิดทาง คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมลูก หากออกนอกลู่นอกทางเยอะก็ควรชี้แนะทางที่ถูกต้องให้ เพราะการปล่อยให้ลูกได้ทำอะไร ๆ เองจนกลายเป็นปล่อยปะละเลยก็จะยิ่งทำให้คุณค่าและข้อดีของการเป็นเด็กดื้อนั้นผิดเพี้ยน
การมีลูกดื้อถือเป็นข้อดีที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำข้อดีต่าง ๆ ที่กล่าวมานั้น นำมาสอนลูก ต่อยอดให้ลูกได้ ทั้งนี้ การสอนลูก การตอบสนองลูกในทางบวกเป็นสิ่งสำคัญ การ “มีลูกดื้อ ปราบได้ โดยไม่ต้องถือไม้เรียว” จึงเป็นอีกทางออกหนึ่งของการตอบสนองลูกในทางบวกค่ะ และเมื่อลูกโตขึ้นเขาก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และมีความสุขในการใช้ชีวิตค่ะ