ลูกพูดมาก พูดไม่หยุด เป็นเรื่องปกติหรือเปล่า ควรกังวลไหม?

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ

สำหรับครอบครัวไหนที่มีลูกในวัย 3 – 4 ขวบโดยประมาณ ส่วนใหญ่จะต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ลูกพูดเก่ง พูดไม่หยุด ลูกในวัยนี้สามารถพูดได้ทั้งวันเสียจนคุณพ่อคุณแม่บางคนเริ่มลังเลแล้วที่ลูกพูดมากขนาดนี้ปกติหรือเปล่า หรือมีเรื่องอะไรที่ควรกังวลบ้าง

พัฒนาการด้านการพูด แต่ละช่วงวัย

ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะเป็นกังวลไปมากกว่านี้ โน้ตอยากชวนคุณพ่อคุณแม่มาทำความเข้าใจในเรื่องพัฒนาการด้านพูดของเด็กแต่ละช่วงวัยกันสักนิดหนึ่งก่อนค่ะ

วัย 1.5 ขวบ

วัยนี้มักจะเรียกสิ่งของต่าง ๆ ด้วยคำที่ตัวเองจำได้แบบซ้ำ ๆ เช่น ลูกอาจเห็นแมว แต่ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคือ แมว เขาอาจจะรู้อย่างเดียวว่า “หมา” จึงเรียกแมวว่าหมา เป็นต้น นั่นเป็นเพราะเด็กในวัยนี้ยังมีคำศัพท์ในหัวไม่มากนัก จึงใช้คำศัพท์ตามที่ตัวเองรู้นั่นเอง

วัย 2 ขวบ

วัยนี้เริ่มรู้คำว่า “ใช่ และ ไม่” แล้ว โดยเฉพาะเด็กในวัย 2 – 3 ขวบ เป็นวัยที่ชอบ “ปฏิเสธ” มักจะพูดคำว่า “ไม่” มากกว่า “ใช่” ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าวัยนี้เขาเริ่มรู้จักเรื่องราวรอบตัวมากขึ้น มีคำศัพท์ในหัวมากขึ้น มีความคิดของตัวเองมากขึ้น จึงอยากที่จะทำอะไร ๆ ด้วยตัวเอง ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเสียใจ หรือตกใจไปค่ะ หากวันหนึ่งลูกจะบอกว่า “ไม่ หนูอยากทำเอง”

วัย 3 ขวบ

เป็นวัยแห่งการเรียนรุ้ และช่างจด ช่างจำ สามารถจดจำเรื่องราวต่าง ๆ ได้มากขึ้น ตั้งคำถามเก่ง เพราะเป็นวัยที่ชอบการเรียนรู้ วัยนี้จึงเป็นวัยที่เขาจะนำเอาเรื่องราวต่าง ๆ มาเล่าซ้ำ ๆ และมักจะมีคำถามมากมาย จนต้องเรียกว่า “เจ้าหนูจำไม”

วัย 4 ขวบ

ชอบอวดความสามารถของตัวเอง วัยนี้เป็นวัยที่เริ่มพูดเป็นประโยคได้อย่างสมบูรณ์ เล่าเรื่องต่าง ๆ เป็นเรื่องราวได้มากขึ้น และมักจะชอบพูดอวดตัวเองว่าเขาทำอะไรได้บ้าง อาทิ หนูกินข้าวเอง หนูแต่งตัวได้เอง เป็นต้น

ข้อดี ลูกพูดมาก

จริงอยู่ค่ะ การที่ลูกพูดมาก อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ฟังจนเหนื่อยใจ หูล้าไปหมด แต่เชื่อหรือไม่คะว่าการที่ลูกพูดมากนั้นมีประโยชน์มากทีเดียว

ฝึกทักษะการสื่อสารที่ดี

แม้ว่าในวันนี้ ลูกอาจจะพูดรู้เรื่องบ้าง เรื่องราวขาดตอนไปบ้าง ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะการพูดเท่ากับเป็นการฝึกให้ลูกได้ใช้คำศัพท์ในการสื่อสารแล้วค่ะ ลูกจะได้เรียนรู้ว่าคำไหนที่ใช้ได้อย่างถูกต้อง หรือคำไหนที่ต้องแก้ไข

ฝึกให้ลูกกล้าคิด กล้าพูด

เมื่อลูกมีพื้นฐานในเรื่องการกล้าพูดมาแล้ว สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องค่อย ๆ เกลาลูกในคำศัพท์ต่าง ๆ ความถูกต้องในการพูด และกาลเทศะในการพูด เพื่อเพิ่มความมั่นใจในด้านความคิด และการพูดสื่อสารในอนาคตค่ะ

มีทักษะการเข้าสังคมที่ดี

เพราะเด็กที่พูดเก่งจะมีทักษะที่ดีในการเข้าสังคม เพราะเขาจะชวนคนนั้นคนนี้พูดคุย สนทนาด้วยเสมอ จึงเป็นการสร้างเพื่อนใหม่ ๆ อยู่ตลอด

ทำให้รู้ว่าลูกเป็นเด็กใฝ่รู้

ทำไม?” “เพราะอะไร?” อาจเป็นคำที่คุณพ่อคุณแม่ต้องฟังบ่อย แต่ก็สบายใจได้เลยค่ะ ว่าลูกเป็นเด็กที่ของเรียนรู้แน่นอน

วิธีรับมือ ลูกพูดมาก

ถึงแม้ว่าการที่ลูกพูดมากไม่ได้มีอันตรายหรือมีอะไรที่ต้องกังวล แต่พัฒนาการด้านการพูดอาจหยุดชะงักหากคุณพ่อคุณแม่ดุลูก หรือแสดงความรำคาญ เพราะฉะนั้นจะรับมืออย่างไรเมื่อลูกพูดมาก

ไม่ดุหรือโมโหลูก

ช่วงนี้ลูกอาจจะพูดมากสักหน่อย แต่เชื่อเถอะค่ะว่าโตขึ้น เขาจะพูดน้อยลง ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อย่าไปหงุดหงิดใส่ลูกเลยนะคะ เพราะอาจส่งผลให้ลูกไม่กล้าพูด ไม่กล้าถามอีกเลยก็ได้ค่ะ

ไม่พูดแทรกหรือพูดขัดขณะที่ลูกกำลังพูด

เพราะการขัดระหว่างที่ลูกพูดจะทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งที่เขาพยายามจะเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟังนั้นไม่สำคัญ และอาจจะคิดว่าตัวเขาเองก็ไม่สำคัญได้เช่นกันค่ะ

ตั้งใจฟังอย่างจริงใจ

เข้าใจค่ะว่าบางครั้งคุณพ่อคุณแม่กำลังยุ่ง ลูกก็มาเล่าอะไรรู้ ฟังไม่รู้เรื่องอีก ก็เลยเออออไปอย่างนั้น แต่เห็นว่าลูกเด็กขนาดนี้ เขารับรู้ได้นะคะ

ถามลูกกลับไปบ้าง

คุณพ่อคุณแม่อาจไม่ต้องฟังทั้ง 100% ทั้งเรื่องก็ได้ค่ะ เพียงแค่แบ่งเวลามาฟัง และคิดตามในบางช่วงบ้างก็ได้ แล้วถามลูกกลับไปบ้าง เพื่อเป็นการทำให้ลูกได้รู้ว่าคุณพ่อคุณแม่ใส่ใจเขาอยู่

การที่ลูกพูดมาก พูดเก่ง หรือพูดไม่หยุด สำหรับโน้ตแล้วคือสิ่งที่ดีค่ะ เพราะการพูดทำให้เราเข้าใจลูกมากขึ้น เข้าใจความคิด และความรู้สึกของเขา ซึ่งทำให้เรารู้ว่าอะไรที่ควรฝึกหรือควรสอนให้ลูก สำหรับการที่จะเป็นคนที่ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในอนาคต

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP