การ์ตูนก็มีประโยชน์กับลูกได้

การเลี้ยงลูกวัย 1-3 ขวบ

การ์ตูนอาจจะเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่บางคนกลัวลูกจะติดจนไม่ยอมกินไม่ยอมนอนและบางครั้งอาจจะกลัวว่าการ์ตูนบางเรื่องนั้นจะมีเนื้อหาที่ทำให้ลูกกลายเป็นเด็กก้าวร้าว

แต่แน่นอนว่าทุกอย่างมักมีสองด้านเสมอ กับการ์ตูนเองก็เช่นกันอาจจะมีข้อเสียอยู่บ้างแต่ก็ยังมีข้อดีอยู่มากเลยทีเดียวเพียงแค่คุณพ่อคุณแม่เปิดใจและเลือกการ์ตูนที่มีเนื้อหาที่เหมาะสมให้กับลูกเพียงเท่านี้ก็จะทำให้การ์ตูนเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงคอยส่งเสริมทักษะและพัฒนาการให้กับลูกของคุณได้

ทักษะด้านภาษา

การที่เด็กๆ ชื่นชอบในการ์ตูนเรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้นอาจจะทำให้เขากลับไปอ่านไปดูการ์ตูนเหล่านั้นซ้ำแล้วซ้ำแล้ว ถ้าคุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนได้ลองย้อนไปเมื่อตอนเด็กพวกคุณก็น่าจะเคยเป็นกันบ้าง ยิ่งชอบมากก็ยิ่งอยากดูแล้วดูอีกนั่นคือนิสัยของเด็กๆ นั่นเอง

ดังนั้นสิ่งเหล่านี้นี่แหละที่จะช่วยเสริมทักษะในด้านภาษาให้กับลูกได้โดยที่อาจจะไม่รู้ตัว และเมื่อเขาชอบแล้วเขาจะเกิดความอยากเรียนรู้ อยากรู้ว่าคำนี้หมายถึงอะไร การกระทำแบบนี้ทำอย่างไร และสิ่งต่างๆ ก็ดูน่าสนใจใคร่รู้ไปซะหมดถือว่าเป็นสัญญาณแห่งการเรียนรู้ที่ดีเลยทีเดียว

พัฒนาการด้านสังคมและอารมณ์

หลายๆ ครั้งที่ลูกๆ นั่งดูการ์ตูนคุณพ่อคุณแม่ก็มักจะนั่งอยู่แถวนั้นเพื่อคอยดูแลเขาไปด้วย เด็กๆ มักจะชอบหันมาถามในสิ่งที่สงสัยเสมอ ในส่วนนี้แหละที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำมาปรับใช้เพื่อสอนในสิ่งที่ถูกต้องให้กับลูกๆ ได้

และยังถือเป็นการพัฒนาสังคมในครอบครัวให้ดีขึ้นด้วยเพราะทั้งคุณและลูกได้ผลัดกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการ์ตูนและเมื่อคุณพาเขาเรียนรู้ไปอย่างถูกต้องก็ย่อมส่งผลไปถึงอารมณ์ของเขาให้ดีและมีความสุขไปกับสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยนั่นเอง

บางครั้งคุณอาจจะเป็นฝ่ายถามก่อนเพื่อกระตุ้นให้ลูกได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นและเริ่มรู้จักคิดวิเคราะห์เพื่อที่จะตอบคำถามต่างๆ ของคุณนั่นเอง

การ์ตูนที่แนะนำสำหรับเด็กๆ

หลักๆ เลยคุณพ่อคุณแม่สามารถที่จะใช้อินเทอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์เพราะเพียงแค่คุณพิมพ์ค้นหาคุณก็จะพบกับการ์ตูนที่จะช่วยเสริมทักษะและพัฒนาการของลูกน้อยได้มากมาย

แต่ลูกๆ อาจจะยังไม่ถูกใจสิ่งเหล่านั้นเท่าไรนัก วันนี้เราเลยจะขอแนะนำการ์ตูนที่ทั้งเสริมทักษะพัฒนาการรวมทั้งยังเป็นขวัญใจของเด็กๆ ส่วนใหญ่อีกด้วย

1.Peppa Pig

เป็นการ์ตูนที่ใช้เจ้าหมูน้อย Peppa มาเป็นตัวดำเนินเรื่อง โดยพื้นฐานของเรื่องนั้นเจ้า Peppa นั้นมีครอบครัวที่แสนอบอุ่น ที่มีทั้งน้องชาย พ่อแม่ และยังมีเพื่อนๆ เป็นสัตว์นานาชนิดอยู่รายล้อมอีกด้วย
โดยตัวละครทุกตัวในเรื่องจะคอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาสร้างสีสันและพาพวกคุณไปผจญภัยในที่ต่างๆ มากมาย และแน่นอนว่าต้นฉบับจะเป็นเสียงภาษาอังกฤษแน่นอนเลยว่ามันจะเป็นผลดีกับทักษะในด้านภาษาของลูกได้อย่างแน่นอน

2.Pingu

การ์ตูนที่ตัวละครสร้างมาจากดินน้ำมัน เป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นเกี่ยวกับการผจญภัยที่ขั้วโลกใต้ของเหล่าเจ้าเพนกวิน
นอกจากความสนุกที่เป็นพื้นฐานของการ์ตูนแล้วนั้นการดูการ์ตูนเรื่องนี้ยังช่วยเปิดโลกให้เด็กๆ ได้เริ่มเก็บความรู้รอบตัวไปในตัวอีกด้วย เพราะการ์ตูนเรื่องนี้จะทำให้คุณได้เห็นถึงการใช้ชีวิตของเหล่าเพนกกวินในขั้วโลกใต้อีกด้วย

3.Sesame Street

ขึ้นชื่อเลยว่าเป็นการ์ตูนสอนภาษาอังกฤษสุดแสนจะน่ารักแล้วก็มีมานานพอสมควรแล้วด้วยกับ Sesame Street ที่ใช้ตัวละครหุ่นเชิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวหลากหลายตัวมาเป็นตัวดำเนินเรื่อง อย่างตัวหลักๆ ที่ทุกคนรู้จักกันก็คือ Big Bird นกยักษ์สีเหลือง, Cookie monster สัตว์ประหลาดสีน้ำเงินที่ชอบกินคุกกี้, Elmo ที่มาพร้อมกับขนปุกปุยสีแดง เป็นต้น
การ์ตูนเรื่องนี้เหมาะมากกับเด็กวัยก่อนเข้าชั้นอนุบาลเพราะมีการวิจัยเนื้อหามาเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่ามีความเหมาะสมและยังมีการปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะกับเด็กๆ อยู่เสมออีกด้วย โดยเนื้อหาก็จะหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ ทั้งในเรื่องของ ตัวเลข, ตัวอักษร, ส่วนต่างๆ ของรายการ และยังมีการสอดแทรกในส่วนของการสร้างเสริมอุปนิสัยที่ดีให้กับเด็กๆ อีกด้วย

แม้ว่าการ์ตูนจะเป็นสิ่งที่มีข้อดีอยู่มากมายแต่การดูการ์ตูนจากจอโทรศัพท์ โทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์มากๆ นั้นก็ย่อมส่งผลต่อสายตาของลูกได้ เพราะดวงตาของลูกนั้นยังบอบบางอยู่มาก
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรมีการจัดสรรเวลาในการดูการ์ตูนของลูกให้เหมาะสม และนอกจากนั้นก็ควรพาไปส่งเสริมทักษะด้วยกิจกรรมต่างๆ ให้ลูกได้พัฒนาทั้งด้านร่างกายและระบบประสาทไปพร้อมๆ กันซึ่งจะถือว่าเป็นการช่วยให้ลูกพัฒนาในด้านต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP