ใช้คำว่า “ไม่” กับลูกอย่างไรให้สร้างสรรค์ ไม่กระทบต่อพัฒนาการด้านการเรียนรู้ของลูก

การเลี้ยงลูกวัย 1-3 ขวบ

เมื่อลูกเริ่มสู่วัยหัดเดิน หัดพูด (2-3 ขวบ) เด็กบางคนเริ่มต่อรองเป็นแล้วนะคะ เหล่านี้อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องเหนื่อยหน่อย เหนื่อยที่ต้องคอยห้ามไม่ให้ทำโน่น ทำนี่อันเกิดจากความไม่รู้ของลูก ซึ่งการพูดคำว่า “ไม่” จะเป็นการทำร้ายจิตใจลูก ทำให้ลูกรู้สึกว่าถูกตีกรอบ ลูกจะไม่กล้าลุกขึ้นมาทำอะไร ส่งผลต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ของลูกอีกด้วยค่ะ แต่จะพูดอย่างไรที่สามารถแทนคำว่า “ไม่” ได้ และไม่กระทบต่อพัฒนาการด้านการเรียนรู้ของลูก

พูดคำว่า “ไม่” ให้สร้างสรรค์

ทุกอย่าง “yes” หมด ทำได้หมด

ขอยกตัวอย่างที่น่าจะเห็นได้ชัดนะคะ เช่น ใกล้เวลากินข้าวแล้ว แต่ลูกขอออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน ให้คุณพ่อคุณแม่ตอบลูกไปได้เลยค่ะว่า…

“ได้ค่ะ แต่ต้องหลังกินข้าวซัก 45 นาทีนะคะ ให้เข็มยาวถึงเลข 9 ก่อน เพราะเพิ่งกินข้าวเสร็จใหม่ ไปวิ่งเลย เดี๋ยวหนูปวดท้องนะคะ”

แบบนี้ก็จะทำให้ลูกไม่รู้สึกว่าถูกปฏิเสธแล้วล่ะค่ะ

บอกความรู้สึกของเราให้ลูกฟัง

สมมติว่าลูกกำลังทุบโต๊ะ ทำให้เกิดเสียงดังและสร้างความรำคาญให้กับคุณพ่อคุณแม่ หรือบางครั้งหากไปนอกบ้านก็อาจไปสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างได้ และแทนที่คุณพ่อคุณแม่จะพูดว่า “ไม่ทุบโต๊ะนะลูก” ให้คุณพ่อคุณแม่เปลี่ยนแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาแทน

“หนูกำลังทำให้โต๊ะเจ็บ แม่เสียใจจัง”

แบบนี้นอกจากจะทำให้ลูกหยุดได้แล้ว ยังเป็นการสอนลูกไปในตัวอีกด้วยค่ะว่า การจะทำอะไรก็ตามควรคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นด้วย ทำให้ลูกมีพัฒนาการการเรียนรู้ด้านอารมณ์ค่ะ

ให้ทางเลือกกับลูก

หากในกรณีที่ลูกเล่นเตะบอลในบ้าน ซึ่งคุณแม่กลัวว่าจะไปทำลายข้าวของเสียหาย แทนที่จะบอกให้ลูกหยุดเล่นทันที ลองพูดกับลูกและให้ทางเลือกกับลูกแบบนี้ดูนะคะ

“ถ้าหนูจะเล่นบอล เล่นได้ค่ะ ถ้าเล่นในบ้าน แม่แนะนำว่าให้หนูเล่นได้แบบกลิ้งที่พื้น แต่ถ้าจะเตะบอลหรือขว้างสูง ๆ หนูต้องเล่นนอกบ้านนะคะ”

การให้ทางเลือกกับลูกจะทำให้ลูกรู้สึกว่าเขาไม่ถูกบังคับ ที่สำคัญ ยังเป็นการฝึกให้ลูกได้ใช้ความคิดและการวิเคราะห์อีกด้วยค่ะ

อธิบายให้ลูกฟังและทำเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น

ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะสั่งห้ามลูกว่าไม่ให้ทำอะไรนั้น ให้คุณพ่อคุณแม่อธิบายให้ลูกฟังก่อนด้วยข้อความที่สั้นและกระชับนะคะ พร้อมกับทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง เช่น หากลูกต้องการเล่นกับแมว ควรบอกให้ลูกลูบหัวแทนการตีหรือจับแมวแรง ๆ พร้อมทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง จะทำให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ค่ะ

บอกเป้าหมายให้ลูกเข้าใจก่อน

เวลาที่ไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า ชั้นที่คุณพ่อคุณแม่ไม่อยากไปมากที่สุด คงหนีไม่พ้นชั้นที่ขางยของเล่น แต่หากวันหนึ่งเราจำเป็นที่จะต้องไปชั้นนั้น เพื่อหาซื้อของใช้เด็ก ของขวัญ หรือของเล่นให้กับเด็กคนอื่น ก่อนออกจากบ้าน ให้คุณพ่อคุณแม่อธิบายให้ลูกเข้าใจก่อนว่า

“วันนี้ที่เราต้องไปซื้อของเล่น ก็เพื่อเอาไปเป็นของขวัญให้เพื่อนหนูนะลูก เพราะหนูมีของเล่นหลายชิ้นแล้ว”

แบบนี้ก็จะทำให้ลูกโปรแกรมตัวเองแล้วว่าวันนี้คุณพ่อคุณแม่จะไม่ได้ซื้อของเล่นให้ ซึ่งเป็นการเลี่ยงคำว่า “ไม่” ด้วยการทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อน

เพราะพัฒนาการลูกมีหลายด้าน ในขณะเดียวกันการเลี้ยงลูกก็มีในหลายมิติ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องหมั่นสังเกตและใส่ใจในสิ่งที่ลูกทำ ผ่านการอบรมเลี้ยงลูกอย่างถูกทาง เพราะการพูดคำว่า “ไม่” จะทำให้ลูกเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่พูดแต่คำว่า “ไม่” อย่างเดียวเช่นกัน กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่เปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิต ถ้าไม่อยากเห็นภาพลูกในมุมนี้ คุณพ่อคุณแม่ต้องปรับเปลี่ยนคำพูดตั้งแต่วันนี้แล้วล่ะค่ะ

อ้างอิง
Redbookmag.com
askdrsears.com

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP