ดุลูก 3 ขวบ อย่างไรให้ได้ผล

การเลี้ยงลูกวัย 1-3 ขวบ
JESSIE MUM

คุณพ่อคุณแม่ทุกคนรักลูก หวังดีกับลูก แต่ด้วยบางครั้งเมื่อลูกทำผิดก็ไม่สามารถที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ จึงใช้อำนาจ ใช้น้ำเสียง รวมไปถึงท่าทางในการดุด่าลูก และทำโทษลูก โดยเฉพาะการดุลูกในวัย 3 ขวบ วันนี้เราจะมาสะท้อนแง่มุมในเรื่องนี้กันค่ะ พร้อมทั้งวิธีดุลูก 3 ขวบอย่างไรให้ได้ผล

ผลเสียของการดุลูก แบบใช้อำนาจ

ลูกเลียบแบบพฤติกรรม

พฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่ส่งผลและมีอิทธิพลต่อลูกมากกว่าการสอนด้วยคำพูดอีกนะคะ เพราะลูกจะซึมซับเอาพฤติกรรมทุกอย่างของคุณพ่อคุณแม่ ยิ่งถ้าเป็นในเรื่องของการดุด่า การใช้อารมณ์ และความรุนแรงกับลูกด้วยแล้ว ลูกจะซึมซับเอาพฤติกรรมดังกล่าวนี้ไปใช้กับคนอื่นเมื่อเขาต้องอยู่ในสถานการณ์เดียวกันหรือใกล้เคียงกัน ลูกจะใช้ความรุนแรงนี้กับผู้ที่อ่อนกว่าและด้อยกว่าเขา

กลายเป็นเด็กขี้กลัว

โดยพื้นฐานของลูกนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเกรงกลัวคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้ว ไม่อยากทำอะไรที่ให้คุณพ่อคุณแม่ต้องโกรธ และดุเขา แต่การที่คุณพ่อคุณแม่แสดงอำนาจ และดุด่าลูกน้อยมากเกินไป จะกลายเป็นการเพิ่มความกลัวให้กับลูกมากเกินไป ทำให้เด็กต้องพยายามหลีหนีจากสถานการณ์นั้น ๆ กลายเป็นเด็กที่หนีปัญหาโดยไม่รู้ตัว

ในขณะที่เด็กบางคนเกิดความกลัวจนลนลาน กลัวจนต้องโกหก กลัวจนไม่อยากไปโรงเรียน กลัวจนต้องปกปิดความผิด กลัวจนต้องขโมย ฯลฯ เด็กเหล่านี้มีโอกาสสูงที่จะไปแสดงอารมร์กับผู้อื่นแบบลับหลัง

มีพัฒนาการล่าช้าหรือบกพร่อง

คุณพ่อคุณแม่ที่ชอบใช้อำนาจกับลูกบ่อย ๆ จะส่งผลให้ลูกกลายเป็นเด็กที่ขี้วิตกกังวล ขี้กลัว ก้าวร้าว รุนแรง ใช้กำลังในการตัดสินใจหรือตัดสินปัญหา ไม่ฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่รู้จักการประนีประนอม ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ ตลอดจนขาดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อตัวเอง

ดุลูก 3 ขวบ อย่างไรให้ได้ผล

ตั้งสติ ไม่ใช้อารมณ์กับลูก

ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่ต้องตั้งสติก่อนค่ะ ต้องหนักแน่น สูดหายใจเข้า-ออกลึก ๆ เพราะถ้าหากเปิดฉากเสียงดังใส่ลูกแล้วล่ะก็จะกลายเป็นว่าลูกก็จะเกิดการต่อต้าน ไม่เชื่อฟังอีก

ปรับใจให้เป็นกลาง

ให้คุณแม่เข้าใจพื้นฐานลูกก่อนค่ะว่า เขายังเด็กเกินกว่าที่จะรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก เพราะเมื่อเราเป็นเด็กเราก็เคยทำผิดมาเหมือนกัน

รับฟังเหตุผลของลูก

เปิดโอกาสให้ลูกได้พูด ได้อธิบายเหตุผลว่าเพราะอะไรหนูถึงทำแบบนั้น สำคัญ การฟังควรฟังอย่างเปิดใจ และฟังให้จบนะคะ คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งเดาตอนจบเอง (ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการเดาที่ถูกต้องก็ตาม)

แม่โน้ต

เพราะการที่เราฟังลูกจนจบนั้น (ถึงแม้ว่าเราจะเดาตอนจบได้ถูก) อีกมุมหนึ่งจะเป็นการสอนลูกด้วยพฤติกรรมของคุณแม่ในเรื่องการฟังให้จบอีกด้วยค่ะ อยากให้ลูกเป็นแบบไหน คุณแม่ควรทำให้ลูกเห็นก่อน

ดุลูกที่ “พฤติกรรม” ไม่ใช่ “ตัวตน” ลูก

เช่น “แม่ไม่ชอบให้ลูกพูดคำหยาบแบบนั้นเลย” ไม่ใช่ “ทำไมเป็นเด็กแบบนี้นะ แย่มากเลยรู้ไหม” เพราะนี่จะหมายถึงว่า สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ชอบก็เป็นเพียงพฤติกรรมที่สามารถแก้ไขได้ ไม่ใช่คุณพ่อคุณแม่ไม่ชอบที่ตัวลูก คุณพ่อคุณแม่ยังรักลูกเหมือนเดิม

ไม่ดุ หรือตำหนิลูกต่อหน้าคนอื่น

เด็กก็อายเป็นค่ะ อย่างที่บอกว่าพื้นฐานเด็ก เขาจะเกรงกลัวคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้ว แต่การที่คุณพ่อคุณแม่ใช้อำนาจดุลูกต่อหน้าคนอื่น สิ่งนี้จะทำให้ลูกอาย และอาจเป็นการเพิ่มความดื้อเงียบให้กับลูกอีกด้วยค่ะ

ถามความคิดเห็นของลูก

เมื่อลูกทำผิด อย่าลืมที่จะตั้งสติก่อนนะคะ แล้วอธิบายลูกด้วยเหตุผลว่าเพราะอะไรครั้งนี้ลูกถึงทำผิด หลังจากนั้นค่อยถามความคิดเห็นลูกว่าคราวหน้าถ้าหนูทำผิดอีก จะให้คุณแม่ลงโทษอย่างไรดี สิ่งนี้จะเป็นการฝึกให้ลูกได้คิดวิเคราะห์ ผลดี ผลเสีย รวมถึงลูกจะมีความรับผิดชอบในการกระทำของตนเองค่ะ

การดุลูกให้ได้ผล ลูกไม่ต่อต้านมีหลายวิธี เพียงแต่เมื่อลูกทำผิด คุณพ่อคุณแม่อย่าเพิ่งรีบดุลูก หรือขึ้นเสียงกับลูกทันที (เพราะยิ่งทำแบบนี้อารมณ์ของคุณพ่อคุณแม่ยิ่งพาไป อารมณ์ยิ่งขึ้น) แต่ควร “ตั้งสติ” ก่อน แรก ๆ อาจจะยังทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ ค่อย ๆ ฝึกกันไป ถ้าอยากให้ลูกเป็นเด็กดีต้องเข้าใจลูกและไม่ใช้อำนาจกับลูกมากไปนะคะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP