ปลูกฝังนิสัยการกินที่ดีให้ลูก ต้องทำอย่างไร?

การเลี้ยงลูกวัย 3-5 ขวบ

เรื่องของ “การกิน” นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใสจและต้องปลูกฝังการกินที่ดีให้ลูกตั้งแต่ยังเล็กค่ะ เพราะปัจจุบันเรายังคงพบว่าเด็กบางคนมีภาวะของโรคอ้วน ในขณะที่บางคนมาภาวะทุพโภชนาการ (ร่างกายผอม ขาดสารอาหาร) จะเริ่มปลูกฝังกันอย่างไร เริ่มอย่างไร ไปติดตามกันค่ะ

ปลูกฝังนิสัยการกินที่ดีให้ลูก

กำหนดตารางกินที่ชัดเจน

คุณพ่อคุณแม่ควรกำหนดตารางในการกินอาหารให้เหมือนกันทุกวัน เพื่อลูกจะได้ฝึกกินอาหารให้เป็นเวลา โดยกำหนดเป็นอาหารหลัก 3 มื้อ และมื้อของว่าง 2 – 3 มื้อ ซึ่งมื้อที่เป็นของว่างนั้นควรเน้นให้เป็นผลไม้จะดีที่สุด

ตักให้พอดี

หรือกินแต่พออิ่ม เพราะส่วนใหญ่ที่เราได้รับการอบรมมาจากผู้ใหญ่ คือ กินข้าวควรกินให้หมดจาน ดังนั้น ถ้าตักข้าวมาในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ลูกต้องถูกบังคับให้กินให้หมด ซึ่งอาจส่งผลให้ลูกกินเกินความต้องการของร่างกาย เสี่ยงต่อโรคอ้วนอีกด้วยนะคะ แนะนำว่าถ้าตักแต่พอดีแล้ว ลูกยังไม่อิ่ม ค่อยตักให้เพิ่มดีกว่าค่ะ

ไม่ดุลูก ไม่บังคับลูก

การบังคับหรือการดุลูกที่เกิดขึ้นนั้นมาได้จากหลายประเด็นค่ะ เช่น ลูกไม่ยอมกินอาหารใหม่ ๆ ลูกกินข้าวไม่หมด ลูกไม่ยอมกินผัก ฯลฯ เหล่านี้ล้วนทำให้ลูกรู้สึกยิ่งไม่อยากลองงสิ่งใหม่ หรือทำให้ลูกกินยากมากขึ้นไปอีก ไม่เป็นผลดีเลย

งดของหวานหากใกล้มื้ออาหาร

จะบอกว่าให้เด็กงดของหวานเลย ก็คงจะดูผิดธรรมชาติไป เพียงแต่คุณพ่อคุณแม่ต้องดูเวลาก่อนที่จะอนุญาติให้ลูกกินของหวาน หากอีกประมาณสัก 30 นาที ใกล้จะถึงเวลาของมื้ออาหารหลักแล้ว แบบนี้ไม่ควรให้ลูกกินของหวานนะคะ เพราะลูกจะยังอิ่มอยู่ อาจทำให้กินข้าวได้น้อยลง

ตามใจลูกบ้าง

เพราะเด็กกับขนมเป็นของคู่กัน เราไม่ควรกีดกันเด็กให้เจอเนื้อคู่ค่ะ 555 ให้ลูกได้กินขนมที่เขาอยากกินบ้าง เพียงแต่ต้องดูปัจจัยเรื่องเวลา และปริมาณควบคู่กันไป

ชวนลูกเข้าครัว

ข้อนี้ลูกชาก็เข้าครัวได้นะคะ ให้เขาเด็ดผักง่าย ๆ หรือตอกไข่ก็ได้ค่ะ เพื่อที่ลูก ๆ จะได้รู้สึกตื่นเต้นกับอาหารที่เขามีส่วนร่วม และอยากกินอาหารที่ตัวเองทำ

ปล่อยให้ลูกหิวบ้าง

เป็นการดีมาก หากลูกวิ่งเล่นมาแล้วจะเริ่มหิวข้าว บางครั้งการปล่อยให้ลูกหิวบ้าง ก็จะช่วยให้เมื่อถึงเวลาอาหาร เขาจะกินได้เยอะค่ะ

ชื่นชมเมื่อลูกกินได้มากขึ้น

ทั้งหมดที่กล่าวมา สิ่งสำคัญอีกอย่างเลยก็คือ หากลูกมีนิสัยการกินที่ดีขึ้น คุณพ่อคุณแม่ก็อย่าลืมชื่นชมลูกแต่พอควรนะคะ เพื่อที่ลูกจะได้มีกำลังใจ

ปิดสิ่งเร้า ระหว่างมื้ออาหาร

สิ่งเร้าที่ว่า ได้แก่ ทีวี แทปเล็ต รวมไปถึงมือถือ คุณพ่อคุณแม่ควรปิดอุปกรณ์เหล่านี้ขณะกินอาหาร เพื่อให้ลูกได้มาสมาธิกับการกินข้าวอย่างเดียว ไม่เหลียวหน้าเหลียวหลัง

แนวทางการแก้ไข ในแต่ละปัญหา

นอกจากวิธีการปลูกฝังนิสัยการกินที่ดีให้ลูกตามที่ได้กล่าวมาแล้ว เรายังมีวิธีการแก้ปัญหาในแต่ละประเด็น ดังนี้

ลูกกินแต่ขนม

ให้คุณแม่งดขนมระหว่างมื้อไปก่อนค่ะ ยกเว้นว่าถ้าลูกอยากกินขนมจริง ๆ ต้องให้ลูกกินข้าวให้หมดก่อน แต่ต้องระวังอย่าให้ช่วงเวลาในการกินขนมใกล้กับมื้ออาหารนะคะ

ลูกอมข้าว ไม่ยอมเคี้ยว

อธิบายให้ลูกฟังว่า ถ้าอมข้าวฟันจะผุ เอาจริง ๆ ลูกไม่ฟังหรอกค่ะ เขายังไม่เข้าใจ แบบนี้คุณแม่ต้องกำหนดเวลาในการกินข้าวเลยค่ะ ว่าห้ามกินเกินกี่นาที เช่น 30 นาที หรือ 40 นาที หากกินไม่หมดคุณแม่จะเก็บจานเป็นต้น

แม่โน้ต

แม่โน้ตเคยเปิดภาพเด็กฟันผุให้น้องมินดู เขาก็ดูค่ะ แต่ก็ไม่เป็นผล ต้องเปลี่ยนไปใช้วิธีจำกัดเวลาแทน น้องมินก็มีวินัยในการกินมากขึ้น

ลูกไม่กินผัก

การฝึกให้ลูกกินผัก คุณแม่ควรเริ่มจากผักที่ไม่มีกลิ่นฉุนก่อน เพื่อให้ลูกได้รับประสบการณ์ในการกินผักที่ดี อาจเลือกเป็นแครอท มันฝรั่ง เป็นต้น หลังจากนั้นค่อย ๆ เริ่มเป็นผักใบเขียว อาจนำไปชุบแป้งทอด หรือหาวิธีปรุงในแนวทางที่ลูกชอบ เขาก็จะเริ่มเปิดใจมากขึ้น

ลูกไม่ลองกินอาหารใหม่ ๆ

อีกหนึ่งปัญหาคลาสสิกของครอบครัว หากลูกปฏิเสธการกินอาหารใหม่ ๆ ให้คุณพ่อคุณแม่อธิบายให้ลูกฟังว่า ถ้าหนูไปเที่ยว แล้วหนูไม่ยอมกินอาหารใหม่ ๆ หนูจะเที่ยวไม่สนุก และหนูจะหิว พร้อมกับหากคุณแม่ทำกับข้าว ก็อย่าเพิ่งท้อค่ะ เพราะลูกอาจจะยังไม่ยอมกินในครั้งแรก ให้เว้นไปสัก 1 สัปดาห์ แล้วค่อยลองใหม่ และไม่แปลกหากลูกจะปฏิเสธมากกว่า 10 – 20 ครั้งกว่าจะกิน

เรื่องการกินของลูกจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือ “การที่คุณพ่อคุณแม่เป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูก” เพราะลูกมักเลียนแบบพฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งบางครั้ง บางอย่าง เรียกได้ว่าไม่ต้องเอ่ยปากสอน ลูกก็ทำตามได้อย่างง่ายดายแล้วล่ะค่ะ

Featured post

โพสต์ที่อยากให้คุณแม่อ่าน

  1. 346 ชื่อจีนความหมายดี ๆ มีให้ลูกสาวและลูกชาย

  2. วิธีสต๊อก นมแม่ และการจัดเรียงให้ประหยัดเนื้อที่ในตู้เย็น

  3. 10 อาหารว่างคนท้อง และลูกน้อยในครรภ์

  4. หน้า 7 หลัง 7 คืออะไร? นับยังไง ไม่ท้องจริงหรือ

  5. 12 กลุ่มดาวจักรราศี มีอะไรบ้าง พร้อมเลขมงคลปี 2564

  6. 10 นิทานอีสป กับ 10 หนังสือนิทาน 2 ภาษา ปลูกฝังเรื่องราวดี ๆ สอนใจเด็ก ๆ

  7. ความฉลาด 11 ด้าน หรือ 11Q (11 Quotients) ที่เด็กยุคใหม่ควรมี

  8. 14 นิทานพื้นบ้านของไทย สอนใจเด็กได้ดี

หมวดหมู่โพสต์

บทความล่าสุด

  1. เช็คลิสต์ “ของเตรียมคลอด” “ของใช้เด็ก” “ของใช้หลังคลอด” เพื่อใช้หลังคลอดที่จำเป็น

  2. 8 อาหารที่แม่ให้นมห้ามทาน

  3. แนะวิธีเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่อย่างถูกวิธี

  4. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  5. White Noise เสียงคลื่นความถี่ที่กล่อมลูกให้หลับฝันดี เพิ่มสมาธิได้อีกด้วย

รีวิวผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก

  1. รีวิว นมกล่อง UHT สำหรับเด็ก 10 ยี่ห้อ เปรียบเทียบกันตัวต่อตัว ยี่ห้อไหนดี พร้อมแนะวิธีการเลือกนมกล่องให้ลูก

  2. เปรียบเทียบนมผงสูตร 1 ในท้องตลาด สารอาหารที่น่าสนใจ

  3. 4 แปรงสีฟันเด็กยุคใหม่ แบรนด์ไหนใช้ดี เทียบแบรนด์ต่อแบรนด์

  4. รีวิวเปรียบเทียบชัดๆ ล้างจมูกให้ลูกด้วย Hashi Plus VS ไซริงค์

  5. รีวิว แชมพูสบู่เหลว Head to toe 5 แบรนด์ เทียบกันแบรนด์ต่อแบรนด์

  6. รีวิว นมผง สำหรับลูกน้อย 11 ยี่ห้อ ละเอียดยิบ ปี 2566 พร้อมหลักการเลือกซื้อนมผงให้ลูกน้อย

  7. 12 คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี 2023 ปลอดภัย คุ้มค่า คุ้มราคา

  8. 10 แป้งเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2023 ปกป้อง อ่อนโยนต่อผิวลูก

  9. 10 เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ใช้งานง่าย ปั๊มเกลี้ยงเต้า

  10. 10 เบบี้โลชั่น ยี่ห้อไหนใช้ดี 2023 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูกได้ดั่งใจแม่

ท่องเที่ยวกับครอบครัว

  1. 5 ที่เที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ 2566 อิน ไม่มีเอ้าท์

  2. 5 พิกัดเช็คอิน ที่เที่ยวโคราช เมืองย่าโม

  3. 6 ที่เที่ยวเชียงใหม่ สำหรับครอบครัว ลูกแฮปปี้ พ่อแม่ดี๊ด๊า

  4. 5 พิกัด พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์การเรียนรู้

  5. 8 ที่เที่ยวครอบครัว หน้าหนาว ที่ไม่ควรพลาด

  6. 6 สถานที่พาลูกเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติ เสริมสร้างพัฒนาการ

TOP