5 เทคนิค เลี้ยงลูกให้ฉลาด ที่พ่อแม่อาจไม่รู้มาก่อน

การเลี้ยงลูกวัย 1-3 ขวบ
JESSIE MUM

การปลูกไม้ผลสักต้น ต้องอาศัยระยะเวลากว่าจะได้ชื่นชมและลิ้มรสผลของมัน การเลี้ยงลูกก็เช่นกัน ถ้าคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกเป็นทั้งเด็กดี และเด็กฉลาดก็ต้องทุ่มเททั้งกาย ใจ และเวลาคุณภาพกับเขา วันนี้แม่โน้ตมีเทคนิคดี ๆ ในการเลี้ยงลูกให้ฉลาดมาฝากค่ะ

5 เทคนิคเข้มข้น เลี้ยงลูกให้ฉลาด

สำหรับเทคนิคนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้กับลูกได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 10 ปีนะคะ และที่สำคัญเทคนิคที่แม่โน้ตนำมาแชร์กันในวันนี้ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าทำได้จริง ไปดูกันดีกว่าค่ะมีอะไรบ้าง

ให้ลูกได้เรียนดนตรี

มีการวิจัยชิ้นหนึ่งได้แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งเป็นเด็กนักเรียนที่เล่นดนตรีไปด้วย กับอีกกลุ่มที่เรียนอย่างเดียวไม่ได้มีกิจกรรมอื่น ๆ เสริม ผลจากการวิจัยระบุว่า เด็กนักเรียนกลุ่มที่เล่นดนตรีนั้นสามารถผ่านการสอบและทำคะแนนได้เต็ม ส่วนอีกกลุ่มนั้นนอกจากจะสอบตกแล้ว และยังมีผลการเรียนรวมที่ต่ำกว่ามาตรฐานอีกด้วย

แม่โน้ต

จากประสบการณ์แม่โน้ตเองนะคะ แม่โน้ตก็เล่นดนตรีมาก่อน แต่มาเลิกเล่นตอนเรียนมหาวิทยาลัย เกรดเทอมแรกที่มหาวิทยาลัยอยู่ที่ 3.82 ส่วนตอนจบอยู่ที่ 3.07 ค่ะ ถามว่ามีคนที่เรียนดีกว่ามั้ย? มีค่ะ แต่ว่าจากที่แม่โน้ตเล่นดนตรีไปด้วยเรียนไปด้วย มันส่งผลในเรื่อง “มีสมาธิ” ซึ่งตรงนี้แหละค่ะที่เป็นผลโดยตรงต่อการเรียน

ไม่ควรอ่านนิทานให้ลูกฟัง แต่ควรอ่านไปพร้อม ๆ กัน

ข้อนี้จะใช้กับลูก ๆ ที่เริ่มฝึกพูด ฝึกอ่านไปจนถึงเด็กที่สื่อสารได้เริ่มคล่อง การที่คุณแม่อ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังก็เป็นเรื่องดีค่ะ แต่จะดีกว่าหากให้ลูกได้มีส่วนร่วมในเรื่องราวไปด้วย ไม่ใช่แค่เพียงให้ลูกนั่งจ้องแต่หนังสืออย่างเดียว ถึงแม้ว่าลูกจะคิดตามได้ทัน แต่ลูกก็จะไม่ได้ฝึกทักษะในการพูดและการออกเสียง

การอ่านไปพร้อมกันแม้จะใช้เวลานานกว่าปกติสักหน่อย แต่ก็เพื่อเป็นการฝึกให้ลูกได้มีทักษะด้านต่าง ๆ เพิ่มขึ้นนะคะ

วินัยมีค่ามากกว่าความฉลาดทางปัญญา (IQ)

ต้องยอมรับว่าเด็กบางคนมีความฉลาดตั้งแต่เกิด เรียกว่ามีความฉลาดปัญญาที่ดี (IQ) แต่นักวิจัยพบว่า การเป็นเด็กที่มีความฉลาดทางปัญญาแต่หากขาดวินัยในตัวเองแล้ว ก็สามารถบ่งบอกอนาคตของเด็กคนนั้นได้เช่นกันว่าเขาอาจจะฉลาดน้อยลง เมื่อเทียบเด็กที่มีวินัยในตัวเอง

ยกตัวอย่าง

เด็กชาย ก เป็นเด็กฉลาดมาก เด็กชาย ข เป็นเด็กที่เรียนได้ดีในระดับกลาง ๆ

เมื่อใกล้สอบ เด็กชาย ก ย่ามใจว่าตัวเองรู้หมดแล้ว จำได้หมดที่คุณครูสอนไป จึงไม่อ่านหนังสือ ในขณะที่เด็กชาย ข ตั้งปณิธานว่ากลับจากโรงเรียน อาบน้ำ กินข้าวเย็นแล้ว จะอ่านหนังสือทวนสักหน่อยวันละ 1 บท

ซึ่งผลการสอบออกมาเด็กชาย ก แม้ไม่ได้สอบตก แต่เด็กชาย ข มีผลการเรียนที่ดีกว่า เป็นต้น

ให้โอกาสลูกได้เรียนรู้เอง

เรื่องนี้จริงค่ะ จริงยังไง คุณพ่อคุณแม่ลองคิดย้อนไปพร้อมกันนะคะ มีเรื่องอะไรบ้างคะที่คุณพ่อคุณแม่พูดแล้ว เตือนแล้ว แต่ลูกก็ยังอยากที่จะเรียนรู้เอง? ….เยอะใช่ไหมคะ ซึ่งจริงก็ถูกแล้วค่ะ เราควรปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้เอง เพราะต่อคุณพ่อคุณแม่พูด หรือคนอื่นพูดก็ตาม ลูกจะไม่เข้าใจและจดจำได้เท่าเจอกับตัวเอง ดังนั้น เปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้เอง และที่สำคัญ หากลูกผิดพลาดมา เราไม่ควรซ้ำเติมลูกเด็ดขาด แต่ควรให้กำลังใจเขา ให้ความเข้าใจกับเขาจะดีที่สุดค่ะ

การใส่ใจเป็นสิ่งที่ดี ถ้าถูกเวลา

ด้วยพื้นฐานของความรักลูก ต้องการให้ลูกมีความสุข มีสุขภาพที่แข็งแรง คุณพ่อคุณแม่จึงเลือกสรรสิ่งต่าง ๆ ที่คิดว่าดีที่สุดให้ลูกตลอดเวลา

ยกตัวอย่าง เช่น

มื้อเช้าลูกต้องกินอาหารเช้า กินให้ครบ 5 หมู่ ระหว่างมื้อห้ามกินขนมขบเคี้ยว ห้ามกินช็อกโกแลต หรือน้ำอัดลม เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ พอตกเย็นอาหารที่กินควรมีคาร์โบไฮเดรตที่น้อย เน้นผัก และผลไม้เยอะ ๆ

ซึ่งความจริงแล้วการให้ลูกได้ลองกินขนม ลูกอม หรือน้ำอัดลมบ้างก็เป็นเรื่องดี เพราเหล่านี้จะทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งถ้าสิ่งไหนที่ลูกกินไปแล้วรู้สึกไม่ดีต่อร่างกายให้คุณแม่กลับไปในข้อข้างต้นที่กล่าวมาค่ะ…

เรื่องของความฉลาด แม่โน้ตมองอย่างนี้ค่ะว่า ความฉลาดแบ่งออกเป็น 2 เรื่องใหญ่ ๆ คือ ฉลาดด้านการเรียน กับฉลาดในการใช้ชีวิต บางคนเรียนเก่งมาก แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต ในขณะที่บางคนเรียนไม่เก่งเลย เป็นเด็กหลังห้องแต่ตอนนี้ได้เป็นเจ้าของกิจการที่แม้ไม่ใหญ่แต่ก็มีศักยภาพในการหาลูกค้า และเปิดบริษัท ดังนั้น ถ้าคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกเป็นเด็กฉลาดทั้งสองด้าน ลองแบ่งเวลาคุณภาพให้กับลูก และนำเทคนิคข้างต้นไปใช้กันดูนะคะ

อ้างอิง time.com

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP