“ฉลาด เก่ง เป็นคนดีมีทั้งไอคิวและอีคิวที่สูง” มีพ่อแม่คนไหนไม่อยากให้ลูกมีคุณสมบัติเช่นนี้บ้างคะ? คงไม่มีใช่มั้ย? แต่…กว่าเด็กคนหนึ่งจะเติบโตมาได้จนมีคุณสมบัติที่ครบอย่างนี้ สถาบันที่มีความสำคัญในการปลูกฝังเรื่องเหล่านี้ก็คงไม่จะเป็นสถาบันไหนไปไม่ได้นอกจาก “สถาบันครอบครัว” นั่นเอง
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้กล่าวไว้ว่า
“การที่จะพัฒนาเด็กให้เติบโตเป็นคนที่สมบูรณ์พร้อม มีความฉลาดทั้งไอคิวและอีคิว ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ และมีชีวิตที่เป็นสุขนั้น มาจากการเลี้ยงดูที่ดีของพ่อแม่เป็นหลัก การให้ความรักดูแลเอาใจใส่ การใช้เวลาร่วมกัน สามารถเสริมสร้างสายใยความผูกพันในครอบครัว จะทำให้เกิดความใกล้ชิดกันระหว่างพ่อแม่และลูก”
โดยวิธีที่พ่อแม่จะช่วยให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีและฉลาดมีด้วยกันทั้งหมด 7 วิธี ดังนี้
วิธีพัฒนาความฉลาดให้ลูก
ฉลาดคิด
ฝึกให้เด็กคิดในแง่บวก คิดในทางที่สร้างสรรค์ มีความเข้าใจในอารมณ์ของตนเอง สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ นอกจากนี้ ยังควรฝึกให้ลูกได้คิดในหลายๆ แง่มุม มองเรื่องราวต่างๆไ ในหลายๆ ด้าน หลากหลายวิธี และที่สำคัญ ให้ลูกได้เรียนรู้และรับรู้ถึงผลที่จะตามมาในแต่ละแง่มุม
พ่อแม่ลองตั้งคำถามปลายเปิดกับลูกบ่อยๆ ไม่ว่าเค้าจะตอบได้ ตอบไม่ได้ หรือตอบผิด ก็ไม่เป็นไรนะคะ พ่อแม่ค่อยอธิบายให้เค้าฟังในสิ่งที่ถูกต้องได้ค่ะ
ฉลาดสื่อสาร
การพูด
ฝึกให้ลูกสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฝึกให้เด็กคิดและเลือกที่จะพูดแต่สิ่งที่ดีๆ มีประโยชน์ มีความปรารถนาดี และเจตนากับผู้อื่น พยายามเลี่ยงคำพูดในทางที่ไม่สร้างสรรค์
การฟัง
ควรปลูกฝังการเป็นผู้ฟังที่ดีให้กับลูก เพราะ “การฟัง” เป็นอีกหนึ่งประตูสู่ความฉลาด เพราะเด็กจะได้รับข่าวสารใหม่ๆ อยู่เสมอ
ฉลาดทำ
ฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบ โดยเริ่มจากงานเล็กๆ น้อยๆ ภายในบ้าน อาทิ การมอบหมายงานบ้านให้ทำ ลูกจะได้เรียนรู้การวางแผนว่าควรทำอะไรก่อน-หลัง ตั้งเป้าหมายในการทำงานบ้านให้สำเร็จ และเป็นการปลูกฝังความอดทน ขยัน หมั่นเพียร มีวินัย รู้จักควบคุมตนเอง ลูกๆ จะได้เรียนรู้การพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง และเมื่อทำสำเร็จ ลูกจะมีความภูมิใจในตัวเอง พอแม่เองก็พลอยภูมิใจไปด้วย
ฉลาดสัมพันธ์
ฝึกได้ลูกได้เข้าสังคมและสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นผ่านการเล่น ทั้งกับพ่อแม่ กับเพื่อน สิ่งที่ลูกจะได้จากการฝึกในเรื่องนี้ก็คือ
- ลูกจะได้เรียนรู้เรื่องกติกา ได้รับความสนุกจากการเล่น
- การแบ่งปันในสังคม
- การช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
- รู้จักการให้และการรับ ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน
- การให้กำลังใจ การชื่นชมกันและกัน
เหล่านี้จะทำให้ลูกเห็นคุณค่าของการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ที่สำคัญ เมื่อลูกเติบโตไป เค้าจะเข้าสังคมได้ง่ายและรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้ดี
ฉลาดอารมณ์
เมื่อลูกรู้จักและรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเองแล้ว ควรฝึกให้ลูกรู้เท่าทันอารมณ์ของคนอื่นด้วยนะคะ สังเกตคนอื่นและเอาใจเขามาใส่ใจเรา ที่สำคัญ เมื่อรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเองแล้ว ก็ต้องรู้จักวิธีควบคุมอารมณ์ในส่วนนั้นๆ ด้วย เช่น ตอนนี้โกรธอยู่ จะจัดการอารมณ์ของตัวเองอย่างไรดี? หรือเกิดความไม่พอใจกับเรื่องนี้มาก จะมีวิธีควบคุมตนเองได้อย่างไร เป็นต้น
เมื่อลูกได้รับการฝึกที่ดีแล้ว เค้าจะรู้จักการแสดงออกอย่างเหมาะสมกับบุคคล เวลา และสถานที่ค่ะ ฝึกได้ลูกได้เรียนรู้วิธีผ่อนคลายหรือวิธีคลายความโกรธในทางเหมาะสมด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นลูกอาจจะเห็นทางออกที่ไม่เหมาะไม่ควรด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ฉลาดเข้าใจ
เข้าใจตนเอง
เมื่อลูกมีความเข้าใจตนเองแล้ว เค้าจะแสดงความสนใจในสิ่งที่เกิดขึ้นในความรู้สึกนึกคิดตนเอง รับรู้เรื่องราวของตนเองตามความเป็นจริง ลูกจะรู้ว่าตนเองมีความชอบด้านไหน มีความสามารถด้านไหน หรือถนัดด้านไหน
เข้าใจผู้อื่น
ก่อนที่ลูกจะเข้าใจผู้อื่นได้ดีนั้น ต้องเกิดจากการเข้าใจตนเองอย่างลึกซึ้งก่อน สิ่งนี้จะนำไปสู่การเข้าใจผู้อื่นได้อย่างแท้จริง
ฉลาดปรับตัว
การฝึกให้ลูกสามารถปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ มีวิธีจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสมนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะลูกจะสามารถเผชิญกับปัญหาและสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเองอย่างสร้างสรรค์ มีการตัดสินใจที่ดี มีความยืดหยุ่น ลูกจะสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขค่ะ
การสอนลูกต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์คู่กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทฤษฎีหรือวิธีการสอน พ่อ?แม่ต้องทำการบ้านพอสมควรในเรื่องนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่จะช่วยลดความเหนื่อย (พูด) ของพ่อแม่ได้ก็คือ “การเป็นตัวย่างในเรื่องการกระทำให้ลูก” ค่ะ
อ้างอิง hfocus.org